ในบรรดารถยนต์ที่ถือว่าเป็นรถที่ผมชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นมาจนถึงวันนี้ ในเงาของความเป็นคนทดสอบรถมากมาย BMW Series 3 ถือเป็นรถที่ติดตามข่าวสารอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งล่าสุดรุ่นใหม่มาเปิดตัวให้เลือก ทั้ง BMW 320d Sport และ BMW 330i M Sport
สาเหตุหนึ่งมาจาก มันเป็นรถคันแรกที่คุณแม่ซื้อให้ขับหลังเรียนจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต การมีรถเป็นของตัวเองมีอิสระจะไปไหนก็ได้ ไม่ต้องมาแย่งรถกันใช้ เจ้า BMW Series 3 รหัสตัวถัง E36 กลายเป็นความประทับใจแรกของผมมันพิเศษตรงเป็นรถรุ่นเกียร์ธรรมดาเสียด้วย รถคันนี้มีความหลังหลายๆ อย่าง จนเป็นเพื่อนคู่ใจ ทั้งพาซิ่ง พาเที่ยว ทุกวันนี้มันยังอยู่ในโรงจอดรถที่บ้าน ในฐานะรถซิ่งผลงานสมัยวัยรุ่นบ้ารถ
ยุคสมัยเปลี่ยนไป 2019 BMW Series 3 ได้รับการปรับปรุงพัฒนาขึ้นตามลำดับ มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก การพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น ส่งให้วันนี้เจ้ารหัส 3 มีความหรูหราทันสมัยมากขึ้นตามลำดับ แถมบริบทรถหรูวันนี้ยังเปลี่ยนไป เมื่อประกอบกับการเป็นรถที่ขายดีที่สุดในแบรนด์เมืองบาเรี่ยน เฉลี่ยปีละ 4 แสนคัน หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของ BMW ทั่วโลก ยิ่งทวีความสำคัญในการพัฒนารถรุ่นนี้ให้เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง ที่ตามมาหายใจลดต้นคอ
อะไรเป็นจุดเด่นที่ทำให้ BMW รุ่นนี้อยู่ในใจคนทั่วโลกมาเสมอ … ในฐานะคนหนึ่งที่เคยมีโอกาสครอบครองรถคันนี้ คำตอบอยู่ที่คุณลักษณะในการขับขี่ จิตวิญญาณความสปอร์ต และในโฉมที่ 7 ทาง BMW ตั้งเป้าก้าวกระโดดด้วยโครงสร้างใหม่ จนทางเยอรมันกล้าใช้คำนิยามสั้นๆ ว่า “Ultimate Sport Sedan” เมื่อครั้นเผยโฉมในงาน ปารีส มอเตอร์โชว์ 2018
ตัวรถ BMW Series 3 เจนเนอร์เรชั่นที่ 7 รหัส G20 เปลี่ยนแปลงจากรถรุ่นเดิมรหัส F30 พอสมควร ด้วยขนาดมิติตัวถังยาว 4,709 มม. (+76) กว้าง 1,827 มม. (+16มม.) สูง 1,442 มม. (+1 มม.) และ มีระยะฐานล้อ 2,851 มม. (+41มม.)
ในแง่การออกแบบเห็นได้ชัด ตั้งแต่เตะเท้าชมรถก่อนทดลองขับ มันดูปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น ยังคงกระจังหน้าไตคู่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนมีสาวกแอบแซวว่าจะใหญ่ขึ้นไปตลอดอย่างนี้เลยหรือ
ไฟหน้าออกแบบมาใหม่ได้ดูลุคหรูคมคายความสปอร์ตให้ไฟ Daytime Running Light ส่องสว่างด้วยไฟ LED ท้ายรถมาพร้อมไฟท้าย LED ให้ท่อไอเสียคู่ เพิ่มลุคสปอร์ต บางมุมแอบทำให้นึกถึง Lexus ติดตั้งล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว พร้อมสูตรยางไม่มีแบน Runflat
รุ่น 330i แตกต่างจาก 320d สักหน่อยด้วยไฟหน้าส่องสว่างขณะเข้าโค้ง มีไฟตัดหมอก LED ประตูท้ายเปิดด้วยไฟฟ้า มันมาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamic ทั้งคัน แถมล้อแม็กหน้า-หลัง ขนาดไม่เท่ากัน ให้ขนาด 7.5 นิ้ว มาพร้อมยาง 225/45/R18 ทางด้านหน้า ด้านหลังให้ขนาด 8.5 นิ้ว จัดคู่ยาง 255/40/R18
ความวิเศษของการวิศวกรรมภายใต้โครงสร้างใหม่ CLAR แม้รถจะใหญ่ขึ้นแทบทุกมิติ มันกลับมีน้ำหนักเบาลง 55 กิโลกรัม นั่นยังไม่นับการใส่รายละเอียดกระจายน้ำหนัก หน้า-หลังในอัตรา 50/50 ลดจุดศูนย์ถ่วงลงเพื่อความสามารถในการขับขี่มากขึ้น เพิ่มความแข็งแกร่งเชิงโครงสร้าง รวมถึงยังใช้วิชาลมปราณขั้นสูงด้วยระบบ Active Air Flap สามารถปิดการไหลเวียนของลมที่กระจังหน้าไตคู่สร้างม่านลม ช่วงลดการเสียดทานอากาศจนต่ำถึง 0.23 cda ในรุ่น 320 d และ 0.24 cda ในรุ่น 330i
ตัวรถที่ขายในบ้านเราปัจจุบัน เป็นรถนำเข้าจากโรงงานประเทศเยอรมัน ทาง BMW ประเทศไทย วางขาย 2 รุ่น คือ 320d และ 330i มันแตกต่างราวกับสิงเหนือเสือใต้ จับลูกค้าต่างกัน
BMW 320d – เน้นตอบกลุ่มลูกค้าทั่วไป ในสไตล์รถหรูขับดีเน้นความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียงเทอร์โบชาร์จ มัลติสเตจ ขนาด 2.0 ลิตร (ขนาดกระบอกสูบจริง 1995 ซีซี) ให้กำลัง สูงสุด 190 แรงม้า สูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที พกแรงบิด 400 นิวตันเมตร ต่อเนื่องตั้งแต่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งลงเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ตามอัตราประหยัดทดสอบโดยหน่วยงานรัฐบาลไทย หรือ Eco Sticker ให้อัตราประหยัดระดับรถอีโค่คาร์มีอาย 21.7 ก.ม./ลิตร และปล่อยไอเสีย Co2 ต่ำเพียง 122 กรัม/กิโลเมตร
กลับกัน BMW 330i เจาะกลุ่มผู้บริหารขาซิ่งต้องการรถสมรรถนะสูงตอบการขับขี่ เน้นจับกลุ่มลูกค้าต้องการรถสปอร์ต แต่ก็ยังต้องการรถใช้งาน มันมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.0 ลิตร (ขนาดกระบอกสูบจริง 1998 ซีซี) ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า สูงสุดที่ 5,000- 6,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิด 400 นิวตันเมตรเท่ากัน แต่ต่อเนื่องยาวกว่า ตั้งแต่ 1,550 -4,400 รอบต่อนาที ใช้ชุดเกียร์ออโต้ 8 สปีด Sport Steptronic มันซดน้ำมันกว่าสักหน่อย ตามข้อมูล Eco Sticker ได้เพียง 16.1 ก.ม./ลิตร เท่านั้น
เมื่อก้าวย่างขึ้นไปในห้องโดยสาร เบาะนั่ง BMW Series 3 ใหม่ ออกแบบมาให้มีความสปอร์ต ทั้ง 2 รุ่น แถมพก หน่วยความจำท่านั่งฝั่งคนขับ เผื่อต้องสลับขับกับคนที่บ้านก็ไม่มีปัญหา ชุดเบาะหุ้มหนัง Vernasca ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทางด้วยไฟฟ้า มีไฟ Ambient light ในห้องโดยสาร รวมถึงฟังชั่นเก็บของใต้เบาะหน้า
เบาะหลังสามารถปรับพับได้ในอัตรา 40/20/40 เผื่อใครเป็นคนชอบทำกิจกรรมวันว่างอย่างขนจักรยานไปปั่นเลนฟ้าอย่างผม อานิสงค์จากการปรับยื่นระยะฐานล้อ ตลอดจนความยาวของตัวรถเพิ่มขึ้น ทำให้การโดยสารตอนหลังดีขึ้น อย่างน้อยที่สุดรู้สึกได้ว่าลักษณะท่านั่งดีกว่ารุ่นเดิม จากที่ลองนั่งเพียงระหว่างการทดลองขับเล็กน้อย
ด้วยความเกิดมาเป็นรถบ้านๆ 320d เป็นรถที่จัดออพชั่นไม่เน้นความหวือหวา เรือนไมล์ดูคุ้นหน้าตา ทาง BMW เรียกว่า BMW Live Cockpit plus แสดงผลเป็นลักษณะเดิมเหมือนเข็มไมล์ ดูเรียบร้อยสะอาดตา พวงมาลัยเป็นทรงสปอร์ตปกติหุ้มหนัง และการตบแต่งคอนโซลหน้าอลูมิเนียม Mesh Effect
กลับกัน 330i ให้คอคพิทมาตรวัด สตาร์ทเครื่องขึ้นมาดูแล้วว้าว! มาก BMW Live Cockpit Professional ดูสปอร์ต ล้ำสมัยกว่ามา ฝั่งขวาเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ , ฝั่งซ้ายบอกความเร็ว ตรงกลางจอข้อมูลสามารถให้ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นได้ อาทิ ระบบนำทาง พวงมาลัยเป็นทรง M sport ของประจำเฉพาะรุ่น ลายอลูมิเนียมดูเคร่งขรึมกว่า ของเล่นแถมมาประจำรุ่นนี้อีกอย่างคือที่ชาร์จมือถือไร้สาย เหมาะมากกับคนชีวิตยุ่งและต้องติดต่องานกันเป็นประจำ รวมถึงมีระบบช่วย Reversing Assistant ช่วยถอยพร้อมกล้องมองหลัง ใช้งานได้เมื่อความเร็วต่ำ 35 ก.ม.ช.ม .และถอยด้วยความเร็วไม่เกิน 7 ก.ม./ช.ม.
ตรงคอนโซลกลางทั้งคู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะการจัดวางปุ่มสตาร์ท โหมดการขับขี่ เบรกมือไฟฟ้า หรือปุ่มควบคุมเครื่องเสียง รุ่น 330i เหนือว่าเล็กน้อยด้วยระบบเครื่องเสียง Harman Kardon จากโรงงาน ผมก็ยังไม่มีโอกาสลองฟังเครื่องเสียงว่าดีมากขนาดไหน
การขับขี่วันนี้ทาง BMW ใช้สนามปทุมธานี สปีดเวย์ เป็นฐานที่มั่นหลัก ให้เราแบ่งกันขับ 2 สถานีสำคัญ คือ การขับหวดให้ยับในสนามตามธรรมเนียมปฏิบัติ งวดนี้พิเศษขึ้นด้วยการพาเราออกไปขับขี่บนถนนใกล้ๆ ในระยะทางต่อมือขับประมาณ 20-30 ก.ม.
อย่างแรกที่ต้องเรียนตามตรงเลยว่า ด้วยข้อจำกัดของการขับทดสอบกลุ่ม ต้องแลกกันขับกับพื่สื่ออีกท่าน ประกอบระยะทางอันแสนสั้น และการเวียนเทียนนักข่าวกว่า 40 ชีวิต ทดสอบรถในแต่ละสถานี โดยเฉพาะการขับนอกเมือง จึงไม่มีทางเลยที่เราจะพูดถึงเรื่องอัตราประหยัดของ BMW Series 3… จากครั้งนี้
BMW 320d Sport
ราคาจำหน่าย: 2,959,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
เริ่มกันที่รุ่นเริ่มต้นเวอร์ชั่นบ้านๆ สำหรับคนมองหา ซีรี่ย์ 3 ใหม่ BMW 320d เป็นทางเลือกแรกสำหรับคนต้องการรถยุโรปเน้นประหยัด ต้องการรถขับดีไว้ใจได้
แม้ว่าออพชั่นจะไม่หวือหวามากมายนัก แต่ BMW 320d มีความคารมคมคายในการขับขี่ไม่น้อย ตอนแรกที่ลองจับในสนามเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน กำลัง 190 ม้า รู้สึกได้ถึงความอืดอาด ถึงจะมีกำลังแรงบิด 400 นิวตันเมตรเท่ากัน หากด้วยการให้แรงบิดสูงสุดช่วงสั้นกว่า และ กำลังเครื่องน้อยกว่า ยิ่งมีโอกาสขับนำหน้า 330i จะรู้สึกว่า รถคันนี้ไม่ได้แรงอย่างที่คิด และรู้สึกไม่ถูกชะตากับมัน
ความจริงของชีวิตมักไม่เป็นแบบที่เราต้องการนัก เมื่อขับออกจากสนามไปบนเส้นทางหลวง มันกลับเป็นมิตรแท้ยามเดินทางมากกว่าในความรู้สึกแวบแรกเมื่อขับในสนาม
กำลังแรงบิด 400 นิวตันเมตร เหลือเฟือพอจะแซงรถช้าชิดขวา หรือ รถสิบล้อที่วิ่งเป็นขบวนชวนน่าเบื่อได้อย่างสบาย ถ้ามีเพื่อนมาขอทักทาย ท้าซิ่งก็พร้อมเสมอด้วยอัตราเร่ง 80-120 ก.ม/ช.ม. ในเวลา 6.0 วินาที และตามการเคลมของ BMW สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 240 ก.ม./ช.ม. เลยทีเดียว มันมากกว่ารถบ้านๆ จากแบรนด์ญี่ปุ่นหลายคัน ที่ต้องยกธงขาวเมื่อผ่านความเร็ว 200 ก.ม./ช.ม. ถึงจะบอกว่าแต่งเต็มจูนกล่องมาก็เถอะ ยังยากที่จะมาไล่กวดคุณอยู่ดี (ยกเว้นพวกรถสปอร์ตนะ)
ด้านการควบคุมและกันสะเทือนจากถนน BMW 320d จัดเป็นประเภทรถขับสบายไม่ใช่รถซิ่ง ระบบช่วงล่างทางด้านหน้า Double joint Spring Strut พร้อมชิ้นส่วนอลูมิเนียม และ ด้านหลังแบบ Five Link เซทมาลงตัวเน้นสุขุมนั่งสบาย อาการช่วงล่างออกมาในทางแน่นหนึบ เหมาะกับการโดยสารเป็นที่สุด
มันเป็นรถที่ศรีภรรยา หรือ พ่อตาแม่ยายไม่มีทางบ่นคุณเมื่อขับรถเร็ว (ถ้าเขาไม่เห็นตัวเลขความเร็วนะ) ช่วงเส้นทางไม่สมประกอบเช่น คอสะพาน หรือ ทางขุรขระปะถนน เก็บอาการได้ดีไม่ยวบยาบ จนรู้สึกไม่มั่นต้องผ่อนความเร็ว
หากคิดเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes Benz C220d ผมเรียนตามตรงว่า ค่ายตราดาวสร้างรถที่นั่งสบายกว่า ในภาพรวม แต่ถ้าเน้นรถขับดีมั่นใจ คุณขับเองมากกว่านั่งโดยสาร BMW 320d อาจจะเป็นคำตอบมากกว่า
BMW 330i M Sport
ราคาจำหน่าย: 3,359,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
พื้นฐานเดียวกัน เครื่องยนต์ต่างกัน ทำให้ BMW 330i MSport เหมือนเป็นหนังคนละม้วน เมื่อแลกกับค่าตัวที่เพิ่มขึ้น 4 แสนบาท คุณได้รถสปอร์ตในคราบรถบ้าน ซื้อแล้วเมียไม่ด่า ตอบโจทย์ทั้งคุณและคนรอบตัวได้พร้อมกัน
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 258 แรงม้า แม้แค่เพียง 68 แรงม้า ที่เพิ่มขึ้น จากรุ่นดีเซล แต่การให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตน ยาวๆ ตั้งแต่ 1,550-4,400 รอบต่อนาที เปลี่ยนภาพลักษณ์รถบ้านใช้งานทั่วไป กลายเป็นรถสปอร์ตซีดาน ขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ก้าวขึ้น BMW 330i สัมผัสชัดเจนถึงความสปอร์ต โดยเฉพาะค๊อกพิทพิเศษเฉพาะรุ่นถูกใจวัยรุ่นมากมายยิ่งนัก เมื่อสตาร์ทเครื่อง สัมผัสได้ถึงซุ่มเสียงหนักแน่นมากกว่าพอสมควร เสียงเครื่อง 4 สูบหวานๆ ปลุกกำหนัดกระหายความเร็ว ราวกับโดนป้ายยาคลั่งอะดรีนาลีน
ผมไม่รอช้าจะเหยียบคันเร่งไปจนสุด 330i พุ่งทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว มันให้ความรู้สึกเดียวกับรถสปอร์ตชั้นนำเครื่อง 2,000 เทอร์โบ อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ของรุ่นนี้ BMW เยอรมันแปะไว้ที่ 5.8 วินาที นั่นเทียบเท่ากับรถสปอร์ตแถวหน้าหลายรุ่น
ขับในไทยตัวเลขอาจดรอปเล็กน้อย จากสภาพอากาศบ้านที่ร้อนตับแตกชนิดวัวตายควายล้ม เจ้าเยอรมันสายแรงก็ยังเป็นรถหรูที่ยังให้ความเร้าใจมาเต็มกระเป๋า มันเป็นรถที่เร่งได้สนุกสนาน จนแม้แต่ความเร็วทางตรงสั้นๆ ในสนาม ยังตอบเรื่องความเร็วได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
งานช่วงล่าง 330i แตกต่างจาก 320d ชัดเจน หน่วยก้านกันสะเทือนพิเศษจาก M sport แข็งกว่ารุ่นดีเซลพอสมควร ยังคงเน้นความหนึบแน่นมั่นใจ แต่ขับความเร็วต่ำ 60-90 ก.ม./ช.ม. เก็บทุกอนูของถนน จนอาจไม่เหมาะกับชีวิตทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ความเร็วนัก
การเซทติ้งลักษณะนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้ความเร็ว ขับทางไกล ผมยอมรับว่า ช่วงล่างแบบนี้ให้ความมั่นใจเวลาขับด้วยความเร็วและยังนั่งสบายพอสมควร ไม่กระด้างกระเทือนจนข้าวกล้างวันอาจย้อนศร หรือนิ่มนวลเกินไป จนเมื่อใช้ความเร็ว และต้องควบคุมรถเข้าโค้ง หรือหักหลบฉุกเฉินแล้วดูไม่มั่นใจ
ส่วนการเข้าโค้งทาง BMW 330i ชงเข้มให้ความสปอร์ตในระดับคนทั่วไป (ไม่ฮาร์ดคอร์ เรื่องความเร็ว) ชื่นชอบ รถคันนี้มาพร้อมฟังชั่นปลายนวมน่าสนใจ ไม่ว่า M Sport electronically-actuated mechanical limited-slip differential ติดตั้งไว้ในตำแหน่งเพลาหลัง , M Sport Brake ขนาดใหญ่กว่ารุ่นปกติ และระบบ Variable Sport Ratio สามารถปรับค่าตามหมุนและความเร็วที่เราใช้ในการควบคุมพวงมาลัย
2-3 สิ่งที่พูดมา ประกอบกับเครื่องยนต์เร้าใจ และ ระบบช่วงล่างสปอร์ต เปลี่ยนให้เจ้าซีดานเยอรมันคันนี้ กลายเป็นรถสปอร์ต 4 ประตู ดีๆ นี่เอง เวลาเข้าโค้งจะรู้สึกว่า หน้าจิกโค้ง เข้าแล้วมั่นใจ เจ้าเฟืองท้ายจะช่วยล็อกกำลังขับ ทำให้มันมีอาการ oversteer เล็กๆ ให้คุณออกโค้งง่ายขึ้น หรือ พูดให้เข้าใจง่าย คือ สามารถใช้คันเร่งช่วยคุมทิศทางเวลาออกโค้งได้ จนกลายเป็นรถซีดานขับสนุก สามารถมาขับเล่นในสนามได้ และซิ่งได้บนถนนทุกเมื่อที่ต้องการ
สรุป … BMW Series 3 ใหม่ หรูประหยัด หรือ หรูพร้อมซิ่ง คุณเลือกได้
ลงมาจากรถทั้ง 2 รุ่น พร้อมคำตอบในมือ ว่า มันต่างกันอย่างไร … และรถแบบไหนเหมาะกับใครมากกว่ากัน
ผมว่า BMW ทำการบ้านมาดีมาก พวกเขามองลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อ BMW Series 3 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนทั่วไปซื้อรถเอาภาพลักษณ์ และ 2.กลุ่มคนที่ต้องการรถที่เข้มเปี่ยมสมรรถนะ
BMW 320d เกิดมาเพื่อคนกลุ่มแรก ต้องการรถยนต์สมรรถนะดีประมาณหนึ่งมั่นใจในการขับขี่ เชื่อมั่นในความเป็นบีเอ็มดับบลิว ต้องการรถเพื่อภาพลักษณ์ และใส่ใจกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิต มันฟังดูเหมือนรถคันนี้ เหมาะกับ คนเป็นผู้นำครอบครัว หรืออาจเพิ่งเริ่มต้นมีชีวิตครอบครัว ก้าวจากรถญี่ปุ่นไปสู่รถที่ดีกว่าเมื่อมีโอกาส
ในทางกลับกัน BMW 330i เจาะกลุ่มสาวก BMW พันธุ์แท้ ผู้สนใจสมรรถนะการขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด อาจต้องการรถสปอร์ตในชีวิต แต่ก็ยังอาจรู้สึกเสียดายในการต้องเจียดเงินซื้อรถสปอร์ตราคาแสนแพง หรืองบอาจยังไม่พอเอื้อม M Car คนเหล่านี้ ต้องการเพียงต้องมีรถขับสนุกขับได้ทุกวัน..ไม่ได้กะว่ามีรถแล้วต้องเป็นตำนาน เก็บไว้ในโรงรถที่บ้าน หรือ มีไว้อวดบารมีกับใคร
ถึงแม้ด้วยออพชั่นต่างๆ นานาที่อัดเข้ามาในรุ่นท๊อป จะรีดให้มันมีราคาแตกต่างระหว่างกันอยู่ ราวๆ 4 แสนบาท และหลายคน รวมถึงผู้สื่อข่าวหลายท่าน รวมผมด้วย มองออพชั่นแล้ว ต่างชี้ว่า 330i อย่างไรเสียก็คุ้มกว่าแน่นอน (ถ้างบถึง) ถ้าคิดจะซื้อ 330i จริง ผมก็อยากจะขอให้แน่ใจว่า คุณต้องการรถหรูภาพลักษณ์พร้อมซิ่ง คนที่ต้องนั่งไปด้วยชอบเรื่องความเร็วสักหน่อย ไม่งั้นจะขับไม่สนุก และไม่ได้มีโอกาสรู้ศักยภาพที่แท้จริงของรถ ถ้าเคยผ่านรถแต่ง-รถสปอร์ต มาก่อนจะดีมาก คุรจะได้รถสปอร์ตพร้อมใช้งานทุกวันครบเครื่องจากโรงงาน
ส่วน 320d ต้องยอมรับว่าออพชั่นน้อยไปหน่อย บางคนอาจจะเป่าหูคุณว่าราคานี้ไปซื้อ Mercedes Benz C220d ดีกว่าไหม ผมว่า เราต้องยอมรับข้อหนึ่งก่อนว่ารถคันนี้เป็นรถนำเข้าจากเยอรมัน ราคาเทียบกับออพชั่น เจ้า C220d ประกอบไทย เลยดูแพงกว่าพอสมควร มันกลายเป็นรถที่น่าสงสาร หรืออาจเป็นกลยุทธการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าหันไปซื้อ 330i ด้วยหรือเปล่า ก็อาจเป็นไปได้ แต่ที่แน่ๆ ทั้งคู่มีกลิ่นอายความสปอร์ต เพียงปรับออกมาเข้มอ่อนไม่เท่ากัน
การกลับมาของ BMW Series 3 ใหม่ ขวัญใจคนต้องการซื้อรถหรูทั่วโลก งวดนี้เน้นความสปอร์ตเต็มขั้น ผมไม่แปลกใจที่พวกเขาให้นิยามว่า Ultimate Sport Sedan หลังลองสัมผัสทั้ง 2 รุ่น ต้องเรียนตามตรงว่า คุณสมควรจะไปทดลองขับก่อนด้วยตัวเอง ว่าแบบไหนเหมาะกับจริตในการใช้งาน น่าจะดีกว่า ถ้าเกิดว่าสนใจ
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอขอบคุณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด
เอื้อเฟื้อเข้าร่วมการทดสอบรถ BMW Series 3 ใหม่ ในครั้งนี้