ท่ามกลางความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า เราจะเห็นได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น แนะนำรุ่นขับเคลื่อนด้วยพละกำลังสูงประดุจ ซื้อรถสปอร์ตในราคารถบ้าน หนึ่งในนั้น ไม่พลาดตกขบวนก็ดูจะไม่พ้น ORA 07 Performance น้องแมวขาโหด ในเรือนร่างอันน่ารัก
ORA 07 มีวางขายทั้งสิ้น 2 รุ่นด้วยกัน คือ ORA 07 LongRange รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า เน้นความประหยัดขับได้ไกล แต่อีกรุ่นที่มาขายพร้อมกัน นั่นก็คือ ORA 07 Performance รุ่นครบรสสมรรถนะในการขับขี่ ที่ใครไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อนในแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเจ้านี้
การมาของ ORA 07 ถูกวางให้ตัวรถยกระดับจากน้องแมว ORA Good CAT ที่หลายคนมองว่ามันน่ารัก
รุ่นนี้ทางแบรนด์ต้องการนำเสนอความหรูหราทันสมัย จะเรียกว่าเป็น “แมวไฮโซ” ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะ เจ้าเหมียวที่ดูกลมๆ ราวๆ รถบีทเทิลในรุ่นเดิม ถูกจับยืดตัวถังออกจนมีความยาว 4,871 มม.กว้าง 1,862 มม.และสูง 1,500 มม.
ไม่เพียงเท่านี้หน้าค่าตา จากน่ารักแอ๊บแบ๊ว ก็ปรับทรงให้ปราดเปรียวมากขึ้น ยังคงเอกลักษณ์ไฟหน้ทรงกลมรี พร้อมเส้นสายที่มีความโค้งมล ตลอดคัน
ใครจะเชื่อว่า รถคันนี้ได้วิธีการออกแบบตัวรถมาจาก การเคลื่อนไหวของน้ำ ทำให้มันดูกลมเกลี้ยง และมีความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวในเวลาเดียวกัน
รุ่น Performance มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลวดลายได้จากแรงบันดาลใจอุ้งเท้าแมว ถ้านึกไม่ออกว่าตรงไหน ลองกลับไปที่บ้านอุ้มเจ้านายขึ้นมาดู เช็คว่า เขาเอาความคิดลายล้อมาจากไหน
จุดเด่น ORA 07 อยู่ที่ท้ายรถที่ ที่มีการออกแบบ เป็นทรงท้ายลาด ที่เรียกว่า “SLip Back” มันเป็นท้ายลาดที่มีความโค้ง ไม่ใช่ทรงเหลี่ยมแบบที่เราคุ้นเคย
ความโค้งช่วงท้าย ต้องขอบคุณ หลังคากระจก ขนาดใหญ่ ที่วางมาตั้งแต่ช่วงกลางรถ ยาวไปถึงด้านหลัง เสริมความแข็งแรงมากขึ้นด้วย คานเหล็กตรงกลางภายในรถ มอบความปลอดภัยมั่นใจมากขึ้น สำหรับใครที่ขี้กังวล
ไม่เพียงเท่านี้ทรวดทรงตัวรถที่ดูเรียบๆ ยังพก สปอร์ยเลอร์ไฟฟ้า มาให้ด้วยในรุ่นนี้ ยามปกติ สปอร์ยเลอร์จะกระดกขึ้นเอง เมื่อความเร็วเกิน 70 ก.ม./ช.ม. หรือคุณจะเปิดเองจากในรถก็ทำได้
ท้ายรถคงความอวบอิ่มในสไตล์ บั้นท้ายกลมๆ มาพร้อมไฟท้ายทรงกลมรี ดูบางทีนึกถึงรถอังกฤษ ราคาหลายสิบล้าน พอจะมีเค้าลางอยู่บ้างเหมือนกัน
เข้ามาในห้องโดยสาร ORA 07 Performance แนะนำตัว ด้วยงานออกแบบที่มีความพรีเมี่ยม ฉีกภาพแมวเดิมที่คุณเคยรู้จักไปเลย
เข้ามาในรถคันนี้คุณจะสัมผัส ถึงความหรูหราทันสมัย อย่างแรก ที่ผมถูกใจมาก คือความคิดในการทำจอ 10.2 นิ้ว ตรงหน้าคนขับเป็นมาตรวัด 3 ช่อง แบบรถสปอร์ตทั้งหลาย
จองกลาง วางแยกจากจอขับขี่ ให้ขนาด 12.3 นิ้ว ขนาดไม่ใหญ่เว่อมาก กำลังดี เพียงพอต่อการใช้งาน ชุดจอตัวนี้ค่อนข้างลื่นในการสัมผัส ไปตามใจ ดั่งนิ้วเขี่ย ไม่สะดุดงึกงัก แบบแมวเล็ก
ในส่วนเบาะนั่ง ค่อนข้างจะถูกใจหลายคน ,เบาะนั่งยังคงเป็นสไตล์เบาะชิ้นเดียว แต่ออกแบบให้มีความใหญ่นั่งสบาย ระหว่างการเดินทาง
เบาะคนขับ สามารถเป่าลม และมีฟังชั่นนวดมาให้เสร็จสรรพ แถมพวงมาลัยปรับไฟฟ้า เสียด้วย ให้ความรู้สึกแบบรถหรู รวมถึง คันเกียร์ไฟฟ้า มาจัดวางไว้หลังพวงมาลัยด้วย นี่ก็ไม่ธรรมดา เช่นกัน
ตรงกลาง เป็นคอนโซล แบบ 2 ชั้น มีดี ตรงจัดวางปุ่มออกมาข้างนอกจอบ้าง บางอย่างจึงใช้งานสะดวก โดยเฉพาะบรรดาสวิทช์แอร์ทั้งหลาย ให้เราหยิบจับสะดวก ใช้งานง่าย น่าจะถูกใจคนที่ชอบปรับอะไรบ่อยๆ ระหว่างการขับขี่
เรืองการโดยสารตอนหลัง , พื้นที่โดยสารเหลือเฟือ ถูกใจคนมีเพื่อนไปด้วยบ่อยๆ สิ่งเดียวที่ขัดใจ ในเรื่องการโดยสารหนีไม่พ้นทรงท้ายลาด ทำให้หลังคาไม่สูงมาก ลาดเทเตี้ยกว่าทรงซีดาน
นอกจากนี้ หลังคากระจกทั้งบ้าน นั้น วันนี้ยังบอกไม่ได้เรื่องว่ามันจะร้อนหรือไม่ ถ้าอยู่เมืองไทย ตรงนี้อาจเป็นเรื่องที่เราต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป
ลองขับ สั้นๆในสนาม …
ชมรถกันมาน่าจะเป็นรอบที่ 4 ได้แล้ว , ก็ได้เวลาลองขับขี่ เจ้า ORA 07 ในสนามแข่ง พีระ อินเตอร์เรชั่นแนล เซอร์กิต
ถ้าจะถามว่า ทำไมเลือกที่นี่ Great Wall บอกว่าต้องการให้เห็นสมรรถนะในการขับขี่ของตัวรถ
ผมจึงถามกลับว่า แสดงว่ารถคันนี้ มาแนวรถสปอร์ต คำตอบที่ได้ ” เราคือรถบ้านที่มี 408 ม้า” จนผมถึงกับนึก เดี๋ยวนะ “เราจะเอาม้าดุขนาดนี้ทำไม” แต่ก็แน่ล่ะว่า เพื่อความสนุกสนา นและเร่งรีบในบางเวลา
การทดสอบของเรา เฉกเช่นเดิม วิ่งซัดกันไป ทีละสเตชั่น เราเริ่มจากทางตรงวิ่งลองอัตราเร่งตัวรถ ทางตรงสนามพีระ ไม่ได้อยู่ในแนวระนาย ที่จริงมันอยู่ในแนวขึ้นเขาเล็กน้อย
กดเต็มออกตัว เอา408 ม้า มาใช้ พลังไม่ปล่อยหมดช่วงแรก คงด้วยกลัวคนโดยสารตกใจ ก็เลยนับ 1…2 แล้วปล่อยออกมา เมื่อพลังขับมาเต็ม ความสนุกสนานก็มาทันที คุณได้ความรู้สึกหลังติดเบาะ คนนั่ง อาจรู้สึกถึงความสนุกสนาน ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เหมี่ยวดุคันนี้เคลมอัตราเร่ง 0-100 ราวๆ 4 วินาที ถ้านั่ง2 คน ชาวจีนพาหวดให้ดูได้ราวๆ 4.2 วินาที ในทางตรงที่เราขับ ในตอนนี้
พลังขับของมัน เหลือเฟือ จนระยะจากทางโค้ง มาจนถึงก่อนสุดทางตรง ทำได้150 ก.ม./ชม. สบายๆ อย่าให้ควยามน่ารักของมันหลอกคุณว่าไม่แรง
จากดคง เรามาพิสูจน์เรื่องการควบคุม การเข้าโค้ง ตามไพลอน ที่วางแนวเป็นกึ่งวาดไลน์ในสนาม เราพบว่า อาการช่วงล่างค่อนข้างออกไปทางแข็งเล็กน้อย เวลาเข้าโค้ง จะรู้สึกถึงน้ำหนักตะวรถที่พร้อมผันแปรกลายเป็นแรงเหวี่ยง
คนขับอาจไม่ค่อยรู้สึก แต่คนนั่งหลัง รู้สึกได้แทบจะในทันทีที่รถเกิดการเอี้ยวตัวในระหว่างผ่านโค้งไป
จากโค้ง มาสถานีสลาลอม การบังคับควบคุมพวงมาลัย เจ้าแมวใหญ่ ค่อนข้างได้ความต่อเนื่อง มีความเป็นธรรมชาติในระดับที่น่าพอใจ
แต่เมื่อคุณต้องหักเลี้ยวบังคับรถเร็วๆ เช่นหักหลบกรวย แบบที่ผมทำอยู่ หรือ หักหลบเปลี่ยนเลน อย่างรวดเร็ว ด้วยความยาว 4.8 เมตร และน้ำหนักตัวรถ ทำให้การบังคับไม่ง่ายนัก
ในกรณีหักเลี้ยวแรงๆ ในความเร็ว 60-70 ก.ม./ช.ม. เท่าที่ขับได้ในสนาม ท้ายรถ จะมีออกอาการสะบัดอยู่พอตัว ถ้าพักแล้ว หักคืนช้าอาการพวงมาลัย จะเหมือนอาการท้ายไหล
ถ้าสิ่งที่ผมพูดฟังแล้วน่ากลัว ไม่ต้องเป็นห่วงไป ครับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของตัวรถ ค่อนข้างจะทำงานเร็วตอบสนองไว ช่วยเก็บอาการให้นิ่งเตะ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าผู้ขับขี่จะพลาท่าไปบ้าง
รอบต่อมา ผมลองขับ โหมด สปอร์ต ดูบ้าง ถ้าจะถามว่ามันต่างอะไร ในคามรู้สึก คือพวงมาลัยที่เป็นธรรมชาตริมากกว่า ตอบสนองเร็วขึ้น อัตราเร่ง และ การตอบสนองของมอเตอร์หลังเหมือนเดิม
เมื่อขับเร็วขึ้นการตอบสนองของตัวรถ ค่อนข้างจะออกแนวอุ้ยอ้าย ด้วยน้ำหนักตัวรถ และความยาว ถ้าคุณเผลอเบรกแรง แล้ววาดพวงมาลัย จะอาการท้ายออก พบได้บ่อยมาก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ด้วยการมีมอเตอร์ 2 ตัว จะทำงานอย่างรวดเร็วในการตอบสนองไม่รถ ออกจนผู้ขับขี่ต้องดึงพวงมาลัย
สิ่งที่ต้องทำมีเพียงบังคับทิศทางที่จะไป แล้วเดินคันเร่งต่อไปเลย รถจะแก้สถานการณ์ให้คุณเอง ทำให้ ถ้าจะพูด มันเป็นที่ซิ่งได้ค่อนข้างง่ายอยู่ในระดับหนึ่งเหมือนกัน
ถ้าจะบอกว่าอะไรดีที่สุดในรถคันนี้ ผมยกตำแหน่งให้ยาง Micjealin Pilot Sport EV ผู้จัดการทุกอย่าง เกาะสนามหนึบเป็นตุ๊กแก แม้ว่าจะมีเสียงดังสักหน่อย หากเมื่อแลกกับสมรรถนะการขับขี่ ก็จัดว่าเข้าท่าลงตัวเหมือนกัน
อย่างไรก็ดี เมื่อเราขับในโหมด Sport+ โหมดนี้เป็นโหมดที่วางตำแหน่งปุ่มติ่งปรับโหมดไว้ที่พวงมาลัย ผมกับพบ รถทำผมเสียจังหวะหลายครั้ง
อาการนี่ จะเกิดขึ้นเมื่อเราขับแล้วเบรก โดยในระหว่างเบรก เราอาจใช้พวงมาลัย เพื่อเตรียมเข้าโค้ง แต่อยู่ดีๆ น้ำหนักเบรกที่เรากดไป มันเปลี่ยน แป้นเบรก ยุบตัวลงมากกว่าปกติ ทำให้เรามีอาการเหมือนเบรกแรง ทั้งที่ เราไม่ได้ตั้งใจจะเบรกแรง
อาากรนี้ ถ้าคนขับที่ไม่ได้มีประสบการณ์ น่าจะตกใจ คนนั่ง น่าจะมีอาการเหวอ ต่อให้รถเอาอยู่ก็ตามที
ตลอดการขับในสนามด้วยโหมดนี้ ผมเจอหลายรอบ จนต้องสอบถามกับทาง GWM ก็ได้คำตอบว่า รถคิดว่าในตอนนั้น เป็นจังหวะที่เราน่าจะกำลังลื่นไถล (ทั้งๆที่ไม่ได้ลื่นไถล) ระบบเลยตัดการหน่วงของมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ Kers ทำให้ระบบเบรกทำงานประสิทธิภาพเต็มที่ เพื่อยับยั้งสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
อาการนี้ คุณจะเจอบนถนนหรือไม่ ถ้าเจอจริงๆ ก็น่าจะน้อยมาก ถึงขั้นอาจไม่เจอเลย หรือ อยู่ในจุดที่เสี่ยงจริงๆ เวลาขับเร็ว ผมจึงแนะนำว่า ควรไปปรับปรุง เพราะลูกค้าอาจจะตกใจ เวลาเกิดอาการนี้ขึ้น และ มันทำให้คนขับเสียจังหวะ การควบคุม
หลังจากลองขับเจ้า ORA 07 Performance ส่วนตัว ผมว่า มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกมาเน้นสมรรถนะในระดับหนึ่ง ให้ความสนุกสนานมั่นใจพอตัว หากสิ่งที่จะทำให้เราต้องมอง คือ หน้าตาที่ดูสปอร์ตแอบแบ๊วของมัน อาจจะไม่ดึงดูดใครหลายคน ทั้งที่สมรรถนะของมัน แทบจะพูดว่าดีไม่แพ้คู่แข่ง