ท่ามกลางกระแสความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ เชื่อว่าหลายคนคงจะมองข้ามรถยนต์กลุ่ม MPV (Multi Purpose Vehicle) ไปโดยปริยาย ทั้งที่รถยนต์ประเภทนี้ตอบความสามารถในการขับขี่ได้ดี เน้นขับสบาย และฟังชั่นครบครัน ที่สำคัญคันเดียวไปได้ทั้งครอบครัว
ปัจจุบันด้วยกระแสความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์มากขึ้นตามลำดับ ทำให้รถ MPV ขนาดใหญ่เหลือเพียงไม่กี่รุ่น ถ้าไม่ราคาแพงไปเลยระดับ 3-4 ล้านบาท ในแบรนด์ชั้นนำ ก็จะเล็กลงมาขนาดย่อมจนไม่พอกับการใช้งาน และไม่ได้หน้าตาดูดีมากอย่างที่ต้องการ แต่แบรนด์เกาหลีอย่าง KIA ฉีกเรื่องนี้กระจุยกระจาย พวกเขามาดนิ่งมาเงียบๆ จนวันนี้รถยนต์ MPV , Kia Grand Carnival กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากบรรดาคนที่มองหารถหรูดูดีนั่งสบาย ในราคาขายไม่ถึง 2 ล้านบาท
ทีแรกที่ผมทราบว่า KIA Grand Carnival เป็นรถที่ได้รับความนิยมจากบรรดาเศรษฐีผู้มีอันจะกินหรือครอบครัวคนจีน ที่ต้องการเดินทางคันเดียวไปหลายคน ค่อนข้างรู้สึกแปลกใจอย่างมาก เนื่องจากรถเกาหลีแบรนด์นี้แทบไม่เคยเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเลย เราทุกคนมองข้ามแบรนด์เกาหลีรายนี้ไปโดยปริยาย แต่สำหรับคนที่มีเงินพวกเขาพร้อมลองเสี่ยงอะไรใหม่ๆ และด้วยจำนวนรถที่เยอะขึ้น เห็นได้จนชินตาในวันนี้ จึงทำให้เราต้องขอเอามันมาลองกันสักหน่อย
เห็นหน้าค่าตาทีแรก เจ้า KIA Grand Carnival ดูเหมือนสิงโตทะเลตัวยักษ์ พี่ใหญ่ใจดีดูเป็นมิตรแอบแสยะยิ้มตั้งแต่แรกพบ ในระยะหลังแบรนด์เกาหลีเปลี่ยนตัวเองไปมาก พวกเขาเริ่มมีเอกลักษณ์ในการออกแบบหลังไปฉกตัวนักออกแบบสำคัญจากแบรนด์ยุโรปมากมาย โดยเฉพาะการออกแบบกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Tiger Nose แต่งแต้มความดูดีลงตัว เพิ่มความหรูหรา ตัวรถมาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ น่าเสียดายพวกเขายังไฟหน้าแบบฮาโลเจน จนดูเหมือนตั้งใจลดต้นทุน
เทียบกับรถรุ่นอื่นแล้ว KIA ดูแปลกด้วยทรวดทรงการออกแบบตลอดคันที่แอบดูสปอร์ต ตัวรถป่องกลมตลอดคัน ทั้งหมดนั้นเพื่อให้การออกแบบตรงตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุด บนหลังคาให้ราวหลังคามาพร้อมใช้งาน ด้านข้างมาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้า ทั้ง 2 ข้าง รวมถึงประตูบานหลัง เปิด- ปิด ด้วยไฟฟ้า ทั้งหมดสามารถสังการได้จากรีโมทด้วย ตัวรถลงตัวกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว จัดมาพร้อมยางขนาด 235/60/R18 ใช้ยางค่ายเกาหลีคัมโฮ … (Khumho) ตอบสนองเรื่องการขับขี่
เรือนร่างภายนอกที่ดูดีแอบหรูหน่อยๆ มาพร้อมความโอ่อ่าของการโดยสารด้วยขนาดตัวรถยาวน้องๆ รถกระบะยักษ์ยุคปัจจุบันด้วยความยาวตลอดคัน 5,115 มม. กว้าง 1,985 มม. และสูง 1,755 มม. เมื่อรวมราวหลังคา ให้ฐานล้อยาวถึง 3,060 มม. เรียกว่าใหญ่ยาวของจริง
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไร เมื่อคุณขึ้นนั่งตอนหน้า แล้วหันมองหลังแล้วมองภายในห้องโดยสาร ต้อนรับการโดยสารสูงสุดถึง 11 ที่นั่ง สามารถขนทีมฟุตบอลโรงเรียนไปเตะกันได้สบาย มันดูช่างรโหฐาน มีที่นั่งทั้งหมด 4 แถว เบาะ 3 แถวหน้า สามารถปรับเลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้ เบาะกลางของทุกแถวเป็นแบบจัมพ์ซีท ถ้าพับเก็บจะมีพื้นที่มากพอจะเดินผ่ากลางตัวรถได้สบาย
ส่วนแถวสุดท้ายพับซ่อนอยู่ใต้พื้นหลังเบาะแถว 3 การติดตั้งเบาะแถวที่ 4 คุณจำเป็นต้องเปิดประตูท้าย แล้ว แล้วออกแรงดึงเชือกสักหน่อย ก็สามารถเสกเบาะแถวขึ้นมาใช้งานได้ดั่งใจ
ตรงหน้าคนขับ ค่ายเกาหลีเอาใจด้วยการออกแบบภายในโทนสีเบจ ตัดทูโทนด้วยสีดำ ยิ่งช่วยให้เจ้า Kia Grand Carnival ดูสว่างมากขึ้นไปอีก ให้ความอบอุ่นคล้ายอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในบ้าน ครบเครื่องในการขับขี่ด้วยความทันสมัย ด้วยเบาะปรับไฟฟ้า คู่หน้า ฝั่งคนนั่งมีปุ่มปรับไฟฟ้าทางด้านข้าง เผื่อให้คนขับช่วยปรับเบาะให้คนนั่งหลับตาพักสบาย ความกว้างของตัวรถเกือบ 2 เมตร อาจทำให้คุณดูเหินห่างจากตุ๊กตาหน้ารถ มันคั่นด้วยคอนโซลกลาง ห่างแค่ไหน ลองคิดดูว่า คุณสามารถทำได้เพียงแตะไหล่คนข้างๆ เท่านั้น
คนขับได้พวงมาลัย 3 ก้าน มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ควบคุมเครื่องเสียง – รับโทรศัพท์ และระบบ Cruise Control มาให้ครบครัน น่าเสียดายเจ้านี่ยังใช้ไมล์ระบบเข็มเหมือนเดิม แต่ตัวเลขใหญ่ชัดเจนดี ตรงกลางมีจอแสดงข้อมูลมาให้ บอกได้หลายอย่างอาทิ ระยะทางที่เหลือขับได้ ,การใช้คันเร่ง และอัตราบริโภคน้ำมันโดยเฉลี่ย
ตรงกลางเป็นระบบเครื่องเสียงใช้งานง่ายทำงานผ่านการสัมผัส มาพร้อมแผนที่ในการเดินทางของ Hood Dood มันอาจไม่คุ้ยเคยกับบ้านเราเท่า Garmin / iHere / Google Map หากเรื่องการนำทางก็ใช่ว่าจะเป็นรองที่เรารู้จัก แค่เราใช้งานในระบบอาจจะไม่ชิ้นมือเท่านั้นเอง สุดท้ายก็กลับไปเปิดแมพใน Google เหมือนเดิมก็เท่านั้นเอง
ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สามารถคุมบรรยากาศภายในห้องโดยสารได้ทั้งตอนหน้าและตอนหลังตามต้องการ ด้านหน้าสามารถแยกอิสระซ้าย-ขวาได้ตามต้องการ และควบคุมอุณหภูมิ -ความแรงพัดลมให้ทางด้านหลังได้ด้วย
ตรงกลางคันเกียร์ทรงราวกับคันบังคับคันเร่งเครื่องบิน สไตล์แปลก และที่ดีกว่าคือคุณได้เบาะอุ่นร้อน คู่หน้า พร้อมระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอด เอาไว้ช่วยในการพาเจ้าสิงโตยักษ์คันนี้เข้าที่แคบหรือจอดรถแถมมีโหมดขับประหยัดด้วยในตัว รวมถึงคนขับยังสบายในหน้าหนาวด้วยพวงมาลัยอุ่นร้อน
เรื่องการเก็บของคุณสบายใจได้หายห่วง บรรดาช่องเก็บของต่างมีให้เยอะแยะมากมาย ทั้งช่องเก็บเหรียญ ที่วางแก้วน้ำ ที่วางขวดน้ำมีให้ครบหมดทุกที่นั่ง และสำหรับใครที่ติดพวกอุปกรณ์พกพาในเจ้า Kia Grand Carnival มีช่องเสียบชาร์จ USB เฉพาะในคอนโซลกลางด้วย
ใต้เรือนร่างใหญ่ ยาว ขนเยอะคันนี้ KIA Grand Carnival พกเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร CRDi ให้กำลัง 197 PS สูงสุดที่ 3,800 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร ปล่อยแรงบิดต่อเนื่องตามยุคสมัยตั้งแต่ 1,750 – 2,900 รอบต่อนาที จากข้อมูล Eco Sticker ปล่อยไอเสียต่ำเพียง 154 กรัม/กิโลเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตอบความสามารถในการขับขี่ด้วยการเลือกปรับโหมดเข้าเกียร์เองก็ได้ ถ้าต้องการ ทว่าด้วยกำลังเหลือเฟือประกอบกับหัวเกียร์ที่จับไม่ค่อยถนัดมือเท่าไรนัก ระหว่างที่นำเจ้ารถคันนี้มาทำรีวิวแทบจะไม่เคยต้องใช้งานในโหมดดังกล่าวเลย ส่วนในกรณี ถ้าจะจอดขวางชาวบ้าน การเข้าเกียร์ N ง่ายมาก เพียงกดปุ่ม shift lock ก็ลากคันเกียร์มาที่ N ได้ทันที แต่ผมไม่แนะนำให้จอดขวางใคร เนื่องรถค่อนข้างหนักเข็นยากพอสมควร
ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ เชื่อว่าใครก็ต้องกังวลว่ามันน่าจะขับยาก ก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้าคุณเป็นแม่บ้านที่เคยใช้แต่รถเก๋งขนาดเล็กมาเจอรถขนาด 5 เมตร คงจะรู้สึกว่าชีวิตลำบากขึ้น แต่ถ้าคุณเคยผ่านพวกรถกระบะหรืออเนกประสงค์มาแล้ว เจ้าสิงโตยักษ์เลือดเกาหลีคันนี้ขับง่าย และสะดวกกว่ามาก
ด้วยการเซทระบบบังคับเลี้ยวแร็คแอนด์ พิเนียนผ่อนแรงด้วยไฮโดรลิคให้ความรู้สึกตอบสนองดี น้ำหนักพวงมาลัยไม่มากไปกำลังดี เมื่อรวมกับพละกำลัง 197 PS จากเครื่องยนต์ดีเซล เจ้ายักษ์นี่ก็คล่องแคล่วมากในเมือง จะมีปัญหาบ้างก็เมื่ออยู่ในพื้นที่การจราจรคับคั่งจริงๆ ร่าง 5เมตร เป็นอุปสรรคต่อการมุด และมุมอับจุดบอดตั้งแต่เสาบีเป็นต้นไป ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะบรรดามอเตอร์ไซค์ที่อาจหายตัวได้ในจุดดังกล่าว รวมถึงตอนจอด โดยเฉพาะจอดขนานข้างทาง จะหาที่จอดยากสักหน่อย
ที่น่าแปลกใจที่สุด ก็ไม่พ้นอัตราประหยัด จากที่ลองขับในเมืองจนได้ระยะทางกว่า 105 ก.ม. เราเติมน้ำมันไป 11.81 ลิตร คิดเป็นอัตราประหยัด 8.89 ก.ม./ลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้กับรถแม่บ้านขนาดใหญ่คันนี้
รถสไตล์ MPV โดยส่วนใหญ่นอกจากใช้รับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียน ใช้จ่ายตลาดแล้ว เราค้นพบว่าหลายคนใช้มันเพื่อการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ไม่สมบุกสมบันมาก หลายเดือนแล้วที่ผมสัญญากับแฟน ว่าจะพาไปทานอาหารเกาหลีที่พัทยา ก็เลยถือโอกาสนี้ขับรถเกาหลีไปทานอาหารเกาหลีเลยแล้วกัน
เมื่อขับออกเดินทางไกล โดยวันนี้เรามีผู้โดยสารรวมคนขับ 3 คน ในรถ เจ้า KIA Grand Carnival ขับสบายมากเกินหน้าตาของมัน ความสามารถของระบบกันสะเทือนเจ้าสิงโตยักษ์คันนี้ ด้วยความใหญ่ ยาว และ หนักอึ้งของตัวรถทางค่ายเกาหลีจึงเน้นเซทรถโดยใช้น้ำหนักตัวมันให้เกิดประโยชน์สูงสุด กดทับบนช่วงล่างแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมระบบโช๊คอัพแก๊สทางด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นระบบมัลติลิงค์ ตามสไตล์รถแม่บ้านทั้งหลายที่เน้นความสามารถในการนั่งสบาย
การเซทช่วงล่างโดยเน้นการกดทับน้ำหนักของรถผสานการเข้ากับการทำงานของระบบกันสะเทือนที่มีความแข็งในระดับหนึ่ง ทำให้ผลัพธ์กลับกลายเป็นความนุ่มสบายอย่างไม่น่าเชื่อ ย่านความเร็วต่ำเมื่อครั้นขับในเมือง ฝาท่อกทม.ทั้งหลายไม่ใช่อุปสรรค์ที่จะทำให้เจ้ายักษ์คันนี้สะดุ้งสะเทือน มันเป็นรถที่นั่งสบายดุจโดยสารพรมหมวิเศษ แต่อาจไม่เท่ารถยุโรปชั้นนำราคาหลายล้านบาท
ในยามขับด้วยความเร็วอย่างที่เรากำลังฮ้อบนมอเตอร์เวย์ไปยังพัทยาแบบนี้ KIA Grand Carnival ให้ความรู้สึกมั่นใจในการขับขี่อย่างมาก ความหนักแน่นด้วยน้ำหนักระดับช้างน้ำทำให้รถนิ่งในย่านความเร็วสูง และแม้จะขับเร็วก็ดูไม่น่ากลัว มันดูควบคุมง่าย แถมไม่มีปัญหาเรื่องลมพัดสอบทางด้านข้างจะพารถเป๋จนน่ารำคาญใจ
ยิ่งกว่านั้นความสามารถในการเข้าโค้งเจ้านี่ ไม่ได้ย่อหย่อนกว่ารถเก๋งเลย มันเข้าโค้งที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ในโค้งกว้างความเร็วสูงได้ หรือในบรรดาโค้งแคบเช่น โค้ง 270 องศา จากถนนราชพฤกษ์ไปยังปากเกร็ด เข้าโค้งโดยไม่ใส่ไลน์ (ไม่เข้านอกชิดใน) ก็ยังสามารถทำความเร็วในโค้งในระดับ 85-90 ก.ม./ช.ม. เป็นระดับที่น่าพอใจ แต่ถ้าเข้าแรงกว่านี้ อาการท้ายไหลจะเริ่มมากทักทายเป็นจุดที่คุณต้องเริ่มตระหนัก ว่าควรจะผ่อนคันเร่ง เนื่องจากคุณขับเข้ามาในโค้งเร็วเกินไป
และเราอยากบอกคุณไว้ตรงนี้ว่า รถคันนี้ไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวมาให้ ดังนั้นสมควรจะต้องเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนด้วยความระมัดระวัง อย่าขับแบบห่ามๆ ทว่าคงไม่มีใครบ้าเอารถ MPV ไปซิ่งหรอกจริงไหมครับ
ด้านเครื่องยนต์ดีเซลของมันขับสนุกมากเมื่อออกเดินทางไกล อันที่จริงผมว่า เครื่องยนต์ 2.2 ใต้เรือนร่างเจ้านี่เร่งได้ดีพอๆกับรถกระบะบ้าพลังปัจจุบัน พวกแต่งซิ่งควันดำ มาแหย่แม่บ้านคันนี้ระวังมีเจอตบเกรียนเข้าให้ เพราะจากการทดสอบอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. มันได้ค่าเฉลี่ยสุดเร้าใจ 10 วินาทีเท่านั้น
ถ้าเทียบกับบรรดากระบะสายแรงชั้นนำจากโรงงานสมัยนี้ ที่ทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. อยู่ 11-12 วินาที แล้วแต่รุ่น เจ้าสิงโตคันนี้น่าจะมีพาเหวอ เมื่อเห็นรถทรงพ่อบ้านแม่บ้านวิ่งปลิวชนะคุณ เจ้านี่เป็นรถ “อ้วนพลิ้ว” ของจริง อย่าดูถูกเพียงกายภายนอก
มันเร่งดีพอๆ กับกระบะเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร ที่มีกำลัง 180 กว่าแรงม้า ด้วยซ้ำไป เพียงแต่น้ำหนักตัวรถมากกว่าทำให้การตอบสนองดูจะเฉื่อยชากว่าสักหน่อยในช่วงแรก อาการจะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่จุดแรงบิดสูงสุดระนาบต่อเนื่อง รถจะพุ่งแทบบิน ถ้าคุณเอาศรีภรรยาหรือเด็กๆ นั่งไปด้วยแล้วขับแบบพอล วอล์คเกอร์ ลงประทับร่างกล้าพูดว่ามีกรีดร้องกันสนั่นรถ มันสนุกในช่วงรอบแรงบิดสูงและยังทรงพลังต่อเนื่องแม้จะผ่านจุดนั้นไป เพียงอาจจะต้องกดคันเร่งหนักๆ รีดรอบใช้แรงบิดจากรอบเกียร์แทน
ส่วนเรื่องความประหยัดจากการทดสอบ ขับจากบางใหญ่มาพัทยา ใช้เส้นทางทางด่วน มาขึ้บรูพาวิถี ตัดวิ่งเข้าเรียบข้างมอเตอร์เวย์ ตลอดการเดินทางใช้ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เป็นพื้นฐาน และทำความเร็วเวลาเร่งแซง 130-140 ก.ม./ชม. ผมจบ อัตราประหยัด 10.94 ก.ม./ลิตร ถือว่าค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อ
อีกเรื่องที่ผมดูจะต้องชมเจ้า KIA Grand Carnival ใหม่ เห็นทีจะต้องยกความดีความชอบให้เรื่องการเก็บเสียงของห้องโดยสาร จอดนิ่งๆ นั่งในรถ ไม่มีเสียงเครื่องดีเซลมาดังรบกวนให้ระคายหูแต่อย่างใด แถมเมื่อขับด้วยความเร็วเดินทาง 120 ก.ม./ช.ม. เจ้านี่เก็บเสียงดีมาก เสียงลม เสียงยางไม่มีเล็ดรอดมาให้รำคาญใจ
เทียบชั้นกับรถในเกาหลีระดับราคาไล่กัน Hyundai H1 ผมว่า KIA เก็บเสียงดีกว่า ส่วนหนึ่งมาจากทรงรถที่ไม่ได้ออกแบบให้เป็นทรงกล่องมากจนเกินไป แต่ถ้าเทียบรถระดับราคาหลายล้านบาท โดยเฉพาะเจ้าใหญ่ Toyota Alphard/ Vellfire มันยังเก็บเสียงดีไม่เท่า อย่าลืมนะครับ คุณจ่ายถูกกว่าตั้งเป็นล้านบาท
KIA Grand Carnival พี่ใหญ่สายพ่อบ้าน ขาดของต้องประสงค์ …
ขับมาหลายวัน ผมคิดว่า KIA Grand Carnival ค่อนข้างดีงามมากว่าที่หลายคนคิด รถแบรนด์ไม่ดังในไทยกลับทำให้เรารู้สึกว่านี่คือรถที่ต้องมอง ถ้าคุณมีครอบครัวใหญ่ต้องเดินทางไปด้วยกันหลายคน น่าเสียดายรถแบบมินิแวน หรือ People mover แบบนี้ไม่ค่อยเป็นที่ต้องการในไทย เว้นบ้านคุณมีครอบครัวใหญ่ที่ต้องแห่แหนไปเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง
หลังจากขับรถคันนี้ ผมว่ามันเป็นรถที่ดีในหลายด้าน โดยเฉพาะในแง่ความสามารถในการขับขี่ที่เหนือชั้น คุณอย่าไปคิดว่ารถเกาหลี มันจะสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้ เดี๋ยวนี้พวกมันไม่ธรรมดา ออกแบบดูดีแบบยุโรป สมรรถนะได้ใจแบบรถอเมริกา
ผมไม่แปลกใจที่รถคันนี้จะขับได้ดีมากเกินราคา ด้วยความต้องการของ KIA ในการมุ่งเป้าไปตลาดอเมริกา ซึ่งรถมินิแวนเป็นที่นิยม ถึงจะมีกระแสการเปลี่ยนแปลงจากรถตู้แบบนี้มาทรงซีดานกลาง หากอเมริกันชนจำนวนมากก็ยังใช้รถแบบนี้ เนื่องจากมีกิจกรรมต้องทำหลายอย่าง ทั้งพาลูกไปเรียน พาเพื่อนลูกไปตีเบสบอล ชวนกันไปเที่ยวออกแคมป์ ผลลัพธ์การพัฒนาจึงออกมาเป็นสไตล์รถอเมริกันจ๋ามากๆ และดีในแง่การใช้งาน
อย่างไรก็ดี ถึงเครื่องจะแรง ขับคล่อง มั่นใจในยามเดินทาง แต่น่าเสียดายที่ทาง ยนตรกิจ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและนำเข้ารถยนต์ KIA Grand Carnival ในบ้านเรากลับตอนออพชั่นทางด้านความปลอดภัยออกไปหลายรายการ
ไม่ว่าจะระบบควบคุมการทรงตัวของรถ ซึ่งดูแล้วพวกเขาคิดว่าพ่อบ้านแม่บ้านอาจขับไม่เร็วมันไม่จำเป็นในแง่การทำราคาให้สู้ตลาดได้ ทว่าเมื่อนับว่าจ่ายรถราคาเฉียด 2 ล้าน กับค่าตัว 1,928,000 บาท ยังไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวมาให้ก็น่าคิดไม่น้อย ต่อให้รถขับดีมากก็น่าจะใส่เข้าเพื่อเสริมความเหนือชั้นกว่าคู่แข่ง (Hyundai H1) ไม่ใช่ คู่แข่งไม่มี ฉันก็ไม่มีตามไปด้วย
นอกจากนี้พวกถุงลมนิรภัยที่เคยมี 6 จุด ในเวอร์ชั่นเกาหลีใต้ ใกล้บ้านเรามาหน่อยก็เวอร์ชั่นขายในออสเตรเลีย กลับหายไปอย่างลึกลับ เหลือเพียงถุงลมนิรภัยคู่หน้าพร้อมเข็มขัดนิรภัย 3 จุดเท่านั้น มิหนำซ้ำระบบความปลอดภัยประเภทตัวช่วยในการขับขี่ก็ยังถูกทอนออกไปด้วย ไม่ว่าจะระบบเตือนมุมอับในระหว่างการขับขี่(ผมว่าอันนี้จำเป็นเนื่องจากรถมีขนาดใหญ่), ระบบเตือนหลุดเลน,ระบบเตือนการชนทางด้านหน้า , หรือเตือนขณะถอยออกจากซองจอดรถ ทั้งหมดที่กล่าวมาหายเกลี้ยง ไม่มีให้ใช้
อีกอย่างที่อยากเตือนคนที่ต้องนั่งโดยสารเต็มในการเดินทาง คือคุณต้องจัดวางผู้โดยสาร ให้เหมาะสมกับที่นั่งด้วย เบาะนั่งตรงกลางของทุกแถวที่พับปรับไปด้านข้างเบาะนั่ง ทั้งหมดเป็นเบาะแบบจัมพ์ซีท หรือ เบาะพับหลังแข็งแบบรถตู้ในสมัยก่อน เบาะนี้ไม่ควรให้ผู้ใหญ่สูงอายุหรือคนตัวใหญ่นั่งโดยเด็ดขาด รับประกันว่านั่งทางยาวปวดเมื่อยหลังแน่
เช่นเดียวกันกับเบาะแถวที่ 4 อาจจะติดตั้งง่ายใช้สะดวก แต่ยังต้องออกแรงเยอะไปหน่อย ผมลองให้เดือนติดตั้งเบาะแถวที่ 4 ด้วยตัวเอง เดือนบอกว่า มันค่อนข้างหนักไปหน่อย ที่สำคัญเบาะแถว 4 เป็นเบาะที่มีพื้นที่วางขาแคบ แม้จะปรับเลื่อนแถวที่ 3 แล้วก็ตาม มันเหมาะให้คนโดยสารนอน หรือถ้านั่ง ก็คงจะต้องเป็นเด็กๆ อายุไม่เกิน 7 ขวบ
KIA Grand Carnival เป็นรถที่ผมไม่เคยมอง และวันนี้ดีใจที่ได้มีโอกาสสัมผัสมัน เจ้าพ่อบ้านคันนี้เป็นเอ็มพีคันโตสุดคุ้ม ถ้าคุณมองหารถสำหรับขนคนจริงจัง และต้องการความมั่นใจในการขับขี่ น่าเสียดายที่มันขาดพวกระบบตัวช่วยต่างๆ ทางด้านความปลอดภัย ไม่งั้น มันจะเป็นตัวเลือกสุดเลิศ ถ้าคุณต้องการรถย้ายบ้านคันโต
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Ridebuster.com ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง Facebook
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”515″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]