ท่ามกลางการต่อสู้ในตลาดกระบะวันนี้ เชื่อว่ากระบะแต่งเสร็จจากโรงงาน เป็นอีกหนึ่งความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เห็นได้จากความสำเร็จของค่ายรถยนต์ชั้นนำจากอเมริกัน ที่ขายตัวแต่งดีเป็นเทน้ำเทท่าทำเอาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นทั้งหลายเดินหน้าทำรุ่นพิเศษแต่งเสร็จจากโรงงานเข้ายึดหัวหาดทำตลาดบ้าง ไม่เว้นกระทั่ง Mitsubishi ที่เพิ่งจะปล่อย Mitsubishi Triton Athlete ออกมา
แม้ว่นาจะไม่ใช่รถใหม่ล่าสุดในตลาด แต่ก็น่าแปลกที่มิตซูบิชิ ยังสามารถสร้างยอดขายกระบะได้เรื่อย ๆ ด้วยความคุ้มค่าเหนือราคา และการแนะนำการตบแต่ง Mitsubishi Triton Athlete ล่าสุดยิ่งปั่นกระแสให้สาวกมิตซูบิชิสนใจเจ้ากระบะคันนี้มากขึ้นไปอีก
เป็นเวลากว่า 3 ปี เห็นจะได้แล้วที่ผมไม่ได้ขับรถยนต์จากค่ายมิตซูบิชิเลย หลังจากรถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport เปิดตัวออกมาในปี 2015 ก็ตามมาด้วยข่าวต่างมากมายจนเกมธุรกิจวันนี้ มิตซูบิชิตกไปอยุ่ในเครือบริษัทนิสสัน
การเปลี่ยนมือจากเดิมไปสู่พรรคพวกใหม่ทำให้มิตซูบิชิต้องปรับตัวอย่างหนัก ประเด็นแรกที่เราสังเกตจากมิตซูบิชิทั่วโลกหีไม่พ้นการเล่นแร่แปรธาตุภายในค่าย โดยเฉพาะการจับเอารถยนต์ที่ขายดีหรือได้รับความสนใจในแต่งละประเทศมาเพิ่มมูลค่าความลงตัวมากขึ้นไปอีก พวกเขาใช้กลยุทธ์แต่งหน้าทาปากเพิ่มความสนใจ เริ่มแนะจากในญี่ปุ่น และขยายไปอีกในหลายประเทศ
ในญี่ปุ่น Mitsubishi ใช้ชื่อรุ่นว่า Active Gear เป็นการสะท้อนรถยนต์สำหรับใช้ในการขับขี่วันว่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง พวกเขาแนะนำการตบแต่งในรถยนต์ 3 รุ่นได้แก่ Mitsubishi Delica รุ่น D5 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในสไตล์แบบ MPV ,ส่วนอีก 2 รุ่นได้แก่ Mitsubishi RVR และ Mitsubishi ek custom และให้หลังไม่นาน Mitsubishi ทั่วโลกก็เริ่มมีรถตบแต่งสีส้มระบาดไปทั่ว
ประเทศไทยเราเอง จะแต่งใน Mitsubishi Mirage ก็ดูจะไม่ใช่ จะแต่งในรถยนต์อเนกประสงค์ Mitsubishi Pajero Sport ก็ดูจะไม่เข้ากับความหรู ทางค่าย Mitsubishi จึงตัดสินใจแหกคอกด้วยการจับกระบะ 4 ประตูมาแต่งแต้มเติมเสริมความลงตัวในสไตล์โทนส้ม
ยังจำได้ว่า ตอนที่มิตซูบิชิส่งข่าวการเตรียมเปิดตัวกระบะโทนส้มออกมา ผมรู้สึกว่ามันดูประหลาดและรู้สึกว่า การเลือกใช้โทนส้มมาแต่งในกระบะอาจจะดูลิเกในความเป็นจริง
จนกระทั่งวันหนึ่งขับผ่านโชว์รูม Mitsubishi แถวบ้าน เหลียวไปเห็นรถรุ่นนี้จอดตระหง่านในโชว์รูม … มันเด่นสะดุดตาไม่น้อย เมื่อเห็นรถลูกค้าหลายคันเริ่มวิ่งแถวๆ นนทบุรี ยิ่งรู้สึกว่ามันดูหล่อดีเหมือนกัน ผมจึงไม่รอช้ายกหูไถ่ถามว่ามีมาให้ หยอดเหรียญขับเท่ห์หรือไม่ เพราะเรารู้ดีว่าเจ้านี่เป็นเพียงรถเวอร์ชั่นแต่งพิเศษ
เจอหน้ากันครั้งแรก ทันทีที่พี่อาร์หนุ่ม คุณโอ จอดรถหน้าตึกสำนักงานใหญ่แห่ง Mitsubishi , FYI, หลังอยู่ที่ทุ่งรังสิตมานานนับหลายสิบปี เจ้า Mitsubishi Triton Athlete ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างของมันกับกระบะทั่วไปได้ตั้งแต่แรกเห็น
ผมอาจไม่ได้เป็นคนที่เก่งงานศิลป์อะไรมากมาย แต่ยอมรับว่าการเลือกสีผสมกันระหว่าง สีขาว , สีเทา , สีส้ม และสีดำ เป็นอะไรที่ค่อนข้างลงตัวอย่างมาก ยิ่งรถคันนี้เป็นสีขาวลวดลายสติ๊กเกอร์ยิ่งเด่นมากขึ้น รถลงตัวด้วยกระจังหน้าสีดำ ล้อสีดำ คิ้วขอบล้อสีดำ รวมถึงบันไดข้างสีดำ ตลอดจนยังเป็นครั้งแรกถ้าไม่นับรถในตัวต้นแบบที่เรามีโอกาสเห็นเจ้า Mitsubishi Triton ติดตั้งสปอร์ตบาร์ รถมาพร้อมไลน์เนอร์ในกระบะพร้อมสรรพ เรื่องการใช้งาน รวมถึงยังติดตั้งกันชนท้ายมาให้พร้อมครบเครื่อง
กระโดดขึ้นฝั่งคนขับ ภายในห้องโดยสาร Mitsubishi Triton Athlete โดดเด่นด้วย การออกแบบภายในโทนส้ม จุดหลักๆ คือเปลี่ยนเบาะนั่งมาใช้การหุ้มหนังสีส้มแสบตาดูโคตรวัยรุ่น ผิดกับรถยี่ห้ออื่นในตลาด บางทีเล่นโทนสีส้มยังดูไม่แจ่มจรัสเพียงนี้
มันเป็นรายละเอียดรถอย่างเดียวที่เราแล้วต่างจากรุ่นธรรมดาทั่วไปแต่ก็ได้ใจไม่น้อย สำหรับคนรักการตบแต่งที่พนักผิงเบาะมีคำว่า “Athlete” สักมาบ่งบอกความพิเศษ ส่วนรายละเอียดอื่น ก็แทบไม่ต่างจากเดิม
3 ปี พบกันทั้งทีเหมือนเพื่อนที่จากกันไปนาน แถมทางมิตซูบิชิ ยังดั้นด้นอุส่าห์ตั้งใจหารถขับเคลื่อนสี่ล้อมาให้ อีกต่างหาก ก็เลยสบโอกาสว่าเราคงจะต้องเอาไปขับให้คุ้มค่าสักหน่อย
ในช่วงปี 2016 Mitsubishi มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรถกระบะ เมื่องทางมิตซูบิชิเรียกความสนใจสายลุยด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เอกสิทธิเฉพาะของมิตซูบิชิ ที่เรียกว่า Mitsubishi Super Select 4WD
ที่ไหนจะทดสอบความสามารถสุดโหดเจ้ากระบะคันนี้ได้ ไม่มีที่ไหนที่ผมนึกออกและเหมาะสมมากไปกว่า เขากระโจม เขาสูงชายแดนไทยพม่าในจังหวัดสวนผึ้ง
ที่นี่เป็นดินแดนที่ผมมักชอบนำเอากระบะและอเนกประสงค์ขับเคลื่อนสี่ล้อมาทดสอบเสมอ เส้นทางสุดยอดสมบุกสมบัน มีทางน้ำให้ทดลอง และเนินชัน หลุมสลับเพียบ ระยะทางไม่กี่กิโลเมตรจากตีนเขาขึ้นไปยังปลายทา งถือว่าโหดกำลังดีไม่เลวร้ายเกินไป
ระหว่างทางจากบ้านย่านจังหวัดนนทบุรีไปยังสวนผึ้ง ผมชอบความสนุกสนานในการขับขี่จากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร Mivec clean diesel ขุมพลัง 181 แรงม้าให้กำลังสูงสุด 3,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,500 รอบต่อนาที ขับสนุกไม่เป็นสองรองใครในบรรดาดีเซลด้วยกัน ยิ่งเมื่อมองความได้เปรียบขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กกว่าบรรดาคู่แข่ง ยิ่งทำให้ต้องซูฮกเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งาน
การตอบโจทย์ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ดูจะทำให้น่าเซ็งไปบ้างเนื่องจาก มีอัตราทดค่อนข้างน้อยไปสักนิด แต่ไม่ถึงกับจะน่าเกลียดเกินงาม เพียงแค่คิดว่าถ้ามันมีอัตราทดเป็น 6 จังหวะ คงน่าจะดีกว่านี้ ด้วยจะสามารถรีดอัตราประหยัดเพิ่มขึ้นดีกว่านี้อีก
ผมเดินทางด้วยความเร็ว 90-120 ก.ม./ช.ม. ตามความสามารถของการจราจร สิ่งที่น่าชื่นชม และไม่ควรมองข้ามในเจ้า Mitsubishi Triton Athlete คือความเงียบของห้องโดยสาร ที่เก็บเสียงได้ดีมาก ๆ คุณไม่มีโอกาสได้ยินเสียงเครื่องยนต์เข้าห้องโดยสาร รวมถึงช่วงล่างที่ดูจะแข็งๆ ในช่วงความเร็วต่ำ ขับด้วยความเร็วเดินทางปกติ ก็นุ่มนั่งสบายกำลังดี เบาะนั่งตอนหลังของ Triton เอง จัดวางท่านั่งมาดีอยู่แล้ว ยิ่งให้ครบเครื่องเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง หากหวังว่าจะใช้ไหรับพ่อตามาแม่ยาย
ผมว่าทางมิตซูบิชิ น่าจะพิจารณาหาช่องเสียบ USB เพิ่มอีกสักนิด แล้วอัพระบบความบันเทิงภายในรถอีกสักหน่อย ก็น่าจะทำให้ Mitsubishi Triton เป็นรถเก๋งที่ออกมาค่อนข้างสมบูรณ์แบบพอสมควร
อีกอย่างที่สมควรจะเริ่มพิจารณาให้มาได้แล้ว คือระบบความปลอดภัยช่วยในยามขับขี่ หรือที่เรียกว่า Active Safety พวกมันช่วยได้มากกับการเดินทางไกล และอันที่จริง มิตซูบิชิ ก็มีระบบพวกนี้อยู่แล้วเพียงแค่ไม่ได้ใส่ลงมาในกระบะเท่านั้นเอง
ลองลุยโหด Super Select 4WD ขึ้น เขากระโจม
ถึงเขากระโจมแล้ว เราขับขึ้นไปตามทางวันนี้ พบว่า เส้นทางงวดนี้ค่อนข้างโหดเอาเรื่อง หลังคราวที่แล้วขับเจ้า Subaru Forester ขึ้นมาได้อย่างสบายๆ ไร้ปัญหา
หนนี้เจ้าหน้าที่รักษาการตรงจุดตรวจการกล่าวกับผมว่า ทางโหด เนื่องจากไม่มีการปรับปรุงทาง และอีกประการช่วงที่เราเดินทางไป ฝนตกต่อเนื่อง 2-3 วัน ก่อนหน้า และพึ่งจะหยุดในช่วงก่อนที่เราเดินทางถึงที่หมายไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
ช่วงแรกเริ่มต้นก็พาลุ้นไม่น้อย เส้นทางสุดโหดต้อนรับด้วยร่องลึก จนเรานึกว่าไม่น่าจะผ่านไปไม่ได้ การขับวันนี้ไม่สามารถใช้โหมด 4 H ขึ้นเขากระโจมได้เลย เราต้องเปลี่ยนมาใช้โหมดการขับขี่ 4 LLC ตั้งแต่ช่วงแรกของการเดินทาง
โหมด 4HLC และ 4LLc เป็นโหมดการขับขี่พิเศษใน Mitsubishi Super Select 4 WD ออกแบบมาให้ตอบสนองในการลุยมากขึ้น โดยทางมิตซูบิชิ ติดตั้งตัวปรับกำลังขับเคลื่อนไว้ เพื่อให้สามารถแปรผันกำลังขับได้ เมื่อเทียบกับโหมด 4 H จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออื่น ๆ
ระบบของมิตซูบิชิ จะมีความสามารถในการขับขี่ในถนนปกติ (ถนนแห้ง) ถ่ายทอดกำลังระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ในอัตรา 40/60 ทำให้เวลาเลี้ยวกลับรถไม่มีอาการขืนพวงมาลัย ส่วนในยามถนนเปียกจะปรับการส่งกำลังเป็น 50/50 ระหว่างหน้าและหลัง
ในกรณีขับทางที่มีแรงยึดเกาะผิวต่ำ เช่นทางโคลน เราสามารถใช้โหมด 4 HLC ช่วยในการขับขี่ได้ โหมดนี้จะล็อคการถ่ายกำลังระหว่างล้อหน้าและหลัง ในอัตรา 50/50 เราสามารถเปลี่ยนมาใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดรถ ที่ความเร็วไม่เกิน 100 ก.ม./ช.ม.
แต่ถ้าคุณกำลังเจอสุดยอดวิบากกรรมพวกเนินสลับ หรือทางที่ต้องมีการไต่ทางชัน ผมแนะนำว่า เปลี่ยนมาใช้โหมด 4LLc ดีว่าครับ
เกียร์ 4 LLc เป็นตำแหน่งเดียวกับเกียร์ 4L โดยจะคงการล็อคถ่ายทอดกำลังหน้า-หลังในอัตรา 50/50 แต่จะมีชุดเกียร์ทดกำลังเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า จากชุดเกียร์ 4 H ทำให้มีอำนาจการขับเคลื่อนกำลังฉุดจากเครื่องยนต์ดีกว่า แต่การเปลี่ยนมาตำแหน่งนี้คุณต้องจอดหยุดนิ่งเข้าเกียร์ N แล้วกดปุ่มสวิทช์ขับเคลื่อนลงไปเล็กน้อยก่อนบิดหมุน (สามารถดูวีดีโอประกอบเพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจได้)
ไม่นานเรามาถึงช่วงช่องเขาคอด จุดนี้ทางหินล้วน ๆ ไม่มีไลน์รอยล้อให้อ่าน เราต้องเดินไปดูเส้นทาง แล้วเลือกว่าตรงไหนน่าจะไต่ได้ดีที่สุดโดยไม่ทำอันตรายรถ ตรงนี้ใช้ความเร็วต่อเนื่องเรื่อย ๆ หักพวงมาลัยไปตามเส้นทางที่เห็นว่าสมควรก็ผ่านไปได้สบายมาก
จนเรามาถึงด่านสำคัญแอ่งน้ำความยาวประมาณ 300-400 เมตร เห็นแบบนี้ ประมาทไม่ได้ ความสูงของน้ำวันนี้ 70 ซ.ม. ถือว่าค่อนข้างสูงพอสมควร เมื่อเทียบกับที่เคยขับขึ้นมา เจ้า Mitsubishi Triton athlete ค่อยๆ คลานลงไปในน้ำ ความสูงของน้ำอยู่แถวชายประตูข้าง แต่ก็ยังนับว่าไม่น่ากลัวเท่าไรนัก
ขับมาเรื่อยในที่สุดเราก็เจออุปสรรคสุดท้ายที่อันตรายสุดๆ เนินพัน เนินชันแห่งนี้มีความสูงชันประมาณ 30 องศา และขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะ 2 กิโลเมตรสุดท้าย การใช้โหมด 4 LLc เปลี่ยนเนินนี้จากยากลำบากให้ขับสบาย ในวันนี้ยากขึ้นมาหน่อย เรามีร่องน้ำที่ต้องคร่อมหลายจุดด้วยกัน และแถมกรวดหินยังเยอะมากเป็นพิเศษ ทำเอาลำบากมีล้อฟรีเป็นระยะๆ แต่ก็ขับขึ้นมาได้เรื่อย ๆ
ในที่สุดเราถึงที่หมายปลายทางเขากระโจมได้ดังหวัง บทพิสูจน์ของโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ super Select 4 WD ในแบบการใช้งานจริงพิสูจน์แล้วว่ามันมีความสามารถในการขับขี่มากกว่ากระบะรุ่นอื่น
เสียดายที่ทางมิตซูบิชิ ยังไม่ติดตั้งพวกตัวช่วยในการขับขี่ อาทิ ระบบช่วงลงทางลาดชัน ,ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน ไม่อย่างงั้น มันคงจะเข้าขั้นเพอร์เฟคอย่างแน่นอน
Mitsubishi Triton Athlete 4X4 ถือว่าเป็นรถที่ลงตัวนะทั้งในแง่ความหล่อเหลาและความสามารถในการขับขี่ มันเป็นกระบะที่ขับได้เต็มภาคภูมิทั้งความสบายมอบให้บนถนนทั่วไป และพร้อมสรรพยามต้องลุย ในราคา 1.11 ล้านบาท น่าเสียดาย ทางมิตซูบิชิทำเจ้าหล่อAthlete ในรุ่นเกียร์ออต้าเท่านั้นสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มิเช่นนั้น เชื่อว่าจะโดนใจหลายคนมากกว่านี้อีก
ผมกลับกรุงเทพพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ จากเขากระโจม Mitsubishi เป็นรถที่ยังตัวตนที่น่าสนใจเรื่องความทนทานและความสามารถในการลุยได้อย่างถึงใจ ในราคาที่ไม่แพงเกินงาม เรื่องความหล่อก็ลงตัวตามฉบับของมิติซูบิชิ ในสไตล์สปอร์ต ถ้าคุณไม่รีบก็อยากจะแนะนำว่ารอตัวหน้าใหม่ที่กำลังจะมา แต่ถ้าถามผมเจ้าตัวนี้ก็หล่อในแบบมีสไตล์ไม่เหมือนใคร ขับมาเชื่อเลยว่าใครก็จำได้
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”563″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]