Home » Honda CR-V  2017  1.6 i-Dtec  Review:  ดีเซลมาแล้วจากค่ายฮอนด้า
5
Bust First Drive รีวิว

Honda CR-V  2017  1.6 i-Dtec  Review:  ดีเซลมาแล้วจากค่ายฮอนด้า

พูดถึงบริษัทที่ยึดครองตลาดรถยนต์นั่งเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี ซ้อน   Honda   นับว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างยอดขายรถยนต์ รถของพวกเขามีฟังชั่นในงานใหม่ๆ รวมถึงยังตอบสนองความต้องการอยู่เสมอ เป็นจุดขายที่ทำให้ค่ายรถยนต์รายนี้ยืนหยัดในใจคนไทย รวมถึงคนทั้งโลกมายาวนาน

Honda  CR-V   เป็นรถยนต์อเนกประสงค์จากฮอนด้าที่ถือว่าเป็นรถยนต์เรือธงของบริษัท ในฐานะ  Global Model   หรือ รถที่วางขายทั่วโลก มียอดขายกว่า  8.7   ล้านคันตลอดทั้งสี่เจนเนอร์เรชั่นที่วางจำหน่ายในตลาด สำหรับผมมันคือรถทบทวนความแก่ ผมเริ่มทำงานในฐานะผู้สื่อข่าวรถยนต์ใน   Honda CR-V  เจนเนอร์เรชั่นที่สาม และตามต่อเนื่องมาด้วยเจนเนอร์เรชั่นที  4   แล้วนี่กำลังจะเปิดตัวเจนเนอร์เรชั่นที่  5  …. ในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
24   มีนาคม คือวันดีเดย์สำหรับ   Honda  ในการสร้างกระแสเรียกน้ำย่อยก่อนให้ชมตัวจริงในงานมอตอร์โชว์   2017   แต่เพียงแค่เริ่มต้น   Honda  ก็ทำให้หลายคนสนใจไม่น้อย ด้วยการเปิดเผยข้อมูลการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เตรียมแนะนำเครื่องยนต์ดีเซลเข้าสู่ตลาด … มันเป็นการปฏิวัติความคิดสำคัญว่า ฮอนด้ามีแต่รถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน และเฉกเช่นเดิม   Honda  เชิญผมมาสัมผัสก่อนการเปิดตัวจริง

การบินข้ามน้ำข้ามทุ่งหญ้าสะวันน้าแดนอิสาน ผมเหลียวมองนอกหน้าตาเครื่องบินในที่นั่งที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง คนที่อยู่ริมหน้าต่างแลทะางเดินในเครื่องบิน …
ผมเริ่มตระหนักถึงคำว่า “สิ่งแวดล้อม” .. มากขึ้น  

สำหรับ Honda   พวกเขาตระหนักเรื่องนี้มายาวนาน โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ที่มีความเข้มข้นเรื่องการปล่อยไอเสีย ฮอนด้าอาจจะไม่เคยทำเครื่องยนต์ดีเซลมาก่อน ทว่าอย่างที่พวกเขาพูดเสมอผ่านปณิธานของบริษัทว่า  “พลังแห่งความฝัน” พวกเขาเนรมิตเครื่องยนต์ดีเซลออกมา

ประวัติศาสตร์ดีเซลของ   Honda   มีมายาวนานมาก เรียกว่าร่างยาวคงไม่ต้องอ่านรีวิว เลยอยากบอกว่า ใครอยากรู้ ให้ไปตามอ่านในบทความประวัติศาสตร์เครื่องยนต์ดีเซลของ   Honda  ก่อนหน้านี้เอาแล้วกันครับ

แต่สำหรับเครื่องยนต์   Honda   ดีเซลบล็อกใหม่นี้เป็นเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นมาภายใต้วิสัยทัศนและเทคโนโลยี  Honda Earth Dream  พวกเขามุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ทันสมัย จากบล็อกเดิมที่ทำตลาดมายาวนาน ก็ร่ายมนต์เป่าเสกให้เครื่องยนต์ของพวกเขามีน้ำหนักเบา ตอบสนองความประหยัดมากขึ้น ,ปล่อยไอเสียน้อยลง และยังคงขับสนุก   ฟังดูคุณลั่นถามผมว่า  นี่มันจะสมบูรณ์แบบอะไรขนาดนั้น

จุดเริ่มต้นของเครื่องยนต์   Honda  I Dtec  1.6   ลิตร จุดประกายความคิดทีมมวิศวกรหลังเล็งเห็นบล็อกเดิมขนาด 2.2   ลิตร ทีใช้มายาวนานไม่น่าจะตอบโจทย์ตามระเบียบอันเข้มข้นมาตรฐานไอเสียในยุโรป ประกอบกับลูกค้าต้องการความประหยัดมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้อยากจะสูญเสียความสุกสนานในการขับขี่ จึงก่อให้เกิดโจทย์สำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่

กระแสลดขนาดเครื่องยนต์หรือ   Engine Down Sizing  กำลังมาแรงในช่วงปี  2009-2010   ก่อนที่ฮอนด้าจะออกมาประกาศเทคโนโลยี   Honda  Earth Dream  ทางทีมวิศวกร จึงจัดการงานออกแบบเครื่องยนต์ให้ตอบสนองในการใช้งาน พวกเขาเริ่มต้นด้วยชุดบล็อกเครื่องยนต์ใหม่ ทั้งฝาสูบและเสื้อสูบหันไปใช้อลูมินั่มที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมปรับปรุงการทำงานของชุดสูบลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน  ด้วยการลดชายลูกสูบให้สั้นลง รวมถึง ตัวผนังสูบยังบางลง  1 มม. จาก   9 มม. เหลือเพียง   8   มม. ช่วยลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นลงได้ร้อยละ   40   เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้านี้

ตลอดจนยังเพิ่มแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงจาก  1,600   Bar   มาเป็น  1,800   บาร์ รวมถึงปรับปรุงการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ลดท่อทางในเสื้อสูบ หันมาใช้ปั้มน้ำที่มีขนาดเล็กลง

หากแต่หมัดเด็ดของเครื่องยนต์ดีเซลฮอนด้า i-Dtec 1.6   กลับอยู่ที่การแนะนำระบบเทอร์โบชาร์จ 2  จังหวะเข้ามาตอบโจทย์ในการขับขี่ เครื่องยนต์บล็อกนี้มีเทอร์โบ 2  ลูก ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทำงานตอบสนองในการขับขี่ ตามจังหวะรอบเครื่องยนต์ และที่สำคัญที่สุดแพ็คเกจสมรรถนะในการขับขี่จากฮอนด้า สามารถลดน้ำหนักลงไปได้  47   กิโลกรัมเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์  2.2   ลิตร รุ่นเดิม

ในบ้านเรา   honda  1.6 i-Dtec   ร้อนเรียงมากับชุดเกียร์อัตโนมัติ  9   สปีด  ช่วยสร้างเสริมความประหยัด ทาฮอนด้าเปิดเผยว่าพวกเขาหันไปใช้ผู้ผลิตเกียร์   ZF   เจ้าเดียวกับที่   BMW   หรือ  Range rover  ใช้ และนั่นน่าจะทำให้คุณๆ คงพอจะใจชื้นเรื่องสมรรถนะพอตัว

ก่อนทำการขับทดสอบ ทาฮอนด้าพาชมตัวเป็นๆ   Honda  CR-V   ใกล้ชิดติดขอบ จับได้ลูบได้ คลำได้ แต่ไม่ให้ถ่ายรูป …. เพราะรถยังไม่เปิดตัว ภาพที่คุณเห็นนี้ทั้งหมด ถ่ายโดยทีมงาน   Honda
ผมเดินมองๆ การออกแบบ   Honda  CR-V   ใหม่ แม้จะผ่านตาจากอินเตอร์เนตตามภาษาคนทำเว็บรถยนต์ จากมอเตอร์โชว์ต่างประเทศ แต่เมื่อมาเจอตัวจริงเจ้า ฮอนด้า ซีอาร์วี ใหม่ มันเป็นรถที่ดูลงตัวงดงามยิ่งนัก เหมือนสาวเจ้าหน้าตางามถ่ายรูปบ่ขึ้น เมื่ออยู่หน้าเลนกล้อง

ตัวรถใหม่ดูมีความลงตัวงดงามไฟหน้าให้แบบ   LED   มาพร้อมสรรพ มีไฟ  Day Time Running Light  เอกลักษณ์เดียวกับรถยนต์   Honda  Civic  ใหม่  ไฟตัดหมอกเป็นแบบ   LED   เรือนร่างงานออกแบบออกไปทางรถยนต์หน้าตาดูหมูมู่ทู่ บางอารมณ์ผมว่ามันไม่รับแขก ดูไม่เชื้อเชิญเหมือนรุ่นก่อนหน้า

จากด้านหน้ามามองทางด้านหลัง ไฟท้ายและการออกแบบด้านหลัง ดูมีความลงตัวอย่างมากในการให้รายละเอียดความทันสมัยชุดไฟท้าย LED  ทรง  L  ใหญ่ มีเขี้ยวเพิ่มเอกลักษณ์ความน่ามองยิ่งขึ้น ดูคล้ายรถยุโรปจากแดนเหนือใกล้ขั้วโลกบางรุ่นอยู่บ้าง แพ็คเกจการออกแบบทั้งหมดทางฮอนด้าอัญเชิญล้อแม็กทูโทนลายไซโคลนดูมีมิตขนาด 18   นิ้วมาตอบคำถาม จัดพร้อมยางที่ปรับขนาดมาใช้   235/60/R18   

ในห้องโดยสารเข้ามานั่งในฟีลความทันสมัย   Honda   จัดเต็มความลงตัวเรื่องการใช้งาน จุดเด่นรุ่นนี้คือเป็นชุดเบาะแบบ   3   แถว  7   ที่นั่ง ด้านหลังผมลองแล้วต้องบอกว่าเหมาะสำหรับเด็กและสตรีไทยไซส์มินิมากกว่า เบาะแถว  2 สามารถ ปรับเดินหน้าหลังได้ มีจังหวะเอนได้ตามต้องการหลายระดับ  เบาะนั่งคู่หน้าในรถทดสอบคันที่ผมมาด้อมๆ มองๆ นี้เป็นปรับไฟฟ้าคู่ไหน้า ไม่มีเมมโมรี่มาให้ มาพร้อมระบบเครื่องเสียงใหม่ แต่ยังไม่ได้ลงเล่นเลย
รอสักพักใหญ่ๆ  ยาว ก็ถึงคิวขับสักที เลข 13  มักนำโชคดีผมเชื่อว่าอย่างงั้น
ก่อนจะขึ้นขับ พี่วิทิต จากเว็บไซต์  Auto-Thailand  และพี่จั้ม จากนิตยสารฉบับหนึ่งขันอาสาของตามไปดูผมขับด้วย …ผมไม่ปฏิเสธพวกเขาที่จะให้ไปดูว่าสมรรถนะรถคันนี้เมื่อนั่งแล้วขับจะเป็นอย่างไร
ก่อนอื่น คุณต้องรู้เงื่อนไขการทดสอบก่อนว่า ผมไม่ได้ขับเยอะชนิดมาเล่าได้เป็นทุ่งดั่งใจคิด  2   รอบสนาม ระยะทางต่อรอบ   4.554  กิโลเมตร รวมๆ แล้วก็ตกเฉลี่ยๆ ราว 8  กิโลเมตร
ไม่ต้องถามว่าประหยัดเท่าไร เพราะตอนนี้คงตอบให้ไม่ได้ การจัดทดสอบแบบนี้ เพียงเพื่อต้องการจะให้เห็นสมรรถนะอย่างเดียวเท่านั้น
“รัดเข็มขัดด้วยพี่” ผมบอกพี่ๆ ทั้งสองที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย   ส่วนตัวผมเองใช้เวลาจัดท่าทางตัวเอง ปรับพวงมาลัย ขึ้นลง-ยืดหด ตามประสงค์ บนหน้าจอตรงหน้าพูดได้เลยว่ายกมาจาก   Honda  Civic   ใหม่ทั้งชุด มันดูสปอร์ตดีได้อารมณ์วัยรุ่น แต่ผมก็นึกเหมือนกันว่า คนวัยกลางคนจะชอบสไตล์นี้หรือไม่

ข้างประตูมีลายไม้ผมมองแบบผ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบมันไร ลายไม้นี้ดูจะขัดกับเรือนไมล์และความทันสมัยของตัวรถอย่างมาก พวกมันประดับตรงหน้าที่นั่งฝั่งคนนั่ง และ ตรงช่องวางของตรงกลาง ผมสำรวจอย่างเร็วเตรียมออกเดินทางกับชุดแอร์ออโต้ และในงวดนี้ Honda  ระบบเกียร์ปุ่มเข้ามา

การไม่มีชุดคันเกียร์ให้ลาก แต่ใช้ปุ่มกดแทนทำให้คุณอาจจะต้องงมโข่งพักใหญ่ มันไม่ได้ใช้ยากมากมาย แต่อาจจะต้องการความคุ้มชินในระยะแรง เมื่อเหยียบเบรกกดปุ่มไปที่   D /S   รถจะพร้อมเดินทางไปข้างหน้า กดซ้ำอีกครั้งเพื่อเข้าโหมดสปอร์ต เช่นเดียวกับ  P  และ   N   ส่วนถอยหลังให้ดันเข้าหาตัวเท่านั้นเอง

ทุกอย่างพร้อมผมออกรถ โดยมีผู้โดยสาร  3   คน  ภายในรถ รอบแรก ผมขับแบบปถุชนธรรมดา อัตราเร่งของ   Honda  I -Dtec  1.6   ลิตร   ตอบสนองได้ดีในระดับหนึ่ง สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคืออาการ   Turbo Lag  หรือ รอรอบหายเป็นปลิดทิ้ง เครื่องยนต์ทำงานอย่างต่อเนื่องตอบสนองได้ดียามเร่ง ค่อนข้างติดเท้าอยู่ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่เข้าโหมดสปอร์ต และเมื่อย่ำเท้าลงไปบนแป้นคันเร่ง เครื่องยนต์จะดูอาการหน่วงๆ เล็กน้อยอยู่บ้าง

สาเหตุมาจากลักษณะการทำงานของ พลังหอย 2  ชั้น   2 Stage  Turbo  มีการตอบโจทย์เพื่อลดอาการรอรอบ แต่ใช้การปั่นพลังช่วยกันในระหว่างการทำงาน โดยเทอร์โบลูกเล็ก จะปั่นอากาศต่อเนื่องเพื่อช่วยเทอร์โบลูกใหญ่ และจะทำงานร่วมกันในบางจังหวะ ตามจังหวะการทำงานของรอบเครื่องยนต์ เพื่อให้แรงดันอากาศทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่งให้พลังของเครื่องยนต์มีสเถียรภาพในระหว่างการขับขี่

กำลัง  160   แรงม้า สูงสุดที่  4,000  รอบต่อนาที และ แรงบิดสูงสุด   350   นิวตันเมตรที่  2,000  รอบต่อนาที หลายคนคงคิดว่าแรงหนักหนา แต่หลังจากผ่านไปครึ่งสนามผมก้ตระหนักว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากระบบเกียร์อัตโนมัติ   9  สปีด จาก  ZF Transmission  ที่ถ่ายทอดได้นุ่มนวลไร้รอยต่อไม่มีความรู้สึก ยกเว้นคุณกระดิกนิ้วผ่าน   Paddle Shift  ก็มีบ้างที่จะสะดุ้งตามภาษาเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็ว
ส่วนหนึ่งที่เครื่องยนต์ไม่ออกอรรถรสความสปอรตในการขับขี่มากมายนัก ก็มาจากชุดเกียร์นี่แหละ ที่ทำให้ทุกอย่างดูไม่ตื่นเต้นอย่างที่หลายคนคิด แต่แน่นอนมันน่าจะเหมะต่อการใช้งานบนถนนจริง ในฐานะรถครอบครัวไม่ได้มีดีกรีซิ่ง ไว้วิ่งซื้อกับข้าวรับส่งลูกไปโรงเรียน และเที่ยวทั่วไทยในวันว่างของครอบครัว

รอบที่  2  มาถึงอย่างไว ผมปรับเข้าสู่โหมดสปอร์ต โหมดนี้การตอบสนองของอัตราเร่งดีขึ้นเล็กน้อย จุดเด่นคือการให้ลากรอบจนถึงระดับแรงม้าสูงสุดทุกเกียร์ อย่างช่วยทางตรงหน้าพิทเลนของสนามช้าง มทำความเร็วสูงสุดได้   132  กิโลเมตร ก็ผ่อนความเร็วเตรียมเทโค้ง

เมื่อมาลองขับเร็วๆ ต้องยอมรับว่าการตอบสนองของช่วงล่าง   Honda  CR-V   ใหม่  ออกไปในทางสปอร์ตมากกว่ารุ่นเดิม ช่วงล่างโดดเด่นเรื่องความแน่นหนึบกว่ารุ่นทีผ่านมา การตอบสนองพวงมาลัยหนักแน่นระยะฟรีน้อยลง และที่สำคัญค่อนข้างคมมากขึ้น

เอกลักษณ์บุคลิกแบบนี้ผมบอกเลยว่าได้ฟีลลิงรถยุโรปรับอิทธิพลมาค่อนข้างเยอะพอสมควรแตรกระนั้นการตอบสนองเครื่องยนต์เพื่อการขับขี่แบบสปอร์ตอาจจะยังไม่ทันใจนัก ผมลองกระดิกเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองหลายรอบ โดยเฉพาะก่อนเข้าโค้ง มันตอบสนองจากแป้นเกียร์สั่งการยังล่าช้านิดหน่อย

ที่สำคัญที่ผมเจอระหว่างการทำสอบในยามเข้าโค้งด้วยความเร็ว คืออาการหน้าดื้อหรือ  Under Steer  อาจจะเนื่องจากเครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา และอีกประการคืออาการหน้าไว  อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าปรารถนา มันเกิดจากสาเหตุสำคัญ  2 ประการ  หนึ่งมาจากการลดอัตราทดพวงมาลัยให้ตอบสนองไวขึ้น และ สอง เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา ทำให้ตอบสนองเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

 

Honda  CR-V   ใหม่ เครื่องดีเซลเป็นอย่างไร!!!  

สรุปเลยว่ามันเป็นเครื่องยนต์ที่ตอบสนองในการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะความประหยัดที่ทางฮอนด้ากล้าเคลมอัตราประหยัดเฉลี่ย 18.9   กิโลเมตร/ลิตร  รวมถึงยังปล่อยไอเสยีต่ำเพียง   141  กรัม/กิโลเมตร

ผมไม่แปลกใจที่มันจะตอบสนองในการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี คนสมัยนี้ต้องการรถยนต์ที่ประหยัดดูดีในการขับขี่ แต่ปัญหาที่ผมพบคือ เครื่องยนต์ดีเซลจากฮอนด้าอาจจไม่รู้สึกถึงความแรงอย่างที่หลายคนคาดคิดและมีภาพลักษณ์ติดจากเครื่องยนต์ดีเซลจากรถยุโรปว่า มันต้องแรงทะลุโลก

แต่เรากำลังพูดถึงเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีกำลังเพียง  160   แรงม้าเท่านั้น มันไม่ได้เยอะมากมาย แรงบิด  350   นิวตันเมตร ก็ไม่ได้วิศวกรรมาเพื่อความแรง แต่เพื่อตอบสนองในการขับขี่ เช่นการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว หรือ การเดินทางในทางลาดชัน สำหรับผมเข้าใจได้ แต่กับคนอื่นผมไม่มั่นใจว่าเรื่องนี้จะแก้ตัวกันง่ายๆ  ว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่เร้าใจดั่งที่พวกเขาคิด

จะว่าไป ถามถึงภาพรวมนอกจากเครื่องยนต์ดีเซล นาทีนี้ จากฟังชั่นที่ให้มา   Honda  CR-V   ใหม่ค่อนข้างตอบโจทย์พอสมควร ฮอนด้ายังคงครองความเป็นรถยนต์นั่งออพชั่นดีในตลาด เหมือนที่ผ่านมา และไม่สงสัยเลนยว่า   Honda  CR-V   ใหม่รุ่นนี้น่าจะขายได้ดีอีกคราหนึ่ง

สำหรับผมการลองสั้นๆ ครั้งนี้บอกได้  2 เรื่อง คือเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกนี้เกิดมาเพื่อประหยัดมากกว่าเน้นเค้นสมรรถนะ และอีกประการคงไม่พ้นว่า   Honda  CR-V   ใหม่ เป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองชีวิตครอบครัว และยังคงครบครันในการออกแบบ ตลอดจนฟังชั่นการใช้งาน

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดที่เชิญเข้าร่วมการทดสอบรถยนต์   Honda  CR-V 
 เจนเนอร์เรชั่นที่  5   

 
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ …. เนื้อหาดีๆ ต้องแบ่งปันต่อ แล้วอย่าลืมถูกใจ เพื่อรับข่าวสารยานยนต์ดีๆ จากทีมงานคุณภาพ Ridebuster – ส่องรถ ….

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”117″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”0″ thumbnail_width=”240″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”2″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*