วัฏจักรทางธรรมชาติในโลกใบนี้ นอกจากการเกิดและการแตกดับ , “การเปลี่ยนแปลง” ยังเป็นอีกสิ่งที่ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเป็นประจำ บางครั้งการเปลี่ยนแปลงนำสิ่งที่ดีกว่ามาให้ และหลายครั้งการเปลี่ยนบางสิ่งเพียงนิดเดียวกลับนำมาซึ่งความแตกต่างมากโขทีเดียว
ถ้าย้อนกลับไป 6-7 ปี ที่แล้ว Subaru ยังเป็นเพียงบริษัทรถยนต์ขนาดเล็กจิ๋ว ที่อยู่ได้เพียงความคิดในอุดมคติของท่านชายที่มองหารถยนต์สมรรถนะสูงในบ้านเรา พวกเขาเน้นหนักที่ตลาดอเมริกา สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำมายาวนาน จนกลายเป็นตลาดหลักของบริษัทไปแล้ว
แต่การอยู่รอดของบริษัทหรือไม่ กลับขึ้นอยู่การตัดสินใจครั้งสำคัญ การประชุมลงความเห็นที่จะสร้างรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่สุดของบริษัทปลุกตำนานที่เคยเดินดินให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง …กลายเป็นรถที่ทำให้วันนี้ซูบารุกลับมาบานฉ่ำอีกครั้ง
ย้อนไปในช่วงยุค 90 สมัยที่คนจำนวนมากไม่สนใจรถยนต์อเนกประสงค์อย่างในปัจจุบัน Subaru มีความพยายามหลายครั้งในการสร้างรถยนต์อเนกประสงค์ออกมา โดยความแตกต่างของค่ายดาวลูกไก่กับค่ายอื่น อยู่ที่การเอาพื้นฐานรถยนต์ยอดนิยม Subaru Impreza มาทำการทดลองปรับแต่งต่างๆ เพื่อเป็นอเนกประสงค์สนองตลาด โดยเฉพาะความพยายามในการสร้างตลาดใหม่ในอเมริกา ทาง Subaru เลยขับเอาซูบารุ อิมพรีซ่า มาใส่ชุดต่างๆ พร้อมสรรพเรื่องความอรรถประโยชน์ ตามด้วยยกสูงให้ดูลุยครบเครื่องในความสามารถทางฝุ่น เมื่อบวกกับเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ และระบบขับเคลื่อน Symmetrical All Wheel Drive ที่มีในรถ จากเก๋งบ้านที่นำมาแต่งซิ่งก็งามแท้ หลังผ่าตัดเสริมโน่นนั่นนี่ก็กลายเป็นอเนกประสงค์พร้อมจำหน่ายในอเมริกา ในชื่อ “Outback Sport”
หรือว่าง่ายมันคือ Mini Outback น้องชายของ Subaru Outback ตัวจริง ที่ใช้พื้นฐานจาก Subaru Legacy ในบ้างตลาดอาจจะเรียกว่า “Subaru Legacy Outback” แต่ชื่อเสียงของ “Outback Sport” กลับโดนใจสาวกมากกว่าด้วย ประการแรกมันมาจาก Subaru Impreza ส่งให้ขนาดรถกำลังอยู่ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์เหมาะแก่การใช้งาน ประการต่อมา ราคาของรถไม่แพงจนเกินไป และประการที่สาม มันครบครันความต้องการสามารถลุยได้ในระดับที่น่าพอใจ
เมื่อทางซูบารุนำความคิดเดียวกันกลับมาที่โรงงานในกุนมะ ทีมวิศวกรคงจะต้องการทำอะไรบ้าๆตามฉบับซุบารุค่ายรถอินดี้แห่งแดนอาทิตย์อุทัย แทนที่จะนำเอาเครื่องยนต์ธรรมดา ทางค่ายดาวลูกไก้กลับยัดเครื่องยนต์เทอร์โบจาก Subaru Impreza WRX เข้าประจำการสมรรถนะเต็มเปียมเรื่องความแรงก่อนที่จะแต่งลุคให้พร้อมลุย ถือเป็นความกล้าหาญชาญชัยมากในการสร้างรถยนต์ลุยสมรรถนะสูง ทางค่าย ซูบารุ เรียกมันว่า “Subaru Impreza Gravel Express” แต่เมื่อถามถึงยอดขายรึ??? ก็เพียงกระหยิบมือเดียวเท่านั้น
ตำนานที่สั่งสมมา เมื่อทางซูบารุเห็นว่า อนาคตตลาดรถยนต์อเนกประสงค์จะเติบโตมากกว่านี้ ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กจะกลายเป็นที่ต้องการในอนาคต ก็คงทำให้ผู้บริหารและทีมวิศวกรหลายคนคิดว่า ทำไมไม่เอาความคิดเดียวกัน มาบิดเปลี่ยนใหม่ จากที่จะทำอะไรแบบสุดโต่งไปเลย ก็ทำให้มันใกล้ชิดคนใช้ นี่แหละครับ ที่มาของ “Subaru XV” หรือในบางตลาด เราอาจจะได้ยินว่า “Impreza XV”
จริงๆ แล้ว Subaru XV เดิมตั้งอยู่ในไลน์ขายของ Subaru Impreza มันออกมาในปี 2010 เมื่อทางซูบารุลองเอาความคิดของ Subaru Outback Sport กลับมาส่งท้ายรถยนต์ Subaru Impreza เจนเนอร์เรชั่นที่ 3
2010 Subaru Impreza XV
เมื่อทางซูบารุเปิดตัว Subaru Impreza XV ในงาน Geneva Motor Show 2010 มันถูกพูดถึงมากในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะสาวกซูบารุที่นึกถึงตำนานของ “Outback Sport” ครั้งนี้ทางซูบารุทำให้มันใกล้ชิดคนใช้มากขึ้น ด้วยเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ทำแรงบิด 196 นิวตันเมตร
ตัวรถได้กระจังหน้าใหม่ , กันชนหน้า-หลังใหม่ ,ใส่ราวหลังคา ตลอดจนรอบคันรถทางด้านล่างและซุ้มล้อใส่พลาสติกสีดำเพื่อให้ดูลุยมากขึ้น ตัวรถยกสูงเล็กน้อย แต่ไม่มีรายงานเรื่องความสูงที่ชัดเจน มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ใส่ยาง 205/55/R16 นับเป็นการโหมโรงสร้างความสนใจ จนเมื่อเปิด Subaru XV ออกมาในปี 2011 ภายใต้เรือนร่างใหม่ล่าสุด มันก็เป็นรถที่คนสนใจติดตามและขายดีทั่วโลกทันที
คุณ ตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ปรารภว่า นี่ไม่มีใครเชื่อว่าจากที่เราขายได้ระดับไม่เกิน 100 คัน วันนี้เราจะมาถึงยอดขายระดับ 3,000 คัน ปีแรกก็คิดว่าฟลุค ปีที่สองก็คิดว่าตลาดยังมีกระแส แต่พอปีที่สามนี่เราเริ่มมั่นใจ มากขึ้นว่ารถเราเป็นที่ใช่สำหรับลูกค้า
และครั้งนี้พวกเขาก็หมายมั่นเชื่ออย่างสุดใจว่า Subaru XV ใหม่ จะเป็นที่ชื่นชอบของลูกครั้งอีกคราว
Subaru XV Concept
นี่แหละครับ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ การแหกขี้ตาตื่นมาตอนตี 3 เพื่อเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนตี 4 จับเรือบินไปยังประเทศไต้หวัน เพื่อชมตัวเป็นๆ Subaru XV ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในประเทศไต้หวันในวันถัดไป
ผมให้ความสำคัญกับการเปิดตัวรถยนต์ Subaru XV มาเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผล 2-3 ข้อ ประการแรก มันเป็นรถที่มีคนสนใจใช้เยอะและพึ่งการตลาดน้อยมาก เรียกว่า ตัวสินค้าเองจับใจลูกค้ามาตั้งแต่เริ่มต้น อาจจะด้วยทุนเดิมของความเป็นซูบารุ และราคาขายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมไปนัก
ประการต่อมา เรื่องนี้สำคัญ … ใครที่ติดตาม Bonn มาสักระยะ จะเห็นว่าที่บ้านมี Subaru XV ใหม่ มาเป็นน้องเล็กในบ้าน
น้องส้ม – 2014 Subaru XV
บางคนคงสงสัย “คุณบอนน์ ก็รู้นี่ว่าจะมีรุ่นใหม่ แต่ทำไมซื้อรุ่นเดิม”
ส่วนหนึ่งผมกล่าวตรงนี้เลยว่าเพราะแฟน (เดือน) อยากได้ และผมให้เธอดูภาพรุ่นใหม่แล้ว เธอกลับไม่ชอบ …ไม่ถูกชะตา เราจึงตัดสินใจว่าซื้อรุ่นปัจจุบัน
และการเดินทางครั้งก็เลยเหมือนเป็นการตอบคำถามอีก 2 ข้อว่า “เราคิดถูกใช่ไหม”
และ “ทำไมผู้หญิงถึงไม่รู้สึกชอบมันเหมือนเดิม” (เพราะเดิมที Subaru XV เป็นรถที่ผู้หญิงชอบมาก)
สงสัยไหมครับ ทำไม Subaru เลือกเปิด Subaru XV ใหม่ที่ไต้หวันเป็นประเทศแรก??
คำถามนี้ทาง นายเกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้ความกระจ่างว่า ที่ไต้หวันเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ประกอบกับตัวรถสามารถนำเข้ามาขายทั้งคันได้ทันทีจากโรงงานที่ประเทศญี่ปุ่น
นั่นทำให้รถที่จะไปขายบ้านเราอาจจะมีความแตกต่างจากที่ไต้หวันอยู่บ้าง แน่นอนประการแรก บ้านเราจะเป็นพวงมาลัยขวาไม่ใช่พวงมาลัยซ้าย ตลอดจนบางออพชั่นที่เพื่อนๆจะได้เห็นอาจจะมีความแตกต่างจากในเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
ในไต้หวัน Subaru วางจำหน่าย Subaru XV ใหม่ 2 รุ่นด้วยกัน คือรุ่น 2.0i และ 2.0i-S
เมื่อไฟวับวาบเริ่มขึ้นพร้อมควันฟู่ๆ พุ่งกระจาย Subaru XV ใหม่ กระโจนออกมาเผยหน้าตาตัวเป็นของมัน ตรงหน้าเต็ม 2 ตาของผม หลังจากที่ดูผ่านภาพทางอินเตอร์เน็ตมายาวนาน
ความรู้สึกแรกที่มอง Subaru XV ใหม่ ผมยอมรับว่ารู้สึกประหลาดใจ มันดูเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ผมเริ่มสำรวจจการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับ Subaru Impreza ที่เคยไปขับมา ทางซูบารุก็ยังใช้หลักสูตรเดิม คือยกรถสูงขึ้น เปลี่ยนกระจังหน้าใหม่,กันชนหน้า-กันชนท้ายใหม่ ยกเซท ชุดล้อเปลี่ยนใหม่ผิดแผกจาก Subaru Impreza เดิม เพิ่มราวหลังคาเข้ามา ตัวรถยกสูงขึ้นกว่าเดิม
สูตรเดียวกันทำไมไม่โดนใจ.. มันก็เหมือนกินข้าวร้านเดิม แต่ทำไมไม่อร่อย
ทั้งที่ผมเองก็เป็นคนใช้ Subaru XV อยู่เป็นทุนเดิม ความจริงรุ่นใหม่น่าจะสร้างความตื่นเต้นจนกุญแจในมือสั่นกระสันอยากเปลี่ยนรุ่นใหม่ ทว่าผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น