ด้วยขนาดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงมีอัตราการเติบโตสูง แถมการแข่งขันยังร้อนแรง ทำให้ประเทศไทย กลายเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย หนึ่งในนั้นก็มี Polestar ดาวเหรือพลังไฟฟ้า ที่เตรียม เข้ามาขายไทย

Polestar

Polestar ชื่อนี้อาจยังไม่คุ้นหูชาวไทยส่วนใหญ่มากนัก แต่หากคุณคือคนที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า ก็คงจะพอทราบกันดีว่านี่คือแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า แต่เดิมเคยเป็นทีมแข่งระดับแถวหน้าของยุโรป ด้วยรถยนต์ วอลโว่

ภายหลังทาง Volvo ได้ตัดสินใจเทคโอเวอร์ และปรับให้พวกเขากลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2017 โดยที่ทางแบรนด์สวีเดนเอง ก็มี Geely บริษัทแม่ของตนเองอีกทีหนุนหลังในโปรเจ็กท์นี้อยู่

ในช่วงปีที่ผ่านมา เราจะได้เห็นข่าวคราวที่ระบุว่า Volvo ค่อยๆให้ความสำคัญกับแบรนด์น้อยลง จนถึงขั้นค่อยๆทยอยขายหุ้น เพื่อลดสัดส่วนความเกี่ยวข้องของตนเองกับบริษัทอยู่เรื่อยๆ (แต่ก็เป็นการขายหุ้นให้กับบริษัทแม่ของตนเองอีกทีอยู่ดี) รวมถึงนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นในปี 2022 ราคาหุ้นของแบรนด์ Polestar ยังมีมูลค่าที่ลดลงมากถึง 90% ในปัจจุบัน แถมเมื่อสัปดาห์ก่อนราคาหุ้นยังตกลงต่ำสุดเป็นประวัติกาลด้วยราคา 70 เซ็นต์ หรือ 0.44 บาท ต่อหุ้นอีก

แต่เพื่อให้เป้าหมายการขายรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง ให้ได้ 155,000 – 165,000 คัน ในปี 2025 สำเร็จลุล่วง จากที่สามารถทำยออดขายรถไปได้ 54,600 คัน ในปี 2023 (และเพื่อเรียกราคาหุ้นของตนเองให้รอดพ้นจากวิกฤต)

ทางค่ายจึงได้มีการแถลงข่าวว่าพวกเขาเตรียมขยายฐานการตลาดของแบรนด์ตนเองไปยังอีก 7 ประเทศทั่วโลก ในปี 2025 ซึ่งประกอบไปด้วย ฝรั่งเศส, เช็กเกีย, ฮังการี, สโลวาเกีย, โปแลนด์, บราซิล, ท้ายสุด รวมถึง ประเทศไทย

นาย Thomas Ingenlath ประธานบริหารของ Polestar ระบุว่า จาก 7 ประเทศที่ตนตั้งเป้าไว้ ฝรั่งเศส ถือเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งเนื่องจากในตอนนี้ประเทศดังกล่าวมีตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปโดยเป็นรองแค่เยอรมันเท่านั้น

ส่วนรูปแบบการเข้าไปทำตลาดในแต่ละประเทศ โดยหลักแล้วก็จะไม่ได้เป็นการที่ทางบริษัทแม่เข้าไปลุยตลาดเองโดยตรง แต่จะอาศัยการจับมือกับเหล่าพาร์ทเนอร์ หรือบริษัทคู่ค้า ที่จะรับหน้าที่เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือ Distributor ที่จะเป็นผู้บริหารตลาดร่วมกับตัวแทนจำหน่าย หรือ Dealer อีกที ซึ่งโมเดลการตลาดลักษณะนี้ในประเทศไทย ก็จะคล้ายกับ BYD ที่ดูแลการตลาดโดย Reve Automotive นั่นเอง

ทั้งนี้ เนื่องจากในปี 2024 ทางค่ายยังมีนโยบายที่จะปรับแผนการทำตลาดของเหล่าดีลเลอร์ในยุโรปใหม่ โดยการเปลี่ยนให้ลูกค้า ต้องซื้อรถผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น เพื่อคุมราคารถให้อยู่ในเรทเท่ากันทั้งประเทศ ตัดปัญหาการโดนดีลเลอร์โก่งราคา แต่ดีลเลอร์เหล่านั้น จะยังคงมีอยู่ เพื่อให้บริการหลังการขายกับลูกค้า ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจว่าทาง Polestar จะนำแผนการขายลักษณะนี้มาใช้กับอีก 7 ประเทศ ที่ตนจะบุกตลาดในปีหน้าด้วยหรือไม่ ?

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: