ตั้งแต่เปิดตัวออกมาในปี 2014 Mitsubishi Triton ใหม่ เป็นรถที่สร้างความแตกต่างได้อย่างไม่น้อยในตลาดกระบะ แม้ว่าสาวกจะผิดหวังกับหน้าตารถที่ออกมาเปิดตัวอย่างหล่อเหลาเอาการ แต่เรื่องสมรถนะยังคงความเป็นกระบะสายลุยพร้อมสรรพอยู่ไม่เสื่อมคลาย
ตั้งแต่อดีต Mitsubishi มีชื่อเสียงมากในเรื่องการลุย พวกเขาผ่านเวทีสำคัญๆ อย่าง Paris-Dakar และทางโหดๆ อีกมากมาย จนรถมีชื่อเสียงเรื่องความแกร่งความลุย เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากทางทีมการตลาดมิตซูบิชิก็ยังต้องปวดเศียรเวียนเกล้าในการขาย โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอเมริกันจัดหนักมาเต็ม จนในที่สุดมีชัยด้วยยอดขายเหนือชั้น ทำให้มิตซูบิชิถึงคราวจะต้องปรับตัว
ย้อนไปเมื่อช่วงกลางปีทีผ่านมา ผมมีโอกาสคุยกับหนึ่งในทีมวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Mitsubishi Motor ประเทศไทย ระหว่างทานข้าวเย็นในช่วงหลังเสร็จภารกิจทดสอบ Mitsubishi Xpander
ระหว่างที่นั่งคุยเขาก็มีคำถามน่าสนใจออกมา “พี่คิดว่า จะทำให้ไทรทันขายดีได้อย่างไร” ชาวสื่อเราในฐานะตัวแทนประชาชนผมจึงออกปากตอบไปว่า “มันไม่ยากหรอกถ้าเอาหน้า Pajero Sport ก็ขายได้แล้ว”
แน่นอนนั่นเป็นสิ่งที่สาวกต้องการจะเห็นจากมิตซูบิชิมากที่สุด เพราหลังจาก Triton ออกมาในปี เพียงปีเดียวหลังจากนั้นเมื่อ Mitsubishi Pajero Sport ออกมาวางขาย มันกลับหล่อเอาเรื่อง นั่นทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจ แล้วมันจะดีขนาดไหนถ้าหน้าตาแบบนี้มาอยู่ในกระบะ ซึ่งจะเป็นหนึ่งเดียวจากญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง Mitsubishi เปิดเผย Mitsubishi Triton ใหม่ อย่างเป็นทางการ แถมยังเลือกในไทยเป็นที่แรกในโลกในการเปิดเผยรถรุ่นนี้อีกด้วย
หน้าตาตัวใหม่เรียกว่าสมกับการรอคอย ด้วยเส้นสายการออกแบบ Advance Dynamic Shield พัฒนาต่อมาจาก Mitsubishi Pajero Sport แล้วใช้ในรถยนต์ Mitsubishi Xpander
มันเปลี่ยนแปลงกระจังหน้า ไฟหน้า และกันชนหน้าใหม่ด้วยเส้นสายที่เป็นคมสันสปอร์ตจ๋าๆ ทางมิตซูบิชิเรียกแนวคิดใหม่นี้ว่า “Rock Solid” หากงานนี้ไม่เหมือนกับเจ้าน้องเล็ก Mitsubishi Xpander ด้วยตำแหน่งไฟหน้าส่องสว่างโคมโปรเจคเตอร์อยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นเพียงตำแหน่งไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกเท่านั้น
เทียบกับรุ่นเดิมตำแหน่งไฟหน้าถูกยกสูงขึ้น 100 มม. และกันชนหน้าสูงขึ้นจากพื้นกว่า 700 มม .เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้
อันที่จริงแนวคิด Dynamic Shield เป็นแนวคิดแบบ Form Follow Function หรือการใช้งานต้องมาก่อนรูปทรง ทำให้เจ้า Mitsubishi Triton ใหม่ ไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบตัวรถเท่านั้น หากเปี่ยมด้วยสรรพคุณในการขับขี่ อาทิ การลุยน้ำได้ 60 เซนติเมตรสบายๆ
ด้านข้างโครงห้องโดยสารยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้อย่างครบเครื่อง เปลี่ยนช่วงประตูข้างให้มีเส้นไหล่ หรือ Shoulder Line เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเส้นสายที่เรียกว่า J Shape ที่ตอนหลังห้องโดยสาร งวดนี้ติดตั้งล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว มาให้ครบเครื่องด้วยยางขนาด 265/60 R18 ส่วนช่วงกระบะเปลี่ยนใหม่หมดตอบความลงตัว
ด้านท้ายรถตอบเรื่องการใช้งานอาทิ กล้องมองหลังประยุกต์รวมเข้ากับตรงมือจับเปิดท้าย รวมถึงไฟท้ายใหม่ มองด้านข้างดูบึกบึน มองด้านหลังดูทันสมัย แต่ที่รับไม่ได้ดูจะเป็นการยังนิยมทรงไฟท้ายไม้ตะพด เพียงตัดย่นไฟท้ายลงมาให้ดูเล็กลง ในบมุมด้านหลังบางทีก็นึกถึงเพื่อนร่วมก๊วนกระบะไม่น้อย
เปิดประตก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร พวงมาลัยและการออกแบบจาก Mitsubishi Pajero Sport ถูกใส่เข้ามาไว้ตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ อันที่จริงผมชอบมากที่ทางมิตซูบิชิใช้ภายในจากปาเจโร่สปอร์ต มันให้คุณค่าทางการออกแบบสูงขึ้น ยกระดับการขับขี่ให้ลงตัวน่าสนใจน่าใช้งาน
ในรุ่นนี้แม้ว่าหลายอย่างจะเหมือนเดิมไม่ผิดหูผิดตาจากเดิม แต่ทางมิตซูบิชิก็จัดการเปลี่ยนบางอย่างหู้ลงตัวขึ้น โดยเฉพาะตรงกลางคอนโซลหน้า และคอนโซลกลางจัดการเปลี่ยนใหม่เสริมความทันสมัยดูน่าใช้งานมากขึ้น ส่วนเรือนไมล์จัดการเปลี่ยนใหม่เช่นกัน รวมถึงแผงประตูข้างสปอร์ตขึ้น
ส่วนด้านหลังในรุ่น 4 ประตู มีระบบปรับอากาศสำหรับการโดยสารทางด้านหลังแยกอิสระจากด้านหน้า ช่วยให้สบายในการขับขี่มากขึ้น รวมถึงท้ายคอนโซลกลางให้ช่องเสียบ USB กำลัง 2.1A มาให้ 2 ช่องด้วย
กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Mitsubishi Triton ใหม่ ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Mivec ตอบการขับขี่ด้วยกำลังสูงสุด 181 แรงม้า และทำแรงบิด 430 นิวตันเมตร งวดดนี้ ชุดเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เดิม พัฒนาเพิ่มอัตราทดเป็น 6 สปีด มีอัตราทดต่ำกว่า 1.000 ถึง 2 ตำแหน่ง มากกว่ารุ่นเดิม
เรื่องเครื่องยนต์ซุ่มเสียงยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไรนัก และงวดนี้เราก็ยังไม่มีโอกาสทดสอบกำลังเครื่องยนต์มากมาย เนื่องจากทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ดูจะต้องการเน้นภาพลักษณ์การลุยให้ชัดมากๆ จึงอออกแบบ สนามทดสอบมาเป็น 2 รูปแบบ คือ Dirt หรือ สนามทดสอบทางฝุ่น ส่วนอีกสนามเป็นการขับออฟโรด
ออกตัวกับ Mitsubishi Triton ขับไปสักพัก สังเกตได้ว่า เจ้ากระบะค่ายมิตซูบิชิ ดูจะนิ่มนวลขึ้นกว่าเดิมไม่กระด้างเหมือนก่อนที่ยังคงความเป็นกระบะไว้เหนียวแน่นอน
จากการให้สัมภาษณ์ของ คุณ คาซูโมโต้ อิมัย หัวหน้าวิศวกรพาหนะ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์เปอร์เรชั่น เปิดเผยว่า นอกจากการออกแบบที่ดีขึ้น ยังมีการพัฒนาระบบกันสะเทือนใหม่ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างทางด้านหลัง เปลี่ยนโช๊คอัพให้มีแกนใหญ่ขึ้น รวมถึงขนาดของแหนบหลังยังใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วย
ขับตอนนี้ผมรู้สึกว่า Mitsubishi Triton ใหม่ ดูนุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะการขับทางกรวด ในเส้นทางทดสอบสั้นๆ ในสนามทดสอบ ช่วงล่างดูนุ่มนวลขึ้นได้ความรู้สึกใกล้เคียงรถยนต์อเนกประสงค์อย่าง Mitsubishi Pajero Sport มากขึ้น
น่าเสียดายการปรับระบบกันสะเทือนใหม่นี้ทางมิตซูบิชิไม่ได้ปรับความยาวของโช๊ค ทำให้ในยางจังหวะ เช่นการตกหลุมหรือกระแทกอย่างรุนแรงยังมีการหัวสั่นหัวคลอนในการขับขี่ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าขับบนถนนดินดำ หรือทางคอนกรีตทั่วไปมันจะเป็นกระบะที่นั่งสบายกว่าเดิมเยอะมาก
จบจากด่านแรกมาต่อด่านที่ 2 ด่านนี้ ทางมิตซูบิชิ ต้องการโชว์คุณภาพในการลุย ด้วยระบบขับเคลื่อนใหม่ Super Select 4 WD II ซึ่งระบบนี้ยกมาจาก Mitsubishi Pajero Sport และต้องการให้มันมีความสามารถการลุยมากขึ้น
งวดนี้ทีมงานมิตซูบิชิเซทเป็นด่านๆ ให้เราขับตามที่พวกเขาต้องการ โดยรถทุกคันถูกเตรียมพร้อมไว้ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ตำแหน่ง 4 LLC ใช้สำหรับการปีนป่ายบุกป่าฝ่าดงตามต้องการ
ด่านแรกเป็นเนินชัน โดยเนินนี้มีความชั้น 2 ช่วง ช่วงแรก 20 องศา และช่วงที่ 2 ชัน 30 องศา เราเดินเครื่องขึ้นเนินชันได้ง่ายดา แม้ว่าจะไม่ใช่รถที่พละกำลังมากมายนัก ส่วนขาลงปล่อยเป็นหน้าที่ของ Hill Decent Control ช่วยในการเบรกหรือชะลอรถลงจากทางชัน ทำให้ขับง่ายขึ้นเยอะ
ต่อเป็นเนินเอียงข้าง ตามมาด้วยเนินสลับ ทั้ง 2 ทำให้เราเห็นว่าการกันสะเทือนของรถเมื่อลุยมีความสามารถไม่ต่างจากเดิมนัก ส่วนที่ดีขึ้นในความรู้สึกผม จากที่เคยนำเจ้า Mitsubishi Triton Athlete ไปลุยในเส้นทางโหดเขากระโจม เหมือนจะเป็นความฉลาดของระบบที่ตอบสนองไวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ขับง่ายขึ้น เรื่องความสามารถก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไรนัก แต่คงต้องลองมากกว่านี้จึงจะบอกได้
สรุปสั้น Mitsubishi Triton หล่อเน้นลุย
ผมลงมาจากรถ Mitsubishi Triton พรอมความงุนงงชั่วครู่ เนื่องจากทีมงานญี่ปุ่นเหมือนจะรีบมากไม่อยากให้เราขับเจ้า Triton ใหม่ มากนัก
สัมผัสแรกวันนี้เอาว่าเป้นเพียงน้ำจิ้ม ผมบอกเลยว่า หน้าตาใหม่เจ้ากระบะคันนี้หล่อเหลาเอาการโดนใจจริงๆ มันได้ความใกล้เคียง Mitsubishi GR-HEV ที่สาวกเคยค่อนขอดว่า หน้าตากระบะไทรทันไม่โดนใจเท่าไรนัก
การเปลี่ยนแปลงงวดนี้ทางมิตซูบิชิ ดูมีความตั้งใจจริงมาก แต่อย่าเพิ่มถามเรื่องสมรรถนะ ความประหยัด หรืออะไรใดๆ เพราลองครั้งนี้สั้นมาก สั้นจนชนิดที่แทบจับอะไรไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยที่สุดช่วงล่างในตัวสี่ประตูก็นิ่มนวลขึ้น ชุดเกียร์ดูตอบสนองดีขึ้นเวลาเร่งเหมือนพุ่งมากกว่าเดิมสักหน่อย
ส่วนเรื่องออพชั่นและการขับขี่มีมาให้ครบเครื่องมากขึ้นเรียกว่าสู้กับผู้ท้าชิงได้ และหวังว่าจะกลับมาทวงเจ้าตลาดกระบะในไทย สวมมงกุฎเบอร์ 3 เหมือนที่ผ่านมา และทั้งหมดที่กล่าวมา คือเท่าที่บอกได้ในเวลานี้ จากเวลาอันแสนสั้นที่ลองขับรถรุ่นนี้ในสนามทดสอบ
Mitsubishi Triton ใหม่ เปิดตัวมาแล้วก็จะลงโชว์รูมในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเราหวังว่าในช่วงต้นปีหน้าจะมีโอกาสขับเจ้ากระบะคันนี้อีกครั้ง แล้วเราจะมาพูดอีกครั้งว่ามันเจ๋งมากแค่ไหน
[ngg src=”galleries” ids=”789″ display=”basic_thumbnail”]