การเปิดตัวเข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นครั้งแรก ของอเมริกันมัซเซิลคาร์อย่าง Ford Mustang (ฟอร์ดมัสแตง) ที่เพียงเริ่มก็มีเครื่องยนต์ให้เลือกครบถ้วน ซึ่งเราจะพาทุกท่านไปสัมผัสเบื้องต้นกับรถคันนี้
ย้อนกลับไปราวสองปีก่อนมีข่าวว่า รถอเมริกันพันธุ์แรงอย่างเจ้ามัสแตงจะเข้ามาตลาดในเมืองไทย ซึ่งที่ผ่านมามีช่วงหนึ่งที่เงียบไปจนไม่คิดว่าฟอร์ดจะเอารถรุ่นนี้มาขายแล้ว แต่ว่าล่าสุดฟอร์ดไทยประกาศข่าวเปิดตัวช็อคแฟนๆ ว่าพวกเขาพร้อมนำ Ford Mustang ทั้งรุ่น 2.3 Ecoboost กับ GT V8 5.0 มาให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของ
เบื้องต้น Ford Mustang ทั้งสองรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ถูกผลิตขึ้นจากโรงงานของฟอร์ด ณ สหรัฐอเมริกาโดยตรง ซึ่งเปิดราคาในรุ่น Ford Mustang EcoBoost 2.3 ลิตร ไว้ที่ 3,599,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุด V8 GT 5.0 ราคา 4,799,000 บาท ทำเอาผู้จำหน่ายอิสระที่เคยตักตวงยอดขายรถรุ่นนี้ ส่ายหน้ายอมแพ้ในการทำราคาของฟอร์ดครั้งนี้
เพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่าน เรามาเริ่มด้วยการทำความรู้จักกับมัสแตงว่าเป็นมาอย่างไร หากนับจากอดีตถึงปัจจุบัน Ford Mustang มีอายุเกิดมาบนโลกแล้วกว่า 54 ปี โดยได้ชื่อรุ่นมาจากเครื่องบินรบขับไล่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นนามในการเรียกรถสปอร์ตรุ่นตำนาน ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของม้าป่าบ้าพลัง มีอยู่ 8 อย่าง ดังต่อไปนี้
หนึ่ง… มัสแตงเป็นรถรูปทรง Fastback สอง… กระโปรงหน้าต้องยาว สาม…. ท้ายรถสั้นขับ สี่… สมรรถนะเครื่องแรง เช่น เครื่องเบนซิน V8 5.0 ลิตร ห้า… ต้องมีตราสัญลักษณ์ม้าป่าอยู่บนกระจังหน้า หก… กระจังหน้าทรงจมูกฉลาม เจ็ด…ไฟท้ายแบบ 3 แกน และ แปด… ต้องขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น ทั้งหมดนี้ถูกส่งต่อจากรุ่นเก่าสู่โมเดลปัจจุบันได้ครบถ้วน
ประเด็นรูปลักษณ์ภายนอกนั้น ทุกคนที่พบเห็นมันจอดหรือวิ่งผ่านหน้ามักถูกมนต์สะกดให้หันมอง เอาเป็นว่าตัวใหม่เจนฯ 6 ที่ขายในบ้านเรานั้นเป็นรุ่นที่ให้ชุดแต่ง Performance Pack ที่ให้เฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ให้การขับขี่ในโค้งสนุกสนานขึ้น ล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้วในทั้งสองรุ่น รวมถึงระบบเบรค Brembo ในรุ่น GT และฟีเจอร์เสริมอีกมากมายที่เข้ากับเอกลักษณ์ในการขับขี่ที่สนุกสนาน
ต่อมาด้วยการเปิดประตูบานเดียวอันแสนจะใหญ่โตเข้าไปในห้องโดยสาร พบว่าภายในได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราสะดวกสบายกว่าเดิม ด้วยวัสดุตกแต่งผิวสัมผัสนุ่มตลอดแนวประตู พร้อมมือจับประตูอะลูมิเนียม ทว่าวัสดุบางส่วนที่ไม่ได้สัมผัสบ่อยนัก ทางฟอร์ดเลือกใช้พลาสติกแข็งมาประกอบ รวมถึงเบรกมือที่อยู่ติดกับฝั่งคนนั่ง และคันโยกดึงเปิดฝากระโปรงหน้าอยู่ฝั่งคนนั่งด้านหน้า ทั้งสามจุดนี้อาจทำให้เจ้าของใช้งานรถได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร
มัสแตงมีให้สีเลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีส้ม ออเรนจ์ ฟิวรี่ เมทัลลิค ไตร-โค้ท (Orange Fury Metallic Tri-Coat) สีดำชาโดว์ แบล็ค เมทัลลิค (Shadow Black Metallic) สีแดง เรซ เรด (Race Red) และ สีเทา แมคเนติค เมทัลลิค (Magnetic Metallic)
ทีนี้ เราจะพาไปรู้จักกับทั้งสองขุมพลังที่อยู่บนเจ้าม้าป่า เริ่มด้วยเครื่องยนต์อีโค่บูสต์ 2.3 ลิตร พลัง 300 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร สร้างประหยัดน้ำมันได้ 10.8 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 217 กรัม/กิโลเมตร นอกจากนี้ ฟังก์ชั่น Overboost ยังช่วยเพิ่มแรงดันอากาศจากเทอร์โบทุกครั้งที่กดคันเร่งหนัก
มาถึงหัวใจไฮไลต์ประรุ่นตลอด 54 ปี อย่างเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 5.0 ลิตร ที่ทันสมัยด้วยระบบหัวฉีดสองระบบ ที่ผสานระบบไดเร็คอินเจคชั่นแรงดันสูง กับระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ท่อแบบแรงดันต่ำ จึงมอบพลังสูงสุดถึง 460 แรงม้า และแรงบิด 556 นิวตันเมตร โดยทั้งสองเครื่องยนต์ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ไปยังล้อหลังเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น มัสแตงยังมอบระบบเด่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความสนุกให้เจ้าของ ตั้งแต่ระบบ Electronic Line Lock ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเบิร์นยางคู่หลังได้อย่างง่ายดาย และพร้อมกับการแข่งทางตรง (drag strip) รวมถึงเทคโนโลยีปรับระดับความดังท่อไอเสีย Active Valve Performance Exhaust ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับความดังเสียงของท่อไอเสียได้ตามความต้องการ
เอาล่ะหลังฟังเราโม้เรื่องสเป็คมาพอสมควร ก็มาอ่านหัวข้อการขับขี่เป็นน้ำจิ้มกันซักหน่อย ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราไม่ได้ขับทดสอบบนถนนจริง เป็นเพียงการขับลองรถตามสถานีที่ฟอร์ดได้จัดไว้ ซึ่งก็พอให้เราบ่งบอกอากาศความต่างได้บ้าง
Ford Mustang 2.3 EcoBoost ฟีลลิงแรกที่รู้สึกตอนขับย่องออกจากจุดจอด คือมันเหมือนกับรถบ้านทั่วไปเสียเหลือเกิน การกะคันเร่งเป็นไปตามปกติไม่ได้ไวหรือหน่วงจนเกินไป แต่พอเหยียบคันเร่งเต็มเท้า ด้วยโหมด Drag Strip ก็รู้สึกถึงแรงดึงหลังติดเบาะ ซึ่งโหมดนี้จะทำให้การสับเกียร์แปลกซักหน่อย คือ จาก 1 ไป 3 ไป 5 พร้อมกับอาการกระชากแรงตอนต่อเกียร์ ต่อมาในสถานีขับสลาลมกับขับบนสนาม เรารู้สึกว่าตัวรถจะมีอากาศหน้าดื้อเล็กๆ ตอนขับเปลี่ยนเลนตอนเร็ว 60-80 กม./ชม. แต่หากขับด้วยเร็วที่เหมาะสม อ่านไลน์สนามถูก อาการนี้จะไม่ปรากฏมากนัก
Ford Mustang GT V8 5.0 แบบว่าฟินตั้งแต่สตาร์ทยันขับออกไป ด้วยเสียงเครื่องวีแปดนั้นสร้างความรื่นเริงให้แก่หูทุกระดับการกดคันเร่ง ยิ่งพอกดแบบเต็มเท่าเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์จะกลั่นออกมาคู่กับพลังดึงมหาศาล ดึงแบบหลังชนเบาะแบบยาวๆ การตัดต่อเกียร์ในโหมด Drag มีความเรียบเนียน แต่ดึงหนักไม่มีหยุด ครั้นเมื่อขับสลาลมไปกับความเร็ว อาการท้ายออกยามกดคันเร่งหนักแทบจะออกมาทุกครั้ง เหมือนกับว่าเครื่องวีแปดบล็อกนี้พร้อมจะถีบท้ายรถออกทุกครั้ง สร้างความพอใจจนผู้ขับต้องอมยิ้มเกือบหุบไม่ลง
เราขอสรุปการทดลองขับเบื้องต้นโดยให้คำนิยามดังนี้ Ford Mustang 2.3 EcoBoost เหมาะกับคนที่ชื่นชอบรูปทรงมัสแตง ไม่ได้ชอบขับรถเร็ว หรือบ้าสมรรถนะ และงบประมาณยังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณา
ส่วนรุ่น GT V8 5.0 ลิตร บอกได้คำเดียวว่า นี่คือมัสแตง ที่ถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเองได้ครบถ้วน ทั้งด้วยรูปลักษณ์ เครื่องยนต์ที่สตาร์ทเดินเบา ไปจนถึงการเร่ง เสียงอันไพเราะปนความดุ ช่างพอเหมาะลงตัวกับพลังอันหนักแน่นที่ออกมาครบทุกย่านความเร็ว ขณะเดียวกัน อารมณ์การขับขี่เรารู้สึกว่ามันสนุก พยศ และคุมได้ง่ายไม่เหมือนที่คิดไว้ก่อนจะขับ สิ่งนี้คือจุดเด่นของมัสแตง วี 8 ที่จะพาเจ้าของเข้าสู่โลกแห่งอเมริกันมัสเซิลคาร์อย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com