เลข “10” มีความหมายอะไรกับคุณบ้าง การนับจากจุดเริ่มต้นถึงเก้า คำว่า “สิบ” ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากเลขตัวเดียวเป็น 2 ตัว ถ้าเป็นอายุ ก็เปลี่ยนจากวันเด็กน้อยเริ่มก้าวเข้าสู่วัยรุ่น มีความคิดของตัวเอง แล้วกับรถรุ่นหนึ่งที่พัฒนามาถึงรุ่นที่ 10 ล่ะ ??? มันน่าจะเป็นอย่างไร
กว่า 43 ปี นับตั้งแต่ Honda Accord ออกมาขายคนทั่วโลก รถรุ่นนี้สะท้อนเรื่องต่างในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ ทั้งการออกแบบตามยุคสมัย เทคโนโลยีระดับแถวหน้าที่ใส่เข้ามา จนเป็นเรื่องที่ได้ความนิยมจากรุ่นสู่รุ่น
กระแสความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์ สร้างผลกระทบต่อยอดขายรถซีดานกลางทั่วโลกทุกแบรนด์ รถกลุ่มนี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิมดั่งในอดีต
นาย เท็ตซึยะ มิยาฮะระ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับกับผม ระหว่างมีโอกาสสอบถามเป็นการส่วนตัวว่า การพัฒนารถยนต์ซีดานกลางในยุคอเนกประสงค์จับใจผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องง่าย มันท้าทายความเชื่อหลายอย่างมากมาย แต่ในเรื่องร้ายก็มีเรื่องดี พวกเขาต้องสร้างสิ่งใหม่ แปลก แตกต่างไม่เหมือนเดิม ผมเชื่อว่า นี่คือที่มาของวลีการตลาดว่า All New Horizon Begin และนี่เป็นพียงจุดเริ่มต้นของซีดานกลางยุคใหม่จากฮอนด้า
จะสร้างรถคันนี้ให้โดนใจลูกค้าได้อย่างไร นับว่าน่าสนใจไม่น้อย ในฐานะหัวหน้าโครงการพัฒนา ,มินาฮาระซัง มั่นใจว่า ลูกค้ายังต้องการรถยนต์ซีดานกลางอยู่ เพียงแต่ความนิยมอาจทำให้พวกเขาไขว้เขว งั้นเราจะทำรถแบบเดิมๆ ไม่ได้ กลายเป็นโจทย์ให้ทีมพัฒนา ต้องสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ภายใต้แนวคิดว่า “มั่นใจได้อย่างที่สุด” หรือ “Absolute Confident”
ตอนเจอหน้า ฮอนด้าแอคคอร์ดตัวเป็นๆ ครั้งแรกในงานเปิดตัว ยอมรับเลยว่า นี่มันไม่ใช่ลุคเดิมของรถ ตั้งแต่เริ่มทำงานมา ผมอยู่กับ Honda Accord มา 3 เจนเนอร์ชั่น ผมเริ่มทำงานช่วงปลายโฉมปลาวาฬ , ตามมาด้วยโฉมเจน 8 , 9 และ นี่คือรุ่นล่าสุด
ที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ ต้องมาแนวหรูหรา ดูภูมิฐาน รุ่นใหม่มันมีความสปอร์ต พรั่งพร้อมลุคทันสมัย จุดที่น่าสนใจที่สุดคือรถไม่ได้เป็นทรงซีดานจ๋า 3 Box Design ดั้งเดิม มีห้องเครื่อง , ห้องโดยสาร และสัมภาระท้าย แยกกันอย่างชัดเจน
ทรวดทรงมันทำให้ผมนึกถึงรถ 5 ประตู Lift Back ทรงท้ายลาด ระยะหลังทีมออกแบบหลายบริษัท หันมาใช้ทรวดรงนี้ หนึ่งในนั้นคือ Porsche ในรถ Porsche Panamera แนวคิดใหม่ให้ความรู้สึกสปอร์ตกว่าที่เคยเป็นมาในตลอด 3-4 รุ่นนับตั้งแต่ผมก้าวมาทำอาชีพผู้สื่อข่าวสารรถยนต์
มิยาฮาระซัง บรรยายให้เราฟังก่อนขับ Honda Accord ใหม่ ว่า รถรุ่นนี้ พัฒนาภายใต้ 3 คุณค่าสำคัญได้แก่
- เหนือระดับ ( Up Scale) สร้างรถให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นจากรุ่นเดิม เปี่ยมด้วยคุณภาพ หรูมีระดับ
- จับใจ (Captivate) สร้างรถที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและน่าดึงดูดกับลูกค้า
- คล่องแคล่วมีพลัง (Dynamic) สร้างรถที่สวยงามมีสไตล์ บรรจบกับคุณภาพการขับขี่ขั้นสูง
เรื่องการออกแบบ เน้นการให้ความหรูหราผสมผสานเข้ากับความสปอร์ต ภายใต้ 3 หัวได้แก่ Sport , Clean และ Mature เมื่อมองด้านหน้ารถ จะพบกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่โดดเด่นมาแต่ไกล รับเข้ากับชุดไฟหน้า LED ทรวดทรงราวกับถอดมาจากดีไซน์ Honda NSX ช่วยส่องสว่างอย่างมีประสิทธิภาพ ลงตัวกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต มีช่องว่างขนาดใหญ่ให้อากาศไหลเวียนสู่ห้องเครื่อง รถไม่มีไฟตัดหมอกหน้า จนกลายเป็นกระแสโซเชียลถามไปถึงฮอนด้า ว่า ทำไมไม่มี ??
ในมุมผม, มองว่า ความสามารถของไฟหน้า LED ก็ถือว่าเพียงพอในการส่องสว่างระยะไกล แถมที่ผ่านมาคนไทย ใช้ไฟตัดหมอกไม่ถูกกาลเทศะ “ ไฟสว่างไม่พอผมเปิดไฟตัดหมอกครับ พี่น้อง” ทั้งที่ไฟสำรองชุดนี้ใช้เปิดช่วยในยามทัศนวิสัยย่ำแย่เช่นฝนตกหนัก – หมอกลงจัด หลายคนชี้ว่ามันจำเป็น ยึดถือธรรมเนียมมีไว้ให้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
ความเป็นจริงหมอกลงจัดไฟอะไรก็ไม่มีทางสู้สร้างทัศนวิสัยได้ คุณต้องขับช้าลง เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แต่ถามว่ามีแล้วดีกว่าไหม อันนี้ไม่เคยพิสูจน์ หากมุมลูกค้าอาจมองว่า รถราคาขนาดนี้มีมาให้ไม่ได้เชียวหรือ
จากด้านหน้ามายืนมองทางด้านข้าง เส้นสายการออกแบบรถรุ่นนี้ผสมผสานความหรูหราทางด้านหน้ากลมกลืนความสปอร์ตทางด้านหลังตั้งแต่ช่วงห้องโดยสารตำแหน่งเสา A เป็นต้นไป
ช่วงหน้ารถยาวดูแข็งแกร่งบึกบึกบึน ฮอนด้าเรียกการออกแบบว่า “Wide Stance” ถ้ายกามือปิดช่วงห้องโดยสารจะเห็นถึงเส้นสายความหรูหรา ช่วงแก้มล้อหน้าดูหนา ฝากระโปรงหน้ามีความยาวมากขึ้น เป็นสิ่งที่หรูราคาหลายล้านมักออกมาในสไตล์นี้
เมื่อมองรวมกับห้องโดยสารออกแบบทรงโค้งจากด้านหน้าไปจรดฝาท้าย คุณได้ความรู้สึกอารมณ์สปอร์ต หลังคาดูลู่ลมปราดเปรียว มันติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดคู่ยางนุ่มเงียบ Michelin Primacy 3 ST ขนาด 225/50/R17 และกระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว ฝั่งซ้ายติดตั้งกล้องระบบ Honda Lane Watch ส่วนตัว, ผมว่าระบบนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร น่าจะให้เป็นพวก ระบบ Blind spot Monitor มาดีกว่า ดูมีประโยชน์กว่า
ด้านหลังเส้นสายเพรียวลมต่อเนื่องลงมายังฝาท้ายตีขึ้นรูปเป็นสปอร์ยเลอร์ในตัว ไฟท้ายมองบางมุมแอบนึกถึง Honda NSX ชายใหญ่ประจำค่ายคล้ายอารมณ์ไฟหน้า พกท่อไอเสียคู่ เพิ่มลุคสปอร์ต จนมองภาพรวม Honda Accord รุ่นใหม่ ชัดเจนในเรื่องความสปอร์ตหรู คล้ายกับรถจากแบรนด์ยุโรปหลายรุ่น ที่เริ่มเบนเข็มมาในแนวทางนี้เช่นกัน
กุญแจ Keyless ช่วยให้เข้าออกง่ายแล้วคุณยังได้ระบบ Remote Engine Start ด้วย การเข้ารถก็ตามธรรมเนียมเดิม ดึงปลดล็อคได้ทันที ชีวิตง่ายดี แถมยังสามารถล็อคประตูอัตโนมัติด้วยถ้าคุณอยู่นอกระยะ 1.5 เมตรจากตัวรถ
ภายในห้องโดยสาร Honda Accord มี 2 สีให้เลือก เป็นโทนดำกับโทนขาว หลักการจะให้ได้โทนไหนไม่ใช่อยู่ที่คุณเลือก มันอยู่กับสีภายนอกตัวรถ ถ้าคุณซื้อรถสีเข้มได้โทนสว่างสีขาว กลับกันหากคุณซื้อรถสีสว่าง ขาว / ซิลเวอร์ ก็เจิมภายในห้องโดยสารสีดำ (ทำไมไม่ทำให้ลูกค้าเลือกได้เองนะ…ไม่เข้าใจตรงนี้)
ก่อนเข้าสู่ในรถผมอยากให้ดูบนหลังคา ตรงนี้เป็นไฮไลท์สำคัญประจำรุ่น คุณจะสังเกตว่ารถไม่มีขอบยางบนหลังคาแล้ว เนื่องจากทางฮอนด้าพัฒนาการเชื่อมตัวถังใหม่ Laser Blazing ใช้กับรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ ทำให้ขอบการเชื่อมเดิมหายไปไม่มีขอบยางมาอำพราง
เมื่อก้าวเข้าในห้องโดยสาร เจ้าหรูรุ่นที่ 10 โค้งคำนับต้อนรับด้วย Welcome Seat ในตำแหน่งเบาะคนขับ มีความสามารถบันทึกท่านั่งได้ 2 โปรแกรม อาจเลือกคุณกับคนขับรถ หรือไม่ ก็กับภรรยาก็ได้แล้วแต่สะดวก
ตัวเบาะนั่งทางทีมวิศวกรจัดการปรับแนวทางการออกแบบใหม่เพิ่มซัพพอร์ทช่วงบั้นเอว นั่งลงไปแล้วรู้สึกสบายพอสมควร การติดตั้งเบาะยังลดต่ำลงจากรุ่นเดิม -25 มม. เปลี่ยนท่านั่งให้ดูสปอร์ตมากขึ้น การแตะคันเร่งเบรก ดีขึ้น
ตรงหน้าคนขับได้หน้าจอเรือนไมล์ใหม่ TFT ขนาด 7 นิ้ว ไม่ได้แบ่ง 3 ช่อง เหมือนใน Honda Civic / CR-V มันเป็นจอกว้างเรียบๆ ทางฝั่งขวาบรรจุไมล์วัดความเร็ว ส่วนฝั่งซ้ายเลือกเปลี่ยนได้ตามใจ ไม่ว่าจะรอบเครื่อง หรือ ดูอัตราประหยัดน้ำมัน ระยะทางที่เหลือในการขับขี่ การทำงานของเทอร์โบ เป็นต้น
การบังคับทิศทางเรียกใช้พวงมาลัยมัลติฟังชั่น 3 ก้าน ด้านซ้ายคุมเครื่องเสียง – การรับวางโทรศัพท์ ตรงกลางเป็นปุ่มกดแอนด์หมุนใช้คุมชุดจอมาตรวัด ฝั่งขวาเป็นระบบ Cruise Control หลังพวงมาลัยพร้อมซิ่งด้วยแป้น Paddle Shift บริหารนิ้วเรียกความเร็ว
ตรงกลางทางฮอนด้าให้ระบบ Honda Advance Touch ขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว ชุดจอโปรแกรมใหม่ทันสมัยมากขึ้น รองรับ Apple Car Play ารเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพาง่ายดายโคตรสะดวก ยังคงเงื่อไขรถต้องหยุดสนิทจึงจะเชื่อมได้ ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา
ช่วงตรงกลางคันเกียร์คล้ายรถยุโรปบางรุ่นอยู่บ้าง ฝั่งซ้ายติดคนนั่งเป็นที่วางแก้วใส่ Thumbler ได้ ฝั่งขวาคันเกียร์ทอนออพชั่นบวก/ลบ ออกไป ทางวิศวกรให้เหตุผลทางด้านงานศึกษาวิจัย แถมรถซิ่งรถแข่งสมัยนี้เขาเปลี่ยนเกียร์พวงมาลัยทั้งนั้น สำหรับคนนสูงอายุอาจรู้สึกว่าไม่ถนัด เป็นเรื่องชัดเจนถึงการพุ่งเป้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากกว่าเดิม
ล่างคันเกียร์เป็นโหมดขับขี่ จะประหยัดกด Econ อยากเมามันส์กด Sport แถมท้ายด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบช่วยหยุดรถ Brake Hold ไม่ต้องเมื่อยเหยียบแป้นเบรกแช่เอาไว้
มองเผินๆ คุณ อาจมองว่า Honda Accord รุ่นใหม่ต้องใหญ่กว่าเดิม ถ้าคิดแบบนั้น …ผมบอกเลยคุณคิดผิด รถรุ่นนี้มีขนาดสั้นกว่าเดิม -36 มม. ความยาวรวมเหลือเพียง 4,894 มม. เท่านั้น แถมความสูงห้องโดยสารยังลดลงอีก -15 มม. ด้วย ทำให้มันสูงเพียง 1,450 มม. เท่านั้น
ทางทีมวิศวกรคิดเอาไว้แล้วว่าพวกเขาจะปรับปรุงฐานล้อทำให้มันมีความยาวกว่าเดิม เพิ่มอีก +55 มม. จนมีความยาวฐานล้อ 2,830 มม. ความกว้างเพิ่มอีก +12 มม. เป็น 1,862 มม. ทั้งหมดช่วยให้การโดยสารตอนหลังสบายยิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิม
มีเวลาน้อยมาก ผมแอบมาสำรวจรถดิสเพลย์ก่อนขับ อันที่จริงผมเคยลองนั่งรถรุ่นนี้แล้วตอนเปิดแล้วพบว่า ท่านั่งผู้โดยสารตอนหลังค่อนข้างสบายมีเอนเล็กๆ กำลังเตรียมพร้อมหลับได้ง่าย ที่วางขาเหลือเฟือแถมตัวเบาะวัสดุดีงามนุ่มสบาย รุ่นใหม่รู้สึกที่รองนั่งยาวขึ้นเล็กน้อย ทีมวิศวกรบอกว่า ที่วางขานั้นเพิ่มมาอีก 48 มม. ระยะวางขารวมเป็น 1,026 มม. สบายใจได้ จะยืดอย่างไรก็ตามสะดวก
การนั่งโดยสารตอนหลัง Accord VTEC Turbo ถ้าคุณหลับคงน่าเบื่อสักหน่อย ท่านั่งสบายกำลังเพลิน มีที่เท้าแขนและช่องแอร์มาให้งามๆ แต่ถ้าแบตฯ มือถืออ่อนต้องชาร์จ คงต้องสะกิดคนนั่งหน้ายื่นสายชาร์จให้จุ๊บ เพราะด้านหลังไม่มีช่องชาร์จไฟมาให้
ความดีงามของเบาะนี่งหลัง Honda Accord ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ถ้าคุณกะว่าไม่ได้นั่งสักเท่าไร ต้องขนของใช้แรงงานบ้างเป็นบางเวลา เบาะนั่งหลังสามารถปรับพับ 100%
ด้านห้องสัมภาระท้ายเพิ่มขนาดอีก 123 ลิตร เป็น 573 ลิตร ทีมวิศวกรบอกจะขนของย้ายบ้านด้วยกระเป๋า 29 นิ้ว 3 ใบ ก็เอาไหว หรือจะเปลี่ยนเป็นกระเป๋า 25 นิ้ว 4 ใบ ก็เลือกเอาที่สะดวก แต่ถ้าขับรถทำเวลาอยู่ แล้วเมียบอกว่า ตัวเองเขาจะหยิบของ คุณต้องยื่นกุญแจไปให้เมียเอาดอกกุญแจไขช่องลับหลังพนักเท้าแขน เหมือนจะสะดวกไขแล้วล้วง ผมแอบงงว่า ทำไมช่องนี้ไม่ทำเป็นระบบอื่นที่ไม่ต้องไขกุญแจ …
///
และแล้วเรามาถึงเรื่องที่หลายคนคงอยากทราบ 2019 Honda Accord 1.5 VTEC Turbo EL เป็นไงบ้างพี่ ขับมันส์ไหม …
ก่อนอื่นขอเอื้อนเอ่ยสเป็คเครื่องยนต์ 1.5 Vtec Turbo Hi-power รหัสเครื่อง “L15BG” ขุมพลัง 190 แรงม้า ทำกำลังสูงสุดที่ 5,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 243 นิวตันเมตร รีดเรื่อยๆ มาเรียงๆ ตั้งแต่ 1,500 ยาวไปยัน 5,500 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์ CVT ตามสูตรเดิมที่เคยชิน
ถ้าถามว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ใช่ตัวเดียวกับซีวิคหรือไม่ .. ตอบว่าใช่ครับ เพียงแค่เปลี่ยนเทอร์โบ (เท่าที่ทราบ) แล้วจูนใหม่ ก็ปั้นแรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้นพอตัว เทียบกับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรรุ่นเดิมมันมีอัตราแรงบิดดีกว่า แถมฮอนด้าเคลมว่าประหยัดกว่าเครื่อง 2.0 ลิตร ด้วยอัตราประหยัด 16.4 ก.ม./ลิตร ด้วย
เส้นทางขับวันนี้ระยะทางประมาณคนละ 80 กม. แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ขับในเมือง , ทางหลวง และ ทางคดเคี้ยวบนเขา เอาเป็นว่าวันนี้ ถ้าตอบได้ไม่ครบทุกคำถาม กราบขออภัยงามๆ ไว้ยืมมาขับเดี่ยว แล้วเราว่ากันอีกที
ม้วนออกจากจุดเปลี่ยนตัวคนขับ เราใช้ทางหลวงหมายเลข 118 เส้นตรงช่วงแรกเป็นถนนคอนกรีตตรงยาวๆ ขับด้วยความเร็วเต่ากัดยางไม่เกิน 90 ก.ม./ช.ม. รู้สึกถึงความนุ่มนวล ได้ความรู้สึกใกล้เคียงกับรถยุโรปอยู่ไม่น้อย ขับความเร็วต่ำอาจรู้สึกไม่เร่งแรงทันใจ นั่นเพราะเทอร์โบยังปั่นบูสต์มาให้ จังหวะช่วงหมิ่นเหม่ เทอร์โบจะทำงานหรือไม่ เป็นจุดที่คุมคันเร่งยาก ถ้าไม่เคยขับรถเครื่องเทอร์โบมาก่อน กับลูกค้าสูงวัยอาจไม่ชิน
ขับมาไม่นานก็มาติดไฟแดง นี่เป็นโอกาสดี มองไกลๆ ด้านหน้า ดูแล้วว่าด่านตำรวจไม่มี ทางสะดวก เหมาะแก่การลองจับอัตราเร่ง ….ทันทีที่สิ้นไฟแดงดับลง กดมันให้มิด Pedal to the Metal เครื่อง 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานขมีขมัน เราออกตัวเร็วมาก ขนาดและน้ำหนักแทบทำอะไรเจ้าเครื่องยนต์บล็อกเล็กนี้ไม่ได้
มันออกตัวว่องไว ช่วงแรกจะรู้สึกเหมือนเกียร์อมๆ หน่อย อาจด้วยการเซทโปรแกรมถนอมเกียร์ไม่ให้แรงบิดทำร้ายมันในระยะยาว เราเร่งเร็วเอาเรื่อง เข็มความเร็วพุ่งทะยาน คุณรู้สึกได้ถึงแรงบิด แต่ไม่ได้กระโชกโฮกฮากหลังติดเบาะอย่างรถสปอร์ต
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. จาก GPS ผมวัดได้ 7.99 วินาที ไม่นานอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. โชว์ตัวเลข 6.98 วินาที เทียบแล้วพอๆ กับรถสปอร์ตบางรุ่นเหมือนกัน
ผมลองเหยียบต่อ ดูการตอบสนองความเร็วตั้งแต่ 100 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป เครื่องยนต์ยังดูแรงดีไม่มีเหี่ยวไปได้ยาวๆ ถึง 160 ก.ม./ช.ม. ไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยล้า
ผมถอนกลับมาขับที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ขับความเร็วคงที่ไปเรื่อยๆ วัดรอบเครื่องยนต์ได้ 1,800 รอบต่อนาที ส่วนใครชอบขับโหมดคุณชายสายประหยัด 90 ก.ม./ช.ม.เจ้าเครื่อง 1.5 เทอร์โบ จะใช้รอบเครื่องยนต์ 1,500 รอบต่อนาที โดยประมาณ
///
ไม่นานเรามาถึงช่วงทางขึ้นเขา ตัวใหญ่เครื่องเล็กหลายคนบอก ทางเขาอืดแน่!! เดิมพันกันไหม ??
เอาเข้าจริงทางเขาแล้วไง เครื่องเทอร์โบ 1.5 ไม่ธรรมดา พาร่างใหญ่ ขึ้นเขาได้สบายมาก ถ้าให้ดีกระดิกเกียร์หลังพวงมาลัยจะได้ไปยาวๆ ต่อเนื่อง บูสต์มาเป็นสายแรงบิดไม่ขาดตอน ถ้าขี้เกียจจะใช้การคิกดาวน์ก็ได้ เพียงกดคันเร่ง 50-60 % ก็จะผ่านทางเขาเนินชัน 5-6% ได้สบาย
ระหว่างทางช่วงขึ้นเขา เดี๋ยวเป็นเลนสวนเดี๋ยวเป็นสามเลน ข้างหน้ารถบรรทุกขับช้า วิ่งตามคงไม่มันส์บาทา เลยขอลองใช้วิชามารเข้าโหมด Sport
ทีมวิศวกรบอก “โหมดนี้พร้อมซิ่ง” พวกเขาปรับการตอบสนองเกียร์, คันเร่ง และการจ่ายน้ำมันของเครื่องยนต์ เอาไว้ให้แล้ว แถมหน้าปัดยังเปลี่ยนเป็นสีแดง มีวัดบูสต์บอกค่าเทอร์โบเพิ่มเติมมาให้ตรงรอบเครื่องด้วยล่ะ!! โอ้ย!! แจ่มเว่อร์ พอปรับโหมดแล้ว คุณจะพบว่ารอบเครื่องดีดขึ้นไปสักหน่อย พร้อมรอคุณกดคันเร่ง ถ้าไม่กดก็เป็น Engine Brake ดีๆ ในตัว
ช่วงทางขึ้นเขามีเลนเสริมรถบรรทุกไต่เบี่ยงไปทางซ้าย ผมเหยียบสุด เครื่องเทอร์โบใต้ร่าง Honda Accord พุ่งทะยานราวนักวิ่งลมกรด วัดบูสต์ชี้ว่า ช่วงแรกเทอร์โบจะปั่นขึ้นไปที่ 0.7-0.8 บาร์ก่อน ถ้าไม่พอจะเพิ่มแรงดันเป็น 1.1-1.2 บาร์ ถ้าไม่พอจริงๆ อีกก็จะมี Boost spike หรือ Overboost ติดปลายนวม ที่ 1.3 บาร์ ช่วงสั้นๆ 1-2 วินาที แซงรถ 3-4 คัน ได้อย่างมั่นใจสบายหายห่วงไม่ต้องกลัวว่าไม่พ้น
นอกจากการตอบสนองคันเร่ง เครื่องยนต์ และเกียร์ ดีขึ้นแล้ว ในโหมดสปอร์ต หากคุณใช้ Paddle Shift จะกลายเป็น Manual Mode เปลี่ยนเมีย .. .เอ้ย เกียร์ ด้วยตัวเองทันที และค้างไว้ไม่กลับให้ เว้นกดฝั่งบวกค้างไว้ ราวๆ 3-4 วินาที จึงจะยกเลิกการใช้งาน ปรับเกียร์ด้วยตัวเอง ส่วนถ้าขับในโหมดปกติ จะกลับให้เองอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน
ระหว่างขับขึ้น-ลงภูเขา เปรียบเทียบกับรถรุ่นเดิม รู้สึกว่าการบิดและเอนตัวเปลี่ยนไป รถเข้าโค้งมั่นใจไม่โคลงเคลงเท่าไร นั่นมาจาก โครงสร้างตัวรถใหม่ล่าสุดจากฮอนด้า ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยและตอบสนองการขับขี่ดีขึ้น (ในอนาคตจะแนะนำสู่รถรุ่นอื่นด้วย)
โครงสร้างใหม่นี้หันมาใช้เหล็ก High Tensile มากถึง 60% ของโครงสร้างทั้งหมด ช่วงเสาและคานรับแรงกระแทก เกือบทั้งหมดใช้เหล็ก Ultra High Tensile 980 MPa ส่วนพื้นรถเปลี่ยนมาเป็นเหล็ก High Tensile 590 MPa จาก 440 MPa .ในรุ่นก่อนหน้านี้
ตัวเหล็กเองเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแกร่งขึ้น ทางทีมพัฒนาโครงสร้างยังปรับออกแบบชิ้นส่วนให้ความแข็งแกร่งกับตัวรถเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย
- การให้ความแข็งแกร่งพื้นห้องโดยสาร
- การสร้างเฟรมร่วมประสิทธิภาพสูง
- การสร้างจุดยึดที่มีความแข็งแกร่งสูง
เมื่อประกอบกับการเชื่อมพิเศษและใช้กาวยึดโครงสร้างประสิทธิภาพสูง ทำให้มีความแข็งแรงสูงกว่าเดิมมาก คุณมิยาฮาระ เล่าว่า เจ้าโครงสร้างใหม่นี้ ความแข็งแกร่งรองรับการโค้งงอ (Bending Rigidity) ดีขึ้น 24% และมีความแข็งแรงในการบิดตัวดีขึ้น 32% แถมโครงสร้างนี้เบากว่าเดิม 2% ที่สำคัญยังรับรางวัล Euro Car Body Award 2017 มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
แล้วมันเป็นอย่างไร พูดเชิงวิศวกรรมากไปหลายคนอาจงงจนขยิกหัว เรื่องนี้อธิบายง่ายมาก
เมื่อคุณขับรถบนถนนที่อุดมด้วยทางขึ้นเขาลงเขา มีเนินลาดชันและทางโค้ง การจะเข้าโค้งให้ดีอาศัยระบบกันสะเทือนอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีระบบปฏิบัติการที่ดีด้วย สำหรับรถยนต์ก็คือโครงสร้างแชสซีนี่แหละ พูดแบบนี้น่าจะเข้าใจนะ
โครงสร้างที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนได้พอสมควร (เป็นสาเหตุว่าทำไมรถแข่ง-รถซิ่ง ชอบ Spot ตัวถัง) โครงสร้างที่ความแข็งงอหรือบิดตัวได้น้อยลง ทำให้เวลาเราเข้าโค้งรู้สึกว่า รถเอนหรือโคลงตัวน้อยลง มันช่วยให้ง่ายต่อการควบคุม ล้อทั้ง 4 เอง ก็สัมผัสถนนดีขึ้น ใช้ประสิทธิภาพจากหน้ายางได้เต็มที่
นั่งหลังพวงมาลัยขับ Honda Accord เข้าโค้ง รู้สึกว่ามันหน้าจิกเกาะโค้ง เข้าแล้วแรงเหวี่ยงน้อยดี จนต้องเริ่มท้าทายหักเข้าโค้งใช้ความเร็วเพิ่มสักหน่อย ก็ยังดูพลิ้วเข้าสบาย ผมนั่งหลังพวงมาลัยเจ้านี้ขับเข้าโค้งไป คุยกับพี่พรหมมินทร์ไปสบายๆ 90-100 ก.ม./ช.ม. เรียกว่ากินขนม รู้สึกเหมือนเราขับรถสปอร์ตคันโตมากกว่า รถซีดานกลางดั้งเดิมต้องมีออกอาการย้วยยวบยาบ เวลาผ่านโค้งด้วยความเร็ว แถมการออกแบบท้ายสั้นกุดจนติดตูด ช่วยให้เวลาเข้าโค้งไม่เกิดแรงเหวี่ยงเยอะด้วย
ยิ่งกว่านั้นใต้เรือนร่างโครงสร้างใหม่ยังปรับปรุงช่วงล่างสอดไส้อีกหลายรายการ เช่น ปีกนกด้านหน้าทำจากอลูมิเนียม, ซับเฟรมหลังออกแบบใหม่พร้อมเซทอัพช่วงล่างหลังใหม่ เมื่อรวมการลดจุดศูนย์ถ่วงและน้ำหนักตัวรถ อาทิ ถังน้ำมันใหม่ลดขนาดเหลือ 56 ลิตร ตลอดจนการจัดวางผู้โดยสารต่ำลง หลังคารถเตี้ยลง ทำให้พี่ยักษ์นี้ มันดูสมดุลดีเวลาเข้าโค้ง แทบไม่มีอาการแกว่งจนรู้สึกไม่มั่นใจ
เมื่อรวมกับเครื่องยนต์พร้อมพาคุณหุนหันพันแล่นได้ทุกเมื่อกระดิกเมื่อไร ….ตะเบ๊!! พร้อมซิ่งครับผมทุกครั้ง มันกลายเป็นรถขับสนุกไปโดยปริยาย แทนที่จะเป็นรถซีดานกลางน่าเบื่ออีกคัน
หลังจากลงเขาเจอทางตรงยาวผมตรวจสอบเรื่องการเก็บเสียงสักหน่อย เท่าที่สัมผัสก็เงียบเอาเรื่องใช้ได้ ส่วนสำคัญมาจากการบุห้องโดยสาร จนแม้แต่เสียงเครื่องแทบไม่มีได้ยินเท่าไรนัก (ถ้าไม่ลากรอบเครื่องหนักจริงๆ )
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังติดตั้ง ระบบ Active Noise Control หรือ ANC มีไมค์ 3 ตัว รับเสียงรบกวน แล้วมาประมวลผลตัดเสียงดังกล่าว ตลอดจนยังใช้วัสดุซับเสียงในล้อรถ ลดเสียงสะท้อนจากพื้นถนน การใช้งานยางนุ่เงียบ ไปจนถึงฉีดโฟมในโครงสร้างเสาต่างๆ มากถึง 10 จุด ไม่วายต้องยกความดีความชอบให้โครงสร้างและรูปแบบการเชื่อมใหม่
ทั้งหมดลดเสียงรบกวนไปได้มาก จนขับนึกเพลินๆ เหมือนขับรถยุโรปบางรุ่น มากกว่าตัวตนรถญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยกันดีก่อนหน้านี้
Honda Accord 1.5 VTEC Turbo EL ขับสั้นน่าสนใจ ประหนึ่งรถยุโรป
ผมมาถึงโรงแรม สำรวจอัตราประหยัดการขับทดสอบ โดยอาศัยข้อมูลบนมาตรวัด ผมขับทั้งหมด 81.6 กิโลเมตร บนหน้าปัดโชว์อัตราประหยัด 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดเอาเรื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศ 32 องศา ยามกลางวัน แถมหลายช่วง ทำความเร็วลองอัตราเร่ง บ้างเหยียบยาวถึง 160 ก.ม/ช.ม และมีขึ้นลง ทางเขา ต้องใช้คันเร่งเหยียบเยอะบ่อยครั้ง
นั่นหมายความว่า ถ้าคุณขับด้วยความเร็วคงที่ยาวๆ เช่น ทางมอเตอร์เวย์ ไม่สนใจใคร อาจจะมีตัวเลขที่ดีกว่านี้
หลังขับ Honda Accord โฉมใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ ผมรู้สึก มันเหมือนรถยุโรปมากกว่า สลัดภาพรถซีดานญี่ปุ่นเดิมสุดจำเจ สู่ลุคใหม่ในแบบพวกเราเองไม่คิดว่าจะเจอมาก่อน
การเปลี่ยนรถเป็นซีดานกึ่งท้ายลาดมีข้อเสียสำคัญข้อหนึ่ง ผู้ขับขี่จะรู้สึกถึงอาการท้ายไว คนที่ขับอเนกประสงค์ หรือ แฮทช์แบ็คท้ายกุดบ่อย น่าจะนึกออก เมื่อรวมการยืดระยะฐานล้อ ทำให้ช่วงยื่นสั้น เวลาเข้าโค้งยิ่งรู้สึกไว ใครชอบขับรถแบบมุดไปมาน่าจะถูกใจ ไม่ต้องพะวงกับท้ายรถคัดพวงมาลัยมาก หน้าไปได้ หลังก็ไปได้
กลับกันถ้าขับซีดานมีหน้ามีตูดยืนออกมา การเข้าโค้งจะมีสเถียรภาพมากกว่า อันนี้คงต้องแล้วแต่คนชอบ ส่วนผมหรือชอบรถท้ายไว ยิ่งรถขับหน้าท้ายไวช่วยให้การเข้าโค้งง่ายกว่าเดิม
ผมอดไม่ได้ที่จะถาม มิยาฮะระซัง ว่า ตอนพัฒนาพวกเขาเอารถอะไรมาเปรียบเทียบ…???
เขายอมรับว่า เป้าหมายการพัฒนารถ Honda Accord ใหม่ เพื่อเข้าใกล้ความเป็นรถยุโรปมากขึ้น ทางทีมขนพลพรรครถหรูประเทศเยอรมัน 3 แบรนด์หลัก (Benz, Audi, BMW) มาเปรียบเทียบ โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญที่สุด ทำให้รถมีสเถียรภาพเทียบเท่า Mercedes Benz E Class แล้วยังคล่องตัวแบบ C-Class นั่นหมายถึงคุณสามารถซื้อความสามารถรถราคา 3 ล้านได้ในราคาครึ่งหนึ่งของรถเหล่านั้น
หลังได้ฟังการตอบข้อคำถามข้อนี้ ค่อนข้างมั่นใจว่า Honda Accord Generation ที่ 10 มุ่งเป้าที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความตั้งใจจะเปลี่ยนรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และไม่ได้คิดว่าจำเป็นต้องเล่นแบรนด์ยุโรป หรืออาจไปดูแบรนด์ยุโรปแล้วสู้ไม่ไหว คนกลุ่มนี้อาจต้องการรถขนาดใหญ่ ดูภูมิฐาน และยังมีความต้องการส่วนตัวเรื่องความเร็วชอบความแรง
คุณ ณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับผมว่า เป้าหมายการวางขาย Honda Accord 1.5 เทอร์โบเพียงรุ่นเดียว เนื่องจากมั่นใจว่า รถจะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม 2.0 และ 2.4 ลิตรได้ครบเครื่องในรุ่นเดียว
นั่นทำให้ยอดจองของรถรุ่นนี้คิดเป็นร้อยละ 50 ของยอดจอง Honda Accord ที่เข้ามาสู่บริษัทตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นรถรุ่น 1.5 เทอร์โบ ขายดีลองลงมาเป็นรุ่นไฮบริด Top option ยอดจองร้อยละ 35
สำหรับผม เรียนตามตรงว่า สมรรถนะ และการออกแบบ เข้าขั้นแล้ว เทียบกับ คู่แข่ง Toyota Camry มันดีคนละด้าน
การขับขี่ Toyota Camry 2.5 ลิตร แรงกว่าตอบสนองดีกว่า และซดน้ำมันมากกว่าอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ จากลองขับในสนามช้างฯ เมื่อปีกลาย เมื่อเข้าโค้ง การคุมพวงมาลัย Camry ง่ายและมั่นใจกว่า จากท้ายยาวและโครงสร้างใหม่ TNGA พลิกสมรรถนะการขับขี่เดิมสู่โลกใบใหม่
ฟังดูเหมือนผมชมรถคู่แข่งใช่ไหม่ , เปล่าเลย ผมจะบอกว่าด้วยเงื่อนไขการขับทดสอบบนถนน กับในสนามต่างกัน ถ้าสมมุติผมรันซิมมูเลเตอร์ มองว่า ตัวเองขับ Honda Accord ในสนามช้าง เจ้าซีดานท้ายสั้นจะได้เปรียบเมื่อเข้าโค้งคดเคี้ยว เช่นโค้ง C3+ C4 หรือตั้งแต่แต่โค้ง C6-12 คุณคัดพวงมาลัยน้อยว่าแล้วให้แรงเหวี่ยงคันเร่งช่วยส่งเข้าโค้งได้ฉับไวกว่า จากประสบการณ์ขับรถประเภทแฮทช์แบ็ค
ที่เหลือความเร็วปลาย ใครจะได้มากกว่า อันนี้ต้องรอวัดผลเมื่อเอามาทดสอบขับอีกที จึงจะบอกได้เต็มปาก ซึ่งซีวิคมีการล็อคความเร็วสูงสุดที่ 207 ก.ม./ช.ม. ผมไม่แน่ใจว่าแอคคอร์ดมีการล็อคความเร็วเหมือนกันหรือไม่ จะว่าไปซื้อรถสนความเร็วสูงสุดทำไม ได้ขับกันสักกี่ครั้งในชีวิต ตั้งแต่ซื้อรถมา
อย่างไรก็ดี ด้วยความเป็นเครื่องเล็กพกเทอร์โบ บางคนอาจไม่ชอบอาการเวลารอรอบใกล้บูสต์ มันคุมคันเร่งยาก รถเทอร์โบมักเป็นประเภท อยากเร็ว..เร็วเลย อยากคลานก็คลานคุณพี่เลือกเอา หนูได้ทั้งสองอย่าง จะเรียบร้อย หรือฮ๊อท อารมณ์พุ่งพล่าน แต่จังหวะเทอร์โบจะทำงานไม่ทำงาน ก้ำกึ่ง จะบูสต์/ไม่บูสต์ เป็นจุดที่น่ารำคาญ ยิ่งกับการขับเดินทางด้วยความเร็วปกติ ช่วง 105- 110 ก.ม./ช.ม. อยู่ในช่วงดังกล่าวจะดันโบเดี่ยวจ่าโบก จะขับช้าคันหลังว่า
คนรุ่นเก่าอาจไม่ชอบ มันคุมยากไปตามใจสั่งทุกอณูไม่ได้ เมื่อรวมกับความแตกต่างแรงม้าอีก 19 ตัวและแรงบิดอีกนิดหน่อย แถมเครื่องเทอร์โบอาจต้องดูแลรักษาให้ดีในระยะยาว ต้องยอมรับว่า บางคนอาจชอบคู่แข่งมากกว่า
กลับกันหากถามหาเรื่องการออกแบบดูหรูหราแอบมีความสปอร์ตเหมือนใส่สูทสุดเท่ห์ ในสไตล์สลิมฟิต ผมให้ Honda Accord ใหม่ ทรวดทรงซีดานคล้าย 5 ประตู ตอบว่า ทำไมต้องเป็นซีดานสไตล์เดิม ตรงนี้โดนใจมาก ผมยอมรับว่า เรื่องการออกแบบไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่รถคันนี้ถูกใจคนรุ่นใหม่วัย 30 อย่างผม ดูแปลกดี
แถมเรื่องสเถียรภาพในการขับขี่ยังรู้สึกดีกว่า มีความมั่นใจ บวกกับการตอบสนองเครื่องเทอร์โบ แถมเติม E85 ได้ เข้าขั้นใกล้สมบูรณ์แบบ
น่าเสียดายตัว 1.5 เทอร์โบออพชั่นน้อยไปหน่อย ลูกค้าไม่มีทางเลือกมากนัก อยากได้เต็มๆ ฮอนด้าผายมือ เชิญไฮบริดครับ ลูกค้าบางคนก็ไม่ได้อยากซื้อไฮบริดหรือเปล่า อันนี้ต้องลองศึกษาดูผมขอเสนอให้ Honda ทำ Honda Accord รุ่น RS ออพชั่นเต็มๆ แรงๆ ให้ดีก็ขอวิศวกร จูนม้าเพิ่มให้เท่าคู่แข่ง เชื่อว่าตลาดน่าจะตอบรับดี
ตอนนี้รุ่น Honda Accord 1.5 VTEC Turbo EL ดึงลูกค้า 2 กลุ่ม คือ 1. คนจะซื้อ Honda Civic RS เอ้ย อีกหน่อยเอง (2 แสนบาท) กัดฟันเอาแอคคอร์ดดีกว่าเธอ
อีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มคนมองหารถครอบครัวราคาไม่แพง ไม่ได้เน้นลุย ต้องการรถดูดี เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่บ้านมีเงิน แต่ถ้าฮอนด้าหวังฟาดกลุ่มคนที่ไปเหล่พวก Benz – BMW ให้กลับจงรักภักดี แนะว่าออพชั่นต้องเต็ม มาให้ครบ ราคาอาจสูงในมุมมองคนซื้อรถญี่ปุ่นขยับขึ้นมาจากรุ่นเล็ก กลับกันถ้าคนริจะไปซื้อรถยุโรปราคา 1.8 -2 ล้านบาท พวกเขาต้องการออพชั่นครบเครื่อง ความปลอดภัยอะไรใส่มาให้ครบครัน ทำราคามาถูกกว่าสักไม่เกิน 1.65 ล้าน รับประกันความสนใจได้ 100%
ขับแล้ว Honda Accord ใหม่ รุ่น 1.5 เทอร์โบ ขอย้ำว่า มันก้าวไปอีกขั้น นับ 1-3 หลับตาลืมภาพซีดานกลางจากผู้ผลิตญี่ปุนเดิมๆ ไป น้องใหม่ เจนเนอร์ชั่นที่ 10 มันไม่ได้มีดีแค่เครื่องแรงอย่างที่เข้าใจ มันยังกว้างขวาง สะดวกสบาย ขับมั่นใจไม่ว่าจะใช้ความเร็วทางตรงหรือเข้าโค้งอย่างบ้าบิ่น ทั้งหมดที่พูดมา เป็นดีกรีที่เคยหาได้เพียงรถยุโรป
บางทีนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ฮอนด้ากำลังส่งสารท้าทายตลาดรถยนต์หรู ถ้าคุณกล้าไต่ลงมาเล่นกลุ่มคอมแพ็คคาร์กับพวกเรา อย่าคิดว่าพวกเขาไม่กล้าทำรถซีดานกลางที่ขับได้ดีทัดเทียมกับพวกคุณ …