Home » Full Review: Ford Ranger 2.0 Turbo Limited 4X4  ครบเครื่องในราคาคุ้มค่า
Full Review รีวิว

Full Review: Ford Ranger 2.0 Turbo Limited 4X4  ครบเครื่องในราคาคุ้มค่า

ถ้าให้ผมพูดถึงกระบะที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในใจคนไทยหลายคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า วันนี้ค่ายวงรีสีน้ำเงิน สามารถพาเจ้า   Ford Ranger   ผงาดอย่างองอาจ ด้วยความโดนใจในหลายด้าน ทั้งความบึกบึน ออพชั่น ไปจนถึงสมรรถนะที่ถูกกล่าวขานในแง่ความลงตัว และในปีนี้พวกเขากลับมาด้วยรุ่นใหม่พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ที่ทำให้หลายคนต้องกลับมามอง ถ้าจะสนใจซื้อกระบะสักคัน

การเปิดตัว   Ford Ranger   ใหม่ อาจแปลกไปนิดด้วยการไม่ใส่เครื่องยนต์ใหม่มาในทุกรุ่นเหมือนกระบะเจ้าอื่นที่จะเปลี่ยนจัดมันยกทั้งไลน์อัพจะได้ดูสดใหม่ลงตัวต่อความต้องการ แนวทางของฟอร์ดใช้การอัพเดทเครื่อง 2.2 เดิม และเสริมทัพด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว มีให้เลือกในรุ่น   Limited   ส่วนเครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ประจำการเพียง 2 รุ่น คือในรุ่น  Ford Ranger Raptor  และ   Wildtrak  เท่านั้น ยิ่งเมื่อมองมาถึงราคาขายแล้วหากต้องการถที่ดูใหม่ทั้งคัน รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่าที่สุดเลยก็ว่าได้

ผมเฝ้ารอที่จะขับ  Ford Ranger  เครื่องยนต์ใหม่ และเหมือนเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต เผอิญเจ้า   Ford Ranger 2.0  Limited   4X4  คิวว่างไม่มีใครใคร่สนใจมันเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นรุ่นออพชั่นน้อย จนนักข่าวหลายคนไม่สนใจ แต่สำหรับผมมันเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีราคากำลังไม่ถูกหรือแพงไปนัก แถมฟอร์ดยังเพิ่งทำรถเครื่องเล็กขับสี่ออกมาขาย หลังจากโดนสาวกกระหน่ำถามมาตลอด วันนี้เราจะมาเพื่อนขับรถคันนี้ครบรสไปด้วยกันครับ

รีวิว Ford Ranger 2018

เจอหน้า   Ford Ranger  2.0 Turbo Limited 4×4   ครั้งแรก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ มันดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก ตัวรถในภาพรวมใช้การออกแบบดั้งเดิมตั้งแต่ที่เปลี่ยนออกมาเมื่อคราวที่แล้ว จุดต่างมีเพียงกระจังหน้าใหม่ ลายแถบหนากลายเป็นแถบแคบ ดูเหมือนหยิบยืมมาจากเอเวอร์เรส ลงตัวกับโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ให้ไฟส่องสว่าง LED   

ด้านข้างกระจกมองข้างเป็นโครเมียม ชุดคลีบข้างที่เคยบอกขนาดเครื่องยนต์ถูกลบออกไม่บอกขนาดเครื่องยนต์อีกต่อไป เปลี่ยนล้อลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ติดตั้งมาพร้อมยาง  Bridge Stone  Dueler HT  ขนาด 265/60/ R18  พร้อมสรรพเรื่องการใช้งาน ส่วนด้านหลัง ช่วงกระบะไฟท้ายไม่ได้เปลี่ยนใหม่อะไร มีเพียงชุดไฟเบรกดวงที่ 3 หลังห้องโดยสารที่สามารถใช้ส่องหาของท้ายกระบะยามค่ำคืน   

                   รีวิว Ford Ranger 2018

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

รับกุญแจมางวดนนี้กลายเป็น   Keyless   ให้ความสบายในการใช้งานมากขึ้น สัมผัสประตูข้างขึ้นไปในรถ การออกแบบภายในยังคงสไตล์ทันสมัยดูน่าใช้งาน

ในตัวรุ่น   Limited   คันนี้ ชุดหน้าปัดตรงหน้าคนขับ เป็นจอดิจิตอล 2 ข้าง ขนาดจอละ 4.2 นิ้ว  ด้านซ้าย ไว้ดูพวกระบบเครื่องเสียงและการเชื่อมต่อ ส่วนด้านขวา บอกการทำงานาต่างๆที่ควรรู้ ไปจนถึง ค่าในการเดินทาง   Trip 1-2   และ อื่นๆ ที่เกี่ยวกับการขับขี่ ตรงกลางเป็นไมล์ความเร็ว ยังใช้แบบเข็มดูมีเสน่ห์ไม่หยอก แต่ที่ขัดใจ ซึ่งผมต้องเรียนตามตรง คือรอบเครื่องยนต์ที่กลายเป็นแบบดิจิตอล อ่านค่าได้ไม่ชัดเจน อยากให้ฟอร์ดลองไปทบทวนเรื่องเรือนไมล์สักนิด ซึ่งจำเป็นในการใช้งาน

เหลียวมองตรงกลาง ชุดจอเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ววางไว้ให้ใช้งานอย่างเรียบง่ายและงวดนี้ ระบบ   Sync 3   ใช้ในการเชื่อมต่อกลายเป็นภาษาไทยเข้าใจง่ายมากขึ้น เท่าที่ทดลองใช้อาจจะต้องทำความเข้าใจเมนูกันอยู่บ้างในช่วงแรกๆ 

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

ถัดลงมาเป็นลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติสามารถแยกอิสระซ้าย-ขวาได้ตามต้องการ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน ระหว่างคนนั่งและคนขับ ให้ลำบากใจ ส่วนด้านล่างเป้นชุดคันเกียร์ พร้อมปุ่มควบคุมระบบช่วยเหลือในการขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบลงทางลาดชัน  และปุ่มโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้มือหมุนแบบปกติ คือ  2H ,4H  และ  4L  

น่าแปลกงวดนี้ทางฟอร์ดยัดความคิดจากเก๋งเข้ามาในรถกระบะ ถ้าคุณหาว่าโหมดเปลี่ยนเกียร์อยู่ตรงไหนไม่เจอ ให้ดูที่หัวเกียร์ ทางวิศวกรฟอร์ด จับเจ้าตัวเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ไปซ่อนไว้ตรงนั้น เพื่อให้ความสวยงามในห้องโดยสาร แต่ผมว่ามันใช้งานยากไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อขับทางลุย

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

มาดูทางด้านหลัง ไม่มีอะไรหวือหวามากมายนักไม่มีช่องแอร์ทางด้านหลังหรือช่องเสียบ   USB   มาอำนวยการใช้งานในยามโดยสาร 

เรื่องเบาะนั่ง Ford Ranger   ใหม่ ถือว่ายังทำเบาะนั่งออกมาได้ดีเหมือนเคย เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยมือใช้งานเข้าใจง่ายมีปรับสูงต่ำมาให้  ฝั่งคนนั่ง เลื่อนเข้า-ออกและปรับพนักเอนหรือตั้งตรงได้ เบาะตอนหลังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พื้นที่วางขามีมาให้ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะคนตัวใหญ่ก็นั่งได้อย่างไรกังวล รองรับการโดยสารสูงสุด 5 ที่นั่ง ถ้าจำเป็นต้องโดยสาร แต่ผมว่า นั่ง 4 คน สบายกำลังดีไม่อึดอัดเกินไป

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

หลายคนเห็นขนาดเครื่องยนต์ ฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ เป็น 2.0 ลิตร ตอนขนาดห้องเผาไหม้ลงอีก 200 ซีซี คงคิดว่ามันไม่น่าจะขับดีเท่าเดิม แต่น่าแปลกใจที่ทางฟอร์ดกลับสามารถปั้นกำลังได้มากกว่าเดิม จนมายืน ที่ 180 แรงม้า ให้กำลังแรงบิด 420 นิวตันเมตร คาดว่าจะอัดบูสต์มาหนักว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

แถมงวดนี้ทางค่ายวงรีสีน้ำเงินยังใส่ทีเด็ดระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เข้าประจำการ ชุดเกียร์ที่ถึงคราวจากลาไปพร้อมเครื่องยนต์บล็อกเก่า หลายคนได้อ่านข่าวครั้งแรกคงเกาหัวว่าเราจะต้องการเกียร์เยอะพอๆ กับน้องๆ รถสิบล้อไปทำไมกัน

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

เมื่อมาดูรายละเอียดทางเทคนิคชุดเกียร์ อัตราทดของเกียร์แต่ละตำแหน่งของเกียร์  Ford 10R80   ตำแหน่ง   Over Drive  มากถึง 3 ตำแหน่ง  

อัตราทดเกียร์   Ford 10R80 –   Ford Ranger 2018 (อ้างอิง  Wikipedia)

เกียร์ 1 4.70
เกียร์ 2 2.99
เกียร์ 3 2.15
เกียร์ 4 1.80
เกียร์ 5 1.52
เกียร์ 6 1.28
เกียร์ 7 1.00
เกียร์ 8 (over Drive) 0.85
เกียร์ 9 (over Drive) 0.69
เกียร์ 10  (over Drive) 0.64
เกียร์ ถอยหลัง 4.87

 

กดปุ่มสตาร์ท กวาดพวงมาลัยออกสู่โลกถนนความจริงครั้งแรก การเซทพวงมาลัยไฟฟ้า  Ford Ranger  ใหม่ ดีขึ้นให้ความรู้สึกน้ำหนักเบา มีความตึงมือกระชับต่อการตัดสินใจหมุนไปซ้ายหรือขวากำลังดีไม่ฟรีทิ้งเยอะ จนเฉื่อยชาเหมือนรถหลายยี่ห้อชอบเซทกระบะให้มีระยะฟรีพวงมาลัย เผื่อการตัดสินใจ ทั้งที่เวลาเปลี่ยนทิศทางบังคับเลี้ยวจริงจะดีเลย์การตอบสนองอีกเล็กน้อย

ทางด้านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น ถึงเครื่องยนต์จะเล็กลง ทว่ากำลังมากขึ้นช่วยให้มันตอบสนองดีขึ้น นอกจากนี้ชุดเกียร์ 10 สปีดเอง ก็มีอัตราเกียร์ 1 ที่สูงมาก (เทียบกับเกียร์ 6 สปีด เกียร์ 1 อัตราทด 4.17) ช่วยให้การออกตัวจากเครื่องยนต์บล็อกเล็ก ดูไม่เหนื่อยเท่าเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร รุ่นเดิม 

แถมจังหวะเดิมที่จะมีอาการต้องเร่งเครื่องไปก่อนสักหน่อยแล้วประกบชุดเกียร์เพื่อเอาแรงบิดที่มีในรุ่นเดิมก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง เวลากดคันเร่ง   Ford Ranger 2018   รู้สึกติดเท้ามากขึ้น เครื่องเร่งทันใจมากขึ้น  ระบบเกียร์เอง ก็แสนฉลาด มันไม่ได้ไล่อัตราทด 1-10 อย่างที่คุณเข้าใจ มันจะกระโดดข้ามเกียร์ที่คิดว่าเหมาะสมในการใช้งาน จากที่ผมขับส่วนใหญ่สังเกตว่า เกียร์จะออกตัวเกียร์ 1 แล้วข้ามไปยังเกียร์ 3 ,เกียร์ 5  จากนั้นไล่ตามปกติ จาก 5 ไปจนถึง 10 ตามช่วงความเร็วที่คุณขับขี่  แต่ขับในเมืองสังเกตจะใช้ไม่เกินเกียร์ 8 (ส่วนใหญ่ในเมืองใช้ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม.)

ด้านเครื่องยนต์ใหม่ นอกจากจะแรงขึ้นจนขับแล้วรู้สึกติดเท้าทันใจมากขึ้น ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันเหมือนจะเบากว่าเครื่องยนต์รุ่นเดิมด้วย แม้ว่าจะไม่ทราบข้อมูลเชิงเทคนิคว่า มันเบากว่าเท่าไรหากที่สัมผัสได้จากการขับขี่พบว่า รถตอบสนองเวลาเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนดีขึ้น การเทตัวระหว่างเข้าโค้งน้อยลงจนพอรู้สึกได้ ผมลองเข้าโค้งที่เข้าประจำโดยเทียบกับกระบะอเมริกันอีกยี่ห้อ บอกเลยว่า ฟอร์ดเรนเจอร์ใหม่ โคลงตัวน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าความสูงของมันจะมากกว่าเล็กน้อย

พูดถึงการขับขี่ในเมืองเผลอแวบเดียวขับไป  113.4 กิโลเมตร ได้เวลาวัดอัตราประหยัดการใช้งานในเมืองตามสภาพการจราจรจริง ผมเติมคืนถังไป 13.07 ลิตร พอดีเป๊ะๆ  คำนวณอัตราประหยัดออกมาได้ 8.6 ก.ม./ลิตร ถือว่ากินอยู่บ้างพอสมควร แม้ว่าจะอ้างว่า  180 แรงม้า ใต้ฝากระโปรง และเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่ต้องแบกน้ำหนักมากกว่า หากความคาดหวังจากเครื่องยนต์ 2000 ดีเซล ก็น่าจะได้อัตราประหยัดที่ดีกว่านี้สักหน่อย

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

 

หลังจากขับในเมืองในวันธรรมดา สุดสัปดาห์ก็ได้เวลาจองทริปไปเที่ยว มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ไหนจะดีไปกว่าหาทางลุยในเละเทะในวันหยุด ผมเลือก “เขากระโจม” เพราะที่นี่ไปบ่อยจนชินและรถกระบะธรรมดาทุกรุ่นสามารถไปได้ ถ้าคุณชำนาญการมากพอ

ผมออกเดินทางจากกรุงเทพผ่านเส้นทางปิ่นเกล้า-นครชัยศรี  ปลายทางเขากระโจม,ราชบุรี หลังผ่านช่วงศาลายามา ผมค้นพบสัจธรรม   Ford Ranger  ว่ามันเป็นกระบะที่ขับได้ดีนั่งสบาย จนคนข้างๆ อาศัยจังหวะเงียบงีบหลับอย่างรวดเร็ว

ไม่น่าเชื่อว่า ระบบกันสะเทือนกระบะเดิมๆ หน้าปีกนกอิสระ 2 ชั้น หลังเป็นแหนบหลายแผ่นซ้อน จะสามารถทำให้มีความนุ่มหนึบขับได้สบาย จนใกล้เคียงกับรถเก๋งบางรุ่นที่ใช้ระบบช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม มันไม่กระเด้งกระด้าง ออกมาในทางแน่นหนึบ มีความกระเด้งอู่บ้างแต่ถือว่าน้อยมาก ช่วงล่างเอาอยู่ทั้งในยามผ่านคอสะพานจอมกระโดด หรือหลุมบ่อตามถนนในต่างจังหวัด หรือช่วงถนนปะซ่อมที่มีมากมายในไทย



ผมซูฮกเรื่องช่วงล่างมาก จนถ้าผมมีโอกาสแจกรางวัลให้ จะยกให้ว่า เป็นกระบะที่นั่งสบายอันดับหนึ่ง เป็นกระบะสร้างสมดุลดีที่สุดทั้งในเชิงการขับขี่และการโดยสาร ไม่ว่าคุณอยู่ในตำแหน่งของรถ ไม่ว่าผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ก็ใช้ประโยชน์จากมันได้เท่าๆ กัน

ทางเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ออกต่างจังหวัดแบบนี้ยังเร่งดีเหมือนเคย 180 แรงม้า ไม่เคยได้รีดสุด ถ้าไม่เข้าสู่โหมดอารมณ์ป่าเถื่อน ขับเดินทางไกลๆ ชุดเกียร์ 10 สปีด จะพยายามบีบคุณใช้รอบเครื่องป้วนเปี้ยนในช่วง 2,000 รอบต่อนาทีเกือบตลอดเวลา

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

ทุกครั้งที่คุณเริ่มกดเร่งแซง เกียร์จะพยายามทอนให้รอบเครื่องไม่กระโดดเด้งสูงขึ้นไปมากมายนักผมรู้สึกว่าเกียร์ 10 สปีดชุดนี้ให้ความรู้สึกคล้ายคุณปั่นจักรยาน คุณใช้รอบขาเท่าเดิม แต่สามารถให้อัตราความเร็วในการเดินทางมากกว่าเดิมได้โดยอาศัยอัตราทดที่ถี่เอา บางจังหวะชุดเกียร์อาจจะตบลง 2 ตำแหน่งอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เร่งแซงได้ทันใจ แล้วทดขึ้นเพื่อลดภาระรอบเครื่อง

เช่นเดียวกันในยามเบรกหนักชุดเกียร์จะช่วยทอนเกียร์ลงเพื่ออาศัยเบรกเชิงกลจากเครื่องยนต์ช่วยในการหยุดรถ โดยเฉพาะกรณีที่มาเร็วมาก ๆ แล้วต้องหยุดรถอย่างรวดเร็ว เกียร์ใหม่ไม่ได้มีดีเรื่องการช่วยในอัตราเร่ง หากยังสามารถช่วยหยุดรถได้ดั่งใจอีกด้วย

ถึงแม้ฟังแล้วเกียร์จะเริ่มมีดีกว่าเครื่องยนต์ แถมมามากถึง 10 สปีด ก็คงจะต้องประหยัดมากมาย แต่ความจริงแล้วเปล่าเลย ชุดเกียร์นี้อาจจะคงรอบเครื่องยนต์ไว้ไม่เกิน  2,000 รอบต่อนาที จากที่ขับ ที่ความเร็ว 110 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 1,600 รอบ ต่อนาที และ ที่ความเร็ว 120 ก.ม/ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 1,800 รอบต่อนาที

เมื่อมาพูดถึงอัตราประหยัดมันกลับยังไม่สู้ดีเท่าไรนัก จากทีขับมาจนถึงปากทางก่อนเข้าส่วนผึ้งผมวัดอัตราประหยัดได้ เพียง 11.85 ก.ม/ลิตร เท่านั้น ถ้าเทียบกำลังขนาดนี้กับกระบะตระกูล 2.5 ลิตร ผมพูดเลยว่า กินกว่าชัดเจน

 

ลุยโหดเขากระโจมเข้าใจเหตุผล 10 สปีด

ในรีวิวนี้คุณจะเห็นว่าผมค่อนข้างเน้นไปการพูดถึงเกียร์ 10 สปีดมากกว่าเครื่องยนต์ ส่วนหนึ่งมาจากความไม่เข้าใจของหลายคนว่าทำไม กระบะจะต้องมีเกียร์มากขนาดนั้น

เกียร์ 10 สปีดมีอัตราทดย่อยมาก หลายคนอาจจะสงสัยว่าอัตราทดย่อยเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ในเมื่อผมก็พูดว่า ขับในเมืองมันก็ข้ามเกียร์และยังกระชากด้วยซ้ำไป ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิด

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

เกียร์ 10 สปีด ส่วนหนึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการลุย การมีชุดเกียร์ที่อัตราทดให้ได้หลากหลายสามารถรีดกำลังแรงบิดจากเครื่องยนต์ได้มาก เส้นทางทดสอบสายลุยวันนี้ เรามา “เขากระโจม” ตามความตั้งใจ แต่ฟ้าฝนเหมือนจะไม่เข้าใจตกปรอยๆ ลงมาทำให้เขากระโจมวันนี้หินที่สุดเท่าที่เคยมาขึ้นเลยครับ

สภาพทางที่กลายเป็นทรายกึ่งเลนบวกเนินชันในช่วงแรก   Ford Ranger  Limited   สภาพเดิมๆ เจออุปสรรคสำคัญ คือการต้องฝ่าฝันอุปสรรคนี้ด้วยการใช้กำลังเครื่องยนต์เข้าช่วย การขับผมใช้โหมด   D   เข้าเกียร์ตำแหน่ง  4 L   มาตั้งแต่ช่วงขึ้นเขา พบว่าชุดเกียร์ 10 สปีด จะใช้เกียร์ 2 เมื่อเราต้องการใช้แรงบิดในการลุย เมื่อขึ้นเกียร์ 2 จะฝ่าอุปสรรคได้ค่อนข้างง่าย แม้จะใช้ความเร็วรอบเครื่องไม่สูง

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

อุปสรรค ถือว่าหินมากพอสมควรในวันนี้ สภาพทรายกับยาง HT  ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ผมตัดสินใช้เพิ่มรอบเครื่องส่งกำลัง สามารถผ่าไปได้ค่อนง่าย จากอัตราทดของเกียร์ที่มีให้หลากหลาย

หลังจากผ่านช่วงทรายก็มาถึงช่วงโคลนเล็กๆ ตามความชื้นของอากาศในเวลานี้ การไต่ของเราต้องออกแรงบ้างบางจังหวะ รีดกำลังให้ผ่านอุปสรรคไปได้ เมื่อมาถึงช่วงไต่หินช่องเขาคอด ความสูงของ   Ford  Ranger  ช่วยให้ผ่านได้ง่ายมันมีมุมไต่และมุมจากที่สูงลดแรงกระแทก หน้า-หลัง แถมใต้ท้องที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกระบะอื่นๆ ที่ออกมาจากโรงงานยังช่วยผ่านอุปสรรคง่ายขึ้น

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

จนมาช่วงก่อนถึงบ่อน้ำ วันนี้ดินที่ขับผ่านง่ายๆ กลายเป็นโคลนเละ หรือ ที่ภาษาชาวออฟโรดเรียกว่า “ดินขี้หมู” การคุมพวงมาลัยสำคัญมาก นาทีแบบนี้จังหวะพวงมาลัยแต่ละจังหวะยังตอบสนองได้ดีไปตามใจคนขับ ผมต้องคัดพวงมาลัยบ่อย เพื่อแก้อาการลื่นไถล ช่วงลงเนินเปิดระบบ   Hill Decent Control   เข้าช่วย จนเรามาถึงฐานดาวเรือง หรือ จุดบ่อน้ำอย่างปลอดภัย และลองลุยน้ำระดับ 80 ซ.ม. ไปยังฝั่งตรงข้ามก็ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ตัดสินใจไม่ไปต่อ เนื่องจากออฟโรดท้องถิ่นบอกว่าข้างหน้าจะโหดกว่านี้มากๆ และกลัวจะต้องนอนป่ากัน ถ้าไป   

 

สรุป   Ford Ranger Double Cab Limited 4X4   ลุยคุ้มคุณภาพครบ …

 

ขากลับออกจากเส้นทางออฟโรด ต้องใช้ฝีมือกันสักหน่อย เนื่องจากดินขี้หมู เป็นปัญหากับเราที่ใช้ยาง HT ติดตัวจากโรงงาน จนบางทีก็คิดว่า ฟอร์ดน่าจะเอาแบบโตโยต้าบ้างให้ยางกึ่งลุยในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาเลย

ผมกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมความประทับใจใน   Ford Ranger   ผมว่ามันครบเครื่องตามที่คอกระบะต้องการ ในราคาไม่แพงมากนัก แม้ว่าจะทะลุล้านบาทมานิดหน่อย แต่ผ่อนต่อเดือนก็จะอยู่ประมาณ หมื่นกว่าบาทต้นๆ ไม่ทะลุไปถึงหมื่นกลาง เหมือนตัว   Wildtrak

ในความคิด เจ้า Ford Ranger Limited 4X4   ให้ความคุ้มค่าครบเครื่องเท่าที่คนอยากมีกระบะต้องการ เสียดายที่ฟอร์ดไม่เปลี่ยนอะไรภายนอกมากมายนัก ในการปรับโฉมครั้งนี้มากมายนักอย่างที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นพัฒนาการด้านงานออกแบบมากว่านี้ หรือฟอร์ดอาจกั้กอุบไว้รอตอนเปลี่ยนรุ่นก็อาจเป็นได้

รีวิว Ford Ranger 2018 Limited

เรื่องภายในห้องโดยสารก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ด้วยตลอดหลายปีก็อัพเดทฟังชั่นมาเรื่อยๆ โดยตลอด เลยรู้สึกว่าไม่หวือหวาไม่ว้าว แถมการใช้หน้าปัดแบบชุดจอ 2 ด้าน มันกลายเป็นหอกข้างแคร่ของการให้เทคโนโลยีมากไป ทำให้ชุดวัดรอบถูกบี้เหลือเสียเล็กกว่าที่จะใช้งานได้สะดวก ทางที่ดีไม่ต้องมาเป็นวงหรอก บอกเป็นเลขดิจิตอลเลยดีกว่า

แต่ทั้งคันกลับกลายเป็นว่าผมชอบเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ สามารถตอบสนองได้ดีจนติดใจ อาการเร่งติดเท้าทันใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเครื่อง 2.2 ลิตร รุ่นเดิม แต่ยังไม่ดิบเท่าเครื่องยนต์ 5 สูบ 3.2 ลิตร ซึ่งคงต้องรอไปวัดตอนขับ   Wildtrak  หรือ  Raptor   อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี นี่เป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล ที่มีอัตราเร่งที่สุดในวันนี้  จากการทดสอบอัตราเร่งผมได้ อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เฉลี่ย 12.00 วินาที  และ 80-120 ก.ม./ช.ม. เฉลี่ย 8.66 วินาที  ถือว่าค่อนข้างเร็วกับกระบะร่างยักษ์

แต่ความดีความชอบทั้งหมดคงไม่ใช่ของเครื่องยนต์อย่างเดียว เพราะเกียร์ 10 สปีดรุ่นใหม่นี่คือ พระเอกตัวจริง มันฉลาดในการเลือกขึ้นเกียร์ และ ตบเกียร์ แถมยังมีความสามารถในการข้ามเกียร์ เลือกอัตราทดที่ดีที่สุดในการขับขี่  เช่นถ้าคุณจะทำความเร็วสูงสุด 181 ก.ม./ช.ม. จะเลือกลากเกียร์ 7 รีดกำลังเครื่องยนต์สุดๆ

ส่วนสาเหตุที่มันยังไม่ประหยัดเท่าที่ควร แม้จะมีอัตราทดมากว้างมาก เชื่อว่าน่าจะมาจากอัตราทดเกียร์สูงสุด (เกียร์ 10 ) ที่มีอัตรา 0.64 ถือว่าต่ำมากจนบางทีเกียร์เองต้องคอยสับไปมาระหว่าง 8-9-10 เพื่อพยายามคุมรอบเครื่องยนต์ให้นิ่งไม่เร่งแล้วร่วงตกลงมาก อาจเกี่ยวกับการจัดการรอบบูสต์แรงดันเทอร์โบด้วย เพื่อไม่ให้เทอร์โบมีอาการรอรอบ หรือขาดช่วงกำลัง

นอกจากนี้เครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กแล้วต้องทำกำลังให้ได้ถึง 180 แรงม้า หมายความว่าต้องใช้บูสต์เทอร์โบเยอะมากปั้นกำลัง บูสต์เทอร์โบเองก็นำมาด้วยความจำเป็นในการจ่ายน้ำมันมากขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ได้เห็นอัตราประหยัดที่สู้ดีนักแม้เครื่องยนต์จะเล็กลงมากก็ตามที

อีกเรื่องที่ต้องเอ่ยปากชมจริงๆ  ในรถรุ่นนี้คือ ระบบกันสะเทือนที่ทำออกมาได้นั่งสบายมาก จนคล้ายเก๋งที่สุด และขับได้มั่นใจที่สุด ซับแรงกระแทกจากถนนดี จนเป็นกระบะนั่งสบายที่สุดในยุค แถมเวลาต้องผลัดมือจากคนนั่งไปอยู่หลังพวงมาลัยก็ขับได้มั่นใจ ใช้ความเร็วสูงได้ไม่น่ากลัว อาการโยนโคลงตัวของรถก็น้อยลงในระดับหนึ่ง เชื่อว่ามาจากเครื่องยนต์ใหม่ และชุดเกียร์ที่คงเพิ่มศูนย์ถ่วงไว้ทางด้านล่างตัวรถมากขึ้นด้วย

ถึงบ้านผมลงมาจาก   Ford Ranger  แล้วคิดว่า กระบะฟอร์ดวันนี้จับใจลูกค้าด้วยสมรรถนะในการขับขี่ ความสบาย แต่ยังไม่ประหยัดอย่างที่หลายคนคาดหวัง แถมหน้าตาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากมายนัก ผมว่าความน่าซื้อคือสมรรถนะ และคุณจำเป็นต้องสัมผัสด้วยตัวเอง ถ้าสนใจ …

ขอบคุณ   Ford   ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ   Ford Ranger Limited 4X4  มาให้ทดสอบในโอกาสนี้

สรุป   Ford  Ranger 4X4   Limited 

ราคา 1,029,000 บาท 

ผลการทดสอบ 
อัตราประหยัดในเมือง  8.6 ก.ม./ลิตร
อัตราประหยัดนอกเมือง 11.85  ก.ม./ลิตร  
Bonn Test Mode  13.22 ก.ม./ลิตร

อัตราเร่ง 0-100 เฉลี่ย 12.00 วินาที 
อัตราเร่ง 80-120 เฉลี่ย 8.66 วินาที
(ถนนลาดยาง เปิด แอร์ นั่งสองคนผู้ดยสารรวมไม่เกิน 200 กก.)

 

สิ่งที่ชอบ สมรรถนะของเกียร์ 10 สปีด ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ชุดเกียร์ลากตอบสนองต่อโจทย์การขับขี่รูปแบบต่างๆ ได้ดี รวมถึงกำลังจากเครื่องยนต์ที่มากพอต่อการใช้งานทั่วไป และช่วงล่างที่เซทใหม่มาแบบนุ่มนวลนั่งสบายมากขึ้น และขับมั่นใจ

 

สิ่งที่ไม่ชอบ  หน้าตาที่หยิบยืมจากเอเวอร์เรส ทำให้มันดูสูงวัย การออกแบบยังไม่ทันสมัยโดนใจอย่างที่สมควรจะเป็น รวมถึงฟังก์ชั่นภายในแทบไม่มีอะไรใหม่ เมื่อเทียกับรุ่นเดิมมากนัก

 

สิ่งที่อยากให้มี / เปลี่ยนแปลง วัดรอบเครื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับรถกระบะ รวมถึงตัวบอกตำแหน่งเกียร์ด้วย ควรมีมาให้เห็นตลอดเวลาไม่ใช่เอาไปซ่อนหา ต้องคลำเอาเอง ที่น่าจะมีที่สุดคือช่องปลั้กไฟ 220 V   น่าจะเป็นออพชั่นมีมาได้แล้ว รวมถึงช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังยังขาดไปด้วย และ น่าจะติดยาง AT ให้กับรถรุ่นขับสี่

 

คำแนะนำสำหรับ ผู้ซื้อ ถ้าหวังว่าเจ้านี่จะประหยัดข้ามไปได้เลย แต่ถ้าคุณต้องการรถลุยสักคันที่ใช้งานได้ครอบคลุมในทุกวัน มีฟังชั่นเท่าที่จำเป็นในการขับขี่ นี่คือรถกระบะที่ยอดเยี่ยมรุ่นหนึ่ง

คะแนนความคุ้มค่า  8.5/10

 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”681″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

 

 

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.