Home » Honda Civic Type R ลองจริง ในสนามช้าง ขับสนุกครบรส
Bust First Drive รีวิว

Honda Civic Type R ลองจริง ในสนามช้าง ขับสนุกครบรส

ท่ามกลางความต้องการรถยนต์ๆไฟฟ้า เราจะพบว่า แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นต่างสวนกระแสดังกล่าว ด้วยการเปิดตัวรถยนต์สมรรถนะสูง ออกมาวางจำหน่าย ให้ลูกค้าได้จับจอง หนึ่งในนั้น คือ Honda Civic Type R

หลังจากโชว์ตัว เมื่องานแสดงรถยนต์ปลายปี มาวันนี้ มันขายจริง และเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเปิดจองออนไลน์ มันก็วางจำหน่ายจนหมดสิ้น จากจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน จนหลายคนบ่นเสียดาย และแม้แต่บรรดาสื่อมวลชนเอง ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาส สัมผัสสมรรถนะมันหรือไม่ ?

กระทั่งบ่ายในกลางเดือนเมษายน อีเมล์ฉบับหนึ่ง ทำให้ผมตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อฮอนด้าส่งมาบอกเราว่า จะมีโอกาสขับ Honda Civic Type R และ นี่ไม่ใช่การลองบนถนน ที่คุณจะไปซิ่งซ่าได้ตามใจ แต่เป็นการทดลองในสนามแข่งระดับโลก ช้างฯ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ยากจะมีโอกาสเอารถรุ่นนี้เข้าไปลอง และ ผมไม่พลาดที่จะไปขับมัน

กายภายนอก Honda Civic Type R ตั้งแต่เปิดตัวรุ่นนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะดูจนอิ่มหนำสำราญไปแล้ว เทียบกับรหัส FK8 เดิม โฉมใหม่ FL5 มันคือการปรับตัวรถ ยกระดับไปอีกขั้น ผ่านเส้นสายเรียบหรูดูผู้ดี บางคนบอกว่า รุ่นเดิม มันเหมือนเด็กแว้นซ์แต่งซิ่ง แต่ที่จริง สาวกหลายคนและรวมถึงผมกับชอบรุ่น FK8 ที่มีความดุดัน น่าสนใจ สง่าและเด่น มาแต่ไกลมากกว่ารุ่นนี้ ที่ดูจะเรียบเกินไปหน่อย

การเปลี่ยนแปลงทางงานออกแบบ ก็คล้ายกับ ซีวิค รุ่นปัจจุบัน ที่ถูกยกระดับความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มจากกระจังหน้ารังผึ้ง ที่มาพร้อมโลโก้ “Red Honda” และ กันชนหน้า ที่มาพร้อมช่องรับอากาศ ผ่านไปยังอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ ที่วางด้านหลัง

ลมจากหม้อน้ำ ถูกนำออก เพื่อระบายความร้อนเร็วขึ้น จากฝากระโปรงหน้าที่มีช่องระบายความร้อน วิชาหลักอากาศพลศาสตร์ ไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะ Honda Civic Type R ยังมี ช่องระบายอากาศ ออกจากซุ้มล้อ เพื่อลดลมหมุนในซุ้มล้อ เมื่อขับด้วยความเร็วสูง

เช่นเดียวกัน ทางด้านหลัง ยังออกแบบด้านล่างกันชน ให้เป็นดิฟฟิวเซอร์ หรือ ครีบรีดอากาศ เพื่อทำให้อากาศมีความเร็ว และ ลดลมหมุนท้ายรถในระหว่างการขับขี่

ในความรู้สึกส่วนตัว ผมแอบเสียดาย ที่ทางฮอนด้า เปลี่ยนจากการใช้ สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ กลายมาเป็น GT Wing ทำให้รถดูค่อนข้างจะธรรมดา เมื่อเทียบกับหลายรุ่นในประวัติศาสตร์ ที่ความเป็น Type R มักมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่

ทว่า การเปลี่ยนเป็น GT Wing มีข้อดีอยู่ข้อ คือ มันเพิ่มทัศวิสัย กระจกมองหลัง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ไม่เพียงแค่ที่เรากล่าวไป ในหนนี้ ตัวรถยังออกแบบให้มีเส้นงานออกแบบเรียบ ความเป็น 5 ประตู โดดมาเป็นการออกแบบสไตล์ Lift Back หรือ ทรงท้ายลาด ในบางความรู้สึก คุณจะพบว่า มันได้อารมณ์ใกล้เคียง Audi TT โดยเฉพาะ เมื่อมองรวมกับบั้นท้าย

ในห้องโดยสาร ตัวรถคงงานออกแบบ ส่วนใหญ่มาจาก Honda Civic ไม่ว่าจะ ช่องแอร์รังผึ้ง เครื่องเสียงพร้อมจอ Advance Touch 9 นิ้ว ไปจนถึงการตอบสนองด้วยหน้าจอผู้ขับขี่ แบบดิจิตอล เต็มระบบ

แต่ความเป็น Civic Type R ก็ต้องมีความแตกต่างในหลายจุด เริ่มจาก เหนือหน้าจอมาตรวัดมีแถบไฟ Shift Light มาให้อีก ตามอารมณ์สนามแข่งขัน, พรมตัวรถสีแดง มาพร้อมเบาะนั่งสปอร์ตคู่หน้าแบบ Semi-Bucket Seat จากผู้ผลิตชั้นนำ เข็มขัดนิรภัยสีแดง และ การเดินด้ายแดง ในหลายจุด รวมถึง พวงมาลัยหุ้มหนัง Alcantara ให้มาอย่างครบเครื่อง

ทางด้านหลัง ฮอนด้า ตัดจบอะไรง่ายๆ เช่น ไม่มีช่องแอร์หลัง, ไม่มีที่เท้าแขน ช่องวางแก้วน้ำตายตัว ยังดีเบาะหลัง สามารถปรับพับได้ 60/40 พอจะมีที่ให้คุณยังจัดการสัมภาระในชีวิตประจำวันได้บ้าง โดยเฉพาะใครที่เป็นสายกิจกรรม (หรือมองอีกมุม คือมีพื้นที่ให้แบกของแต่งจากร้านไปอู่ได้ง่ายขึ้นก็ดี)

นอกจากเบาะนั่งและการตบแต่งแล้ว ตัวรถ ยังมีรายละเอียดหลายอย่าง ที่ถูกปรับปรุง จากรุ่นทั่วไป โดยเฉพาะ ฟังก์ชัน รถซิ่งทั้งหลาย เช่น ระบบ Honda LogR ที่สามารถแสดงค่าต่างๆ ที่จำเป็นในการขับขี่ อาทิ เกจ มาตรวัดข้อมูลตัวรถต่างๆ ทำให้คุณไม่ต้องไป ติดเกจ ดิฟฟี่ อะไรวุ่นวายแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ ยังสามารถบันทึกข้อมูลการขับขี่ แล้วนำไปแบ่งปันกับเพื่อนักขับ Type R ด้วยกัน เพื่อเรียนรู้การขับขี่ได้ด้วย

ส่วนตรงหน้าคนขับ เมื่อกดเข้าโหมด Sport ก็จะเปลี่ยนรูปแบบ หน้าจอการขับขี่ มีการบอกค่าที่จำเป็น แต่ถ้าเน้นความพร้อมซิ่งก็คงจะเป็นโหมด LogR จะแสดง รูปแบบหน้าจอเรือนไมล์ ให้เน้นช่วงรอบที่ต้องใช้ อารมณ์คล้ายเรือนไมล์ ตัวแข่งแท้ๆ ช่วยให้ผู้ขับขี่โฟกัส ในการขับขี่ได้ อย่างชัดเจน และยังบอกจังหวะขึ้นเกียร์ หรือ Shift Light ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วย

การวิศวกรรม และการทดลองขับ

ใต้เรือนร่าง Honda Civic Type R FL5 มาพร้อมความครบเครื่อง ตอบสนองการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ สเป็คเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้ม้าเต็ม พร้อมเบ่งพลังสูงสุด 320 แรงม้า PS ที่ 6,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,600-4,500 รอบต่อนาที

ข่าวร้าย สำหรับคนรุ่นใหม่ รถรุ่นนี้มีเพียงรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เท่านั้น ฮอนด้า ยังไม่คิดจะทำเกียร์ออโต้ ออกมา ขาย เนื่องจาก ต้องการให้รถมอบอรรถรสในการขับขี่อย่างเต็มที่

ระบบเกียร์ ยังมาพร้อม การออกแบบระยะด้ามแบบ Short Shifter ลดระยะการเปลี่ยนเกียร์นิดเดียวก็เข้าแล้ว แต่ต้องบอกว่า คุณอาจจะมีเหวอ ในช่วงแรกๆ สักหน่อย เพราะระยะคันเกียร์มันสั้นมากๆ

ส่วนพวงมาลัย ใช้ระบบ DP-EPS เป็นพวงมาลัยไฟฟ้า ช่วยให้คุณตอบสนอง ต่อการขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

การทดลองขับในงวดนี้ เรามาที่สนามช้างอินเตอรร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยเราจะมีโอกาส ขับรถ 3 รอบ สนามเต็มๆ ในเส้นทางระยะ 4.554 กิโลเมตร มันอาจเป็นเวลา ค่อนข้างน้อยมาก แต่เทียบกับ รถที่ขายจนหมดแล้ว และ ลูกค้าที่ซื้อรถไม่ต้องมานั่งหารีวิว ว่ารถคันนี้ขับดีไหม ?​

โอกาสแบบนี้ ที่จะได้ขับยอดรถสมรรถนะสูงในสนาม นับว่าน้อยมาก

Honda Civic Type R แม้ว่า เครื่องยนต์จะแรง แต่ตัวรถก็ยังมาพร้อม 4 โหมดการขับขี่ 3 โหมด การขับขี่ มาแบบสำเร็จรูป คือ

Comfort – สำหรับการขับขี่ทั่วไป เน้นความประหยัดในการขับขี่
Sport – โหมดการขับขี่สปอร์ต เน้นความสนุกในการขับขี่มากขึ้น
+R – เน้นที่สุด สมรรถนะในการขับขี่จัดเต็มทุกรอบเร่ง

ส่วนอีกโหมดที่ผมบอก คือ Individual เป็นโหมดตั้งค่าเอง ตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้คุณ และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน

ตัวรถปรับอะไรในแต่ละโหมด จากที่ขับแม้จะมีเวลาน้อยมาก แต่ผม มั่นใจว่า มันคือ การตอบสนองของคันเร่ง เครื่องยนต์ และ พวกหน้าจอตรงหน้าคนขับที่จะแสดงผลในแต่ละค่า ต่างกัน

ตัวเครื่องยนต์ในโหมด Comfort การตอบสนองจะรู้สึกถึงพลัง แต่มีความสุภาพ ขาคันเร่งไม่ไวเกินงาม คนทั่วไปขับขี่ได้สบาย ส่วนตัว ด้วยการไม่มีโหมด Econ คุณจึงมีโอกาสขับเจ้า Type R ให้ ประหยัด ยากมาก อาจจะด้วยมันเป็นรถซิ่งอยู่ แล้วโหมดประหยัด จึงไม่จำเป็น

พอเปลี่ยนมาโหมด +R รถจัดการเปลี่ยนบุคลิกการตอบสนองทันที จากเดินที่สุภาพ เสียงเงียบๆ ก็กลายเป็นเสียงดังฟังชัด ท่อเร้าอารมณ์ ด้วยการเปิดวาล์วท่อกลาง และ ขาคันเร่งที่ตอบสนองไวขึ้น

รอบแรก เราลงสนามด้วยโหมด Comfort, Honda Civic Type R ต้อนรับ เราด้วยความสุภาพในการขับขี่ เทียบกับ ซีวิค ปกติมัน อาการช่วงล่างแข็งกว่าสะเทือนกว่า และจะดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็ว อันเป็นปกติ ของรถยนต์สมรรถนะสูงทั้งหลาย

ส่วนนึงก็ต้องยอมรับว่ามาจากล้ออัลลอยด์ขนาด 19″ มาพร้อมกับยางแก้มเตี้ยตามสไตล์รถซิ่ง ต้องบอกก่อนว่าในครั้งนี้เรายังไม่มีโอกาสขับรถด้วยความเร็วต่ำ และพื้นสนามช้างนั้นก็ค่อนข้างเรียบ จึงยังไม่สามารถพูดถึงเรื่องการสะเทือนได้มากนัก

รอบต่อม , ทางฮอนด้าให้เราใช้โหมด R+ โหมดนี้เป็นโหมดพร้อมซิ่งที่สุด 1 ใน 4 โหมดการขับขี่ที่ให้มา อย่างที่เรากล่าวเมื่อเปิดโหมดนี้ ท่อไอเสียตรงกลางจะถูกเปิดวาล์ว ส่วนขาคันเร่งจะให้การตอบสนองสูงสุดเร็วทันใจ เหยียบเป็นมา ช่วยเพิ่มการตอบสนองของรถในระหว่างการขับขี่

ผมเข้าเกียร์ 2 ก่อนข้างทางตรงหน้าแสตนแล้วเร่งอย่างเต็มที่ ในระหว่างสับเกียร์อาการของรถสามารถเร่งได้ค่อนข้างทันใจจนคุณจะลืมเกียร์ออโต้ที่ว่าฉับไวไปโดยทันที เมื่อบังคับเลี้ยวเมื่อเข้าสู่ช่วงทางตรง การตอบสนองพวงมาลัยค่อนข้างเฉียบคมและสามารถทำให้เราวาดไลน์ตามที่ต้องการได้อย่างมั่นใจ

ช่วงทางตรงยาว 1 กิโลเมตร ผมเหยียบคันเร่งเต็มที่พร้อมกับสับเกียร์ไปเรื่อยเพื่อดูความสามารถของรถ เรามาถึงความเร็ว 200 กม./ชม. ก่อนถึงสุดทางตรง 200 เมตร

ความเร็วขนาดนี้กับระยะทางที่เหลือไม่มากสิ่งที่คุณต้องการคือระบบเบรกที่มั่นใจ Honda Civic Type R มาพร้อมกับระบบปั๊มเบรคหน้า 4 พอร์ท จากทาง Brembo ส่วนด้านหลังจานเบรคและปั๊มเบรคไม่ได้ต่างจากรุ่นปกติทั่วไป ปั๊มเบรกหน้าช่วยเราสยบความเร็ว จาก 200 กม./ชม. ลงมาเหลือ 80 กม./ชม. อย่างรวดเร็ว

เราลดความเร็วได้ขนาดนี้ก็มาจากระบบเกียร์ธรรมดา ทำให้คุณสามารถสับเกียร์และใช้แรงหน่วงจากเครื่องยนต์ หรือ Engine Brake แม้ว่าในเกียร์อัตโนมัติจะสามารถทำได้เช่นกัน หากก็อยู่ภายใต้การควบคุมของระบบคอมพิวเตอร์ของชุดเกียร์ ซึ่งบางครั้งอาจไม่ยินยอมให้คุณลดตำแหน่งเกียร์ลงมาอย่างฉับพลัน ไม่เหมือนเกียร์ธรรมดา

ในโค้งครึ่งหลังสนามเป็นช่วงที่มีทางตรงน้อยลง และจำนวนโค้งมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเซทเครื่องให้มีแรงบิดระนาบต่อเนื่อง 420 นิวตันเมตร ทำให้ คุณสามารถไหลเข้าโค้งได้ โดยไม่ต้องสัยลงไปถึง เกียร์ 2 และ ช่วย สามารถทำความเร็วได้ต่อเนื่อง ในระหว่างการเข้าโค้งได้

นอกจากนี้ ความเป็นเกียร์ธรรมดา มีสิ่งหนึ่งที่ดีกว่า เกียร์ออโต้ นั่น คือ คุณสามารถคุมสมดุลน้ำหนักได้ดีที่สุด ทุกครั้งก่อนเข้าโค้ง และใช้จังหวะที่ดีที่สุด เพื่อทำให้ สมดุลนั้นเปลี่ยนเพื่อ ออกจากโค้งได้เร็ว นี่เอง คือ จุดที่มันทำได้ดีกว่ามาก

และด้วยการออกแบบมาเป็นขับหน้า ไม่ใช่ขับสี่ ทำให้ความคล่องตัว เวลาเข้าโค้งดูไม่ค่อนมีอาการขืนเท่าไร รถยังมีธรรมชาติหฃลายประการ เช่นเข้าแรงออกอาการหน้าดื้อ เข้าช้าเร่งเร็วในโค้ง ออกอาการท้ายไหล ระบบ ควบคุมการทรงตัว จะไม่เร่งเข้ามาจัดการ

แม้จะฟังมันอันตราย แต่คนที่ชอบขับรถ จะรักอาการเหล่านี้ มันช่วยให้เราสนุกกับรถ ได้แก้อาการ ไม่ใช่ ทุกอย่างต้องเป๊ะเปรี้ยะ

Honda Civic Type R ขับสนุกครบเครื่อง อยากให้มี ล็อตสอง

กับ 3 รอบสนามช่าง ฯ ผมลง มาแล้วเข้าใจทันที เลยว่า ทำไม สาวกฮอนด้า ถึงได้ซูฮกรถคันนี้มากนัก

มันอาจไม่ใช่รถที่ขับสบาย และไม่ใช่รถ ที่คุณจะขับเล่นทุกวันแน่ๆ แต่ Honda Civic Type R เป็นรถนำเสอน ความสนุกในการขับขี่ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน โดยเฉพาะ การวัดใจคนซื้อว่าอย่างน้อยที่สุด คุณต้องขับเกียร์ธรรมดาเป็น ไปจนถึงขั้นชำนาญการ เพื่อรีดสมรรถนะของมันออกมาบนถนน หรือในสนามก็ตาม

ถ้าจะถามว่า ผมทำเวลาต่อรอบ ได้ดีที่สุดเท่าไร จาก การจับด้วย V-box อยู่ที่ 2.08.66 นาที แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดของรถคันนี้ แต่เป็นเวลาที่เราเพียงขึ้นรถ แล้วขับเลยเท่านั้น

ส่วนตัว ผมว่ามันน่าจะอยู่ที่ราวๆ 2.01 นาที ต่อรอบ เมื่อเราจัดเต็มสมรรถนะซึ่งถือว่าเร็วอยู่

จนผมไม่แปลกใจที่ไม่ว่าใคร ก็อยากได้มัน และ นี่นับเป็นสปอร์ต ที่ทำให้คุณสนุกกับการขับขี่มากที่สุด รุ่นหนึ่ง

สิ่งที่น่าเสียดาย คือตอนนี้ ฮอนด้า จำหน่ายเพียง 30 คัน เท่านั้น เนื่องจากมีความต้องการทั่วโลก แต่ว่าจากความนิยม ในการจอง ฮอนด้า คงเห็นแล้วว่า สาวก ชาวไทย ของฮอนด้า อยากได้ รถรุ่นนี้มากแค่ไหน

แม้จะไม่มีใครรู้ว่า มันจะมาขายอีกไหม แต่ เชื่อว่า ทุกคน คงอยากให้มี ล็อตต่อไป เพราะ คนไทยรักฮอนด้า และ ชอบรถสมรรถนะสูงแบบนี้

หวังว่า คงจะไม่มีเพียง 30 คันเท่านั้น และ สำหรับใครที่จองทัน ก็ต้องขอแสดงความยินดี เพราะ นี่คือรถดี ที่ไม่ใช่เพียง มีเงินจะซื้อได้ คุณต้องมีฝีมือ ในการจอง และ ดวง รวมถึง ฝีมือในการขับ เพื่อ รีด สมรรถนะ รถออกมา

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.