Home » Bust Just Drive : Nissan note ซิตี้คาร์แอ๊บตั๋วเด็ก
Nissan-note-review-ridebuster (8)
Bust First Drive รีวิว

Bust Just Drive : Nissan note ซิตี้คาร์แอ๊บตั๋วเด็ก

เคยเป็นไหมครับ เวลาไปตามที่ต่างๆ แล้วเห็นว่ามีสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย คุณอยากได้สิทธิพิเศษเหล่านั้น เพื่อที่จะทำให้ดูเฉิดฉายกว่าใคร แน่นอนบางครั้งสิทธิพิเศษมาพร้อมข้อจำกัด แต่ถ้ามันคุ้มค่าที่จะทำ คุณยังอยาจะได้สิทธิเหล่านั้นหรือเปล่า

รถอีโค่คาร์เป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษที่ทางภาครัฐบาลให้ข้อเสนอกับบริษัทรถยนต์ในการผ่อนปรนทางภาษี ทำให้บริษัทมีรายได้ในการทำกิจการในประเทศไทยบ้านเรามากขึ้น และที่ผ่านมารถอีโค่คาร์ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าตลาด  Nissan  ที่ทำให้หลายคนมาสนใจรถยนต์อีโค่คาร์ของพวกเขา

ปีนี้   Nissan  เปิดตัวรถอีโค่คาร์รุ่นล่าสุด  Nissan  Note ใหม่ มันเป็นรถยนต์ที่นิสสันหมายมั่นปั้นมือว่าจะกลับมาทำยอดขายที่ดีอีกครั้ง 

Nissan note   ใหม่ เป็นรถที่มีแนวโน้มมาขายในไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความนิยมในประเทศญี่ปุ่นที่ทำให้นิสสันผงาดขึ้นมาในใจชาวซามูไร นิสสันโน้ตกลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนทำให้นิสสันมองว่ารถแบบนี้ก็น่าจะเหมาะกับจริตคนไทย

เห็นหน้าค่าตามาตั้งแต่วันเปิดตัว วันนี้มาเจออีกทีต้องยอมรับว่าเจ้ารถยนต์  Nissan  note ใหม่หน้าตาดีใช้ได้ทีเดียว ที่จริง Nissan note  เป้นรถยนต์ที่เกิดมาในแบบ   Mini  Mpv   ด้วยแนวทางความตั้งใจที่จะสนองตอบคนมีครอบครัวตามวิถีชีวิตคนเมือง แต่ออกแบบไปๆมากลับได้ทรวดทรงซิตี้คาร์แฮทช์แบ็คสไตล์สปอร์ตออกมา

เริ่มจากหน้าตารถที่ดูดีมีค่ามีราคา ด้วยกระจังหน้าใหม่   V motion  ที่ดูสปอร์ต  ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ที่ดูตาโต พร้อมไฟ  Signature Light  ที่ดันไม่ยอดทำมาเป็นไฟ  Daytime Running Light  เสียอย่างงัน มันดูลงตัวกับกันชนหน้าใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า สมส่วนลงตัว

ด้านข้างให้เสน้สายการออกแบบ  Squash Line  ดูมีรายละเอียเส้นสายแบบมีปีกให้ความรู้สึกปราดเปรียวดูพุ่งทะยาน ลงตัวด้วยล้ออัลลอยขอบ  15  นิ้ว พร้อมยาง  185/65/R15 ลวดลายไม่ได้หวือหวาอะไร เส้นสายหลังคาเน้นความสูงโปร่งกว่ารถซิตี้คาร์ทั่วไป ต่อเนื่องไปยังบั้นท้ายที่เน้นให้ความทันสมัยในการออกแบบ แต่เอาตามจริงพูดตามตรงผมว่า มันเหมือนกับรถซิตี้คารยอดนิยม Honda Jazz  มายังไงยังงั้น

กุญแจแบบ  Keyless   กลายเป็นมาตรฐาน การใช้งานรถยนต์   Nissan note   จึงง่ายด้วยการสัมผัสเปิดประตู ก็ใช้งานง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อเข้ามาภายใน   Nissan Note  ใหม่ ยังเน้นเด่นในความสปอร์ต เริ่มจากการให้รายละเอียดช่วงแผงประตูกับเบาะนั่งทั่งคัน เป้นสีทูโทน ดำตัดเทา สำหรับผมรู้สึกว่าโทนแบบนี้ดูจะไม่โดเด่นในเรื่องสปอร์ตเท่าที่เป็น สู้โทนดำแดง,ดำส้มไม่ได้ หรือจะให้ดี มีให้เลือกตัดเย็บตามต้องการของลูกค้า ก็ดูน่าสนใจไม่หยอก

กวาดสายตาดูก่อนสัมผัสเบาะนั่ง   Nissan note   เน้นรายละเอียครบครันฟังชั่นในการใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะการออกแบบพวงมาลัยท้ายตัด ทรง   D Shape ที่นิสสันจำแลงมาให้ในเจ้าอีโค่คาร์คันนี้ มาตรวัดแบบสปอร์ตดทนสีส้ม ใช้งานง่ายดูคุ้นหน้าตากันดี มีจอแสดงข้อมูลที่จำเป็น เช่นระยะทางที่เหลือวิ่ง ,อัตราประหยัดเฉลี่ยเสร็จสรรพ ตรงกลางคอนโซลหน้าเป็นชุดเครื่องเสียงยกมาจากค่าย  Kenwood  ก็ยังสงสัยว่าทำไมไม่ทำแบบ   Bult-in  มาให้ มันดูขัดๆ กับการตบแต่ง Piano black ถัดลงมาเป็นแอร์ออโต้ ทรงคุ้นเคย เช่นเดียวกับหัวเกียร์มือตักไอติม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ฝั่งคนนั่งได้เก๊ะเก็บของ 2 ชั้น โดยชั้นบนมีช่องเสียบ   USB   และช่องรับสัญญาณ  HDMI  จากมือถือ ดูเหมือนนิสสัน จะงกช่อง   USB   ไป หน่อย เพราะยุคนี้สมัยนี้ทุกคนใช้ช่อง   USB   เพื่อการชาร์จไฟ อุปกรณ์มือถือด้วย การมีช่องเสีย   USB   ช่องเดียว อาจจะกลายเป็นปัญหาครอบครัว ตบตีเรื่องช่องชาร์จมือถือ ยิ่งบ้านไฟน ใช้มือถือต่างระบบปฏิบัติการ รับรอง มีชิงช่องชาร์จไฟกันอย่างแน่นอน

หย่อนตัวลงนั่ง เบาะนั่ง   Nissan note   ดูจะใหญ่กว่าที่เคยสัมผัสใน  Nissan Almera   และ  Nissan March   เล็กน้อย ฝั่งคนขับสามารถปรับสูงต่ำได้ ตามความต้องการ พวงมาลัยสามารถปรับขึ้นลงได้ แต่ยังยืดหดไม่ได้ หากมันก็มากพอที่จะทำให้คุณค้นหาท่านั่งได้ตามสรีระของตัวเอง

ด้านหลังงเบาะนั่งปรับพับ 60/40 ได้  และมันไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวา อาทิช่องเสียบ   USB   หรือปรับพนักพิงหลังได้หลายระดับแบบที่คู่แข่งสามารถทำได้

ผมมีโอกาสไปนั่งระหว่างการเดินทางสั้นๆ ท่านั่งตอนหลังของ   Nissan Note   ค่อนไปทางเอนหลังเล็กน้อย มันดีที่คุณจะพล้อยหลับ รวมถึงยังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือหัวที่ค่อนข้างสูงโปร่ง นั่งแล้วรู้สึกไม่คับแคบอึดดอัด แม้แต่คนตัวใหญ่อย่างผมสูง 182 ซม. ยังนั่งได้สบายไร้ปัญหา ทว่าผมว่าเรื่องพนักผิงน่าจะทำให้ปรับระดับพนักผิงหลังได้จะเข้าข่ายสมบูรณ์แบบ หากที่ด้อยกว่าคู่แข่งรายสำคัญก็คือ คุณไม่สามารถพับที่รองนั่งเพื่อขนของที่มีความสูงได้ โดยที่ไม่ต้องไปพับเบาะ

ได้เวลาขับแล้ว ผมกดปุ่มสตาร์ท เครื่องยนต์สามสูบแถวเรียงขนาด 1.2 ลิตร บล็อกเดิมเจ้าประจำ 78 แรงม้า ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตรทำงาน

หลายคนเห็นร่างของ   Nissan note   แล้วหวั่นใจ มันจะอืดจนเรียกพี่หรือเปล่า 

แต่ในความจริงแล้วรถยนต์ขนาดนี้ในญี่ปุ่น มีตั้งแต่เครื่องยนต์ 1000 ซีซี ไปสูงสุด 1,500 ซีซี และในบ้านเรา เครื่องยนต์ขนาด  1.3  ลิตร เคยแนะนำเขจ้ามา ก่อนสมัยยุคอีโค่คาร์คืออะไรใน   Honda Jazz I Dsi  หรือ รุ่น 8 หัวเทียน ที่วันนี้ยังมีให้เห้นวิ่งตามถนนอยู่บ้าง

สิ่งที่เปลี่ยนไปใน  Nissan note   เมื่อพูดถึงเรื่องเครื่องเครา ก็ไม่พ้นระบบส่งกำลัง CVT   ครั้งนี้มาพร้อมซอฟท์แวร์  D Step   มันตอบการขับขี่ให้สนุกสนานมากขึ้น ด้วยการตัดอัตราทดต่อไป เมื่อเร่งสุด คล้ายคุณขับรถเกียร์ออโต้ทั่วไป เครื่องจะไม่ลากอื้ด แล้วหึ่งค้างที่ความเร็วรอบเครื่องสูงสุดตลอดเวลาอย่างที่ผ่านมา

จากที่ขับไปตามเส้นทางสั้นๆ กรุงเทพ-อัมพวา เครื่องยนต์บล็อกนี้อาจจะมีกำลังอัตราเร่งสู้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรไม่ได้ มันเป็นสัจจะธรรมของเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ถ้าคุณไม่ใช่วัยรุ่นใจร้อนจะฮ้อซิ่งบี้คันเร่งตลอดเวลา

เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร พร้อมเจ้าเกียร์   CVT   นี้ก็ตอบความสามารถในการใช้งานชีวิตประจำวันได้ลงตัว มันเร่งได้ดีในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงพุ่งเท่าเครื่องพันห้า จังหวะเร่งแซงเพียงกด  Overdrive   หรือกดคันเร่งลงไปให้เกียร์เปลี่ยนเองก็สามารถแซงได้ง่ายๆ สบายใจ แค่ไปได้ไม่เท่ารถที่มีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากกว่า 

ในความรู้สึกผมถือว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้พอไปวัดไปวาได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบร้อนขับแล้วไปเรื่อยๆ อยากเร่งก็เดินคันเร่งไปเรื่อย ไม่ใช่เน้นเค้นสมรรถนะเหยียบคะบันเต็มที่ ยิ่งพูดถึงความจริงว่าสมัยนี้ตำรวจกวดขันเรื่องความเร็ว เวลาเดินทางที่ความเร็วไม่เกิน 120 ก.ม./ช.ม.บนหน้าปัดดชว์รอบเครื่องแค่ 2,300 รอบต่อนาที ผมว่าเป็นเครื่องยนต์ที่สมเหตุสมผลกับการใช้งานทั่วไปของคนปกติปถุชน

นอกจากเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้พอใจแล้ว ระบบบังคับทิศทางการเซทพวงมาลัยยังแตกต่างจากอีโค่คาร์เดิมๆที่ผ่านมาด้วย  Nissan note   เซทตัวเองให้มีบุคลิกความสปอร์ต พวงมาลัยออกแบบมาค่อนข้างจะมีความเฉียบขาดในการบังคับทิศทาง ระยะฟรีค่อนข้างน้อยกว่า ได้สัมผัสสปอร์ตกว่าซิตี้คาร์ยอดนิยมเสียอีก  แถมเมื่อมองรวมกับสัมผัสของระบบกันสะเทือนที่ออกมาทางแน่นหนึบ มีแอบกระด้างบ้างในบ้างจังหวะ มันดูจะขัดกับจุดประสงค์ที่ออกแบบมาเป็นรถครอบครัวในทีแรก

จนผมรู้สึกว่า   Nissan  คงต้องการทำรถซิตี้คาร์เอาใจคนวัยหนุ่มสาวมากกว่า เพียงแต่ต้องการให้คนซื้อรู้สึกแตกต่าง หาเหตุผลอ้างภรรยาว่ารถที่จะซื้อนั้นเป็นรถครอบครัว แต่พอมาขับแล้ว หรือภรรยาได้ลองนั่งแล้ว ก็คงจะรู้สึกว่า นี่มันคือรถที่เปี่ยมด้วยดีเอ็นเอซิ่งครบครันดีๆ นี่เอง

 

Nissan  Note   อนุมานว่ามันเหมือน  Honda Jazz I Dsi  กลับมาเกิด

 

ขากลับผมมนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าพลันมองรถในขบวนแล้วคิดว่า   Nissan note   มันให้ความรู้สึกคล้ายรถอะไร….

ความรู้สึกแบบนี้คุ้นๆ เหมือนเคยผ่านมา มันทำให้ ผมนึกถึงสมัยเรียน ปี 1 ที่มหาวิทยาลัย กรุงเทพ สมัยนั้น จะติดรถเพื่อน Honda Jazz I -Dsi จากมหาวิทยาลัยมาลงที่แถวฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตประจำ

สำหรับผมความรู้สึกจาก  Nissan note   คล้ายๆ กัน มันเป็นรถที่เร่งได้ดีในระดับที่คนทั่วไปพอใจ แต่จะไม่พอบาทาขาซิ่งทั้งหลาย รถออกตัวได้ดี เร่งแซงได้ดี (ถ้าใช้เกียร์   CVT เป็น) มันอาจไม่มีกำลังเท่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ก็จริง แต่ก็มาพอที่จะทำให้คุณเดินทางไกลที่ความเร็วตามกฏหมายกำหนดได้อย่างไม่รู้สึกว่าต้องคลานเป้นเต่าข้างทา ง

แน่นอนนี่ผมกำลังพูดถึงการโดยสาร 2 คนพร้อมรถเปล่า แต่ถ้ามีผู้โดยสารเต็มคันรถ พร้อมสัมภาระอีกเพียบ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร อาจจะมีอืดบ้างตามภาษา ยิ่งใครกะเดินทางไกลไปเมืองเหนือ ขับขึ้นเขา นี่ต้องขอแนะนำให้พิจารณาให้ดี … แต่ไม่ได้หมายความว่าไปไม่ได้นะ …  เพียงแต่ตอนขึ้นเขา อาจจะต้องค่อยขึ้นช้าๆ ไปเรื่อยๆ  ก็เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ดี Nissan note   ก็มีสิ่งดีงามอยู่ในตัวมันหลายเรื่อง ทางด้านสมรรถนะการขับขี่ก็เด็ดดวงตรงช่วงล่างและพวงมาลัยที่เซทมาสปอร์ตเกินหน้าตาเครื่องยนต์จนเชื่อว่าหลายคน เมื่อขับหรือเป็นเจ้าของแล้วอยากจะไปเอาเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร มายัดใสน่ให้มันรู้แล้วรู้รอด

นอกจากนี้มันยังครบครันด้วยตัวช่วยในการขับขี่ ไม่ว่าจะระบบเตือนการหลุดเลน , ระบบเตือนการชนทางด้านหน้า และ ระบบช่วยอกตัวบนทางลาดชัน ไปจนถึง ระบบกล้องมองรอบทิศทาง พร้อมเตือนวัตุเคลื่อนไหวรอบคัน เป็นออพชั่นพอเพียงสำหรับการใช้งานในเมืองและมากพอสำหรับอีโค่คาร์ราคา 6 แสน

น่าเสียดายที่ นิสสัน ดันงกบางเรื่องเช่นช่องแอร์ตอนหหลัง ที่ควรจะมีมาให้ เนื่องจากรถมีความยาว แอร์ตอนหน้า ต่อให้เปิดลมแรงสุด ก็ยังมาไม่ถึงข้างหลังอย่างที่ควรจะเป็น รวมถึงช่อง   USB   นี่ก็ควรจะให้มมากกว่านี้ ควรมี   USB   ตอนหลังด้วย ไมใช่เอาไปแอบไว้ในเก๊ะเก็บของช่องเดียวแบบบนี้ ครอบครัวจะร้าวฉานได้

รวมถึงผมรู้สึกว่า ประตูตอนหลัง Nissan Note  แม้จะเปิดได้กว้างก็จริง แต่ไม่ให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย เสียงปิดประตู ดูก๊องแก๊งไปหน่อย นี่รวมถึงประตูท้ายด้วย สำหรับคนอื่นหรือลูกค้าอาจจะมองข้ามเรื่องนี้ แต่ลองจินตนาการว่ารถจอดในโชว์รูม ลูกค้ามาดู พบว่าเสียปิดประตุไม่ต่างจากเสียงเคาะสังกะสี เป็นผม ก็คิดหนักเรื่องความปลอดภัยเหมือนกัน

ในภาพรวม   Nissan Note   ใหม่ครบครันฟังชั่น มันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ให้จบด้วยสมรรถนะที่มั่นใจในการขับขี่

ก่อนจากผมมอง   Nissan note   อีกครั้งทบทวนการขับขี่ในวันนี้ ว่าแล้ว มันก็ทำให้ผมนึกถึง   Honda  Jazz I Dsi   ที่กลับชาติมาเกิดในตรานิสสัน  มันไม่แรง มันดูดี มันครบฟังชั่นใช้งาน และแถมราคาก็โดนใจ  

 

อ่านรีวิว เต็มๆ  Nissan Note   1.2 VL   ได้ที่นี่ 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

บททดสอบนี้เผยแพร่ที่   ridebuster.com

ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ …. เนื้อหาดีๆ ต้องแบ่งปันต่อ แล้วอย่าลืมถูกใจ เพื่อรับข่าวสารยานยนต์ดีๆ จากทีมงานคุณภาพ Ridebuster – ส่องรถ ….

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*