ก่อนหน้านี้แอดมินบอลได้ทดสอบ 2019 Subaru Forester ไปทำรีวิวเต็มทุกแง่มุมให้ผู้อ่านได้รับรู้ ส่วนแอดมินนัทเองมีโอกาสได้ไปทดสอบเอสยูวีเจ้าป่าคันนี้ในแบบรถครอบครัว
Subaru Forester มีชื่อเล่นที่คนรู้จักไม่กี่นาม หนึ่งในนั้นคือฉายา ‘เจ้าป่า’ หรือจะเป็น ‘ฟอสซี่’ แต่ไม่ว่าจะใช้ชื่อไหนเจ้าฟอเรสเตอร์โฉมปัจจุบันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ซูบารุสามารถสร้างสรรค์รถเอสยูวีเพื่อครอบครัวได้ดีไม่แพ้ใครหน้า เพราะจากการที่เราได้ทดลองขับพร้อมกับผู้โดยสารอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน นั่นบอกอะไรเราได้หลายอย่าง…
แฟนท่านใดที่ได้อ่านทัศนคติของแอดฯ บอลที่มีต่อฟอสซี่ไปแล้ว วันนี้ลองมาดูประเด็นที่ยังขาดเรื่องอากัปกิริยาของฟอสซี่ ที่แสดงออกมาเมื่อต้องทำตัวเป็นยานพาหนะสำหรับครอบครัว เพราะการทดสอบที่จัดขึ้นโดยซูบารุ ประเทศไทย เขาพยายามให้เราเหล่านักข่าวเข้าใจถึงจุดประสงค์ในการออกแบบรถคันนี้ ซึ่งก่อนหน้าที่เราได้ลองขับก็รู้สึกว่าฟอสซี่ใหม่จะต้องสืบทอดความมั่นคงมั่นใจเหมือนกับรถโฉมก่อน ทว่ามุมมองหลังลองขับแล้วกลับไปเปลี่ยนสิ้นเชิง
Forester For Family is Good Move
ย้อนไปราว 3 สัปดาห์ตอนที่แอดฯ บอลเอา Subaru Forester โฉมล่าสุดมาขับทดสอบเพื่อทำฟูลรีวิวให้ผู้อ่านได้มีข้อมูลประกอบการเลือกซื้อ ความรู้สึกแรกที่ได้ลองขับจากมุมมองของแอดฯ นัท (ผู้เขียน) มันเป็นอารมณ์ที่ต่างจากรถโมเดลก่อนตั้งแต่ก้าวขึ้นไปนั่ง เนื่องจากฟอสซี่ตัวใหม่นั้นมีบรรยากาศที่เป็นมิตรกับบุคคลทุกเพศวัย
หากให้อธิบายก็คงเป็นการออกแบบตัวรถให้มีความสูงโปร่งมากกว่าเดิม กระจกรอบคันมีความใหญ่โตช่วยให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจน แถมช่วยให้ห้องโดยสารมีความสว่างนั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัด แล้วด้วยความสูงจากพื้นถึงตัวรถที่มากถึง 220 มิลลิเมตร ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่กับผู้โดยสารมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ไกลชัดเจน รวมถึงสามารถพารถลัดเลาะไปบนทางทุรกันดารได้ดีน้องๆ รถพีพีวีพื้นฐานกระบะเลยทีเดียว
เอาล่ะประเด็นเรื่องทางเทคนิคเราไม่ขอพูดถึงมากมาย มาดูตรงความดีงามเมื่อฟอสซี่ต้องรับหน้าที่พาผู้ชายร่างใหญ่ 3 คน (น่าจะหนักเกิน 80 กก.) อีกคนเป็นชายร่างผอมหนักไม่เกิน 70 กก. ประเมินด้วยสายตา ซึ่งเปรียบได้กับการใช้รถเพื่อพาครอบครัวไปเที่ยวช่วงวันหยุดที่มีคนนั่ง 4-5 คน พร้อมสัมภาระที่อาจมีกระเป๋าเสื้อผ้า
เราได้รับหน้าที่เป็นพลขับอยู่ 2 ช่วงใหญ่ เริ่มจากโชว์รูมซูบารุริมถนนเสรีไทยมุ่งหน้าชายหาดบางแสนเป็นระยะทางกว่า 86 กม. กับขากลับจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไปยังโชว์รูมจุดเริ่มต้น ซึ่งจะขอถ่ายทอดประสบการณ์ขับขี่ในช่วงนี้เน้นไปที่เรื่องการบังคับควบคุมกับความสบายเป็นหลัก
เมื่อหมุนควงมาลัยฟอสซี่สัมผัสได้ว่าเบาคล่องมือกว่ารถโฉมก่อน ระยะหักพวงมาลัยสุดทำได้แคบไม่แพ้รถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ค ทั้งหมดช่วยให้แม้แต่คุณแม่บ้านเอวบางร่างน้อย หรือพ่อบ้านต้องทำงานทั้งวันแล้วรีบบึ่งรถไปรับลูกเลิกเรียน เหล่านี้ล้วนสร้างความผ่อนคลายได้อย่างน่าประทับใจ
ต่อมาเรื่องของช่วงล่างที่ทางซูบารุได้พูดแบบมั่นใจมากว่า ฟอเรสเตอร์ใหม่มีโครงสร้างที่แข็งแกร่งขึ้นอันมีนามเรียก Subaru Global Platform (SGP) ซึ่งการตั้งค่าระบบกันสะเทือนถือว่ามีความแปลกใหม่ต่างจากรถโฉมก่อนชัดเจน ตอนแรกที่ขับรถออกมาเราไม่คิดว่านี่คือฟอสซี่ หากแต่คิดไปถึงรถเอสยูวีสำหรับครอบครัวยี่ห้ออื่นๆ ที่มักมีการตอบสนองประมาณนี้ในช่วงความเร็วต่ำบนทางตรง
กล่าวคือฟอสซี่ใหม่มาพร้อมช่วงล่างที่ซับแรงสะเทือนแบบเก็บทุกรายละเอียด ทั้งรอยต่อถนน ฝาท่อระบายน้ำ หรือพื้นถนนอันขรุขระ เราแอบคิดว่าซูบารุใจกล้ามากที่พลิกแนวทางที่เคยมีมาตลอดได้อย่างไรกัน บางจังหวะที่เจอเนินคอสะพานแล้ววิ่งผ่านด้วยความเร็วราว 60-80 กม./ชม. มันออกอาการนุ่มย้วย แต่ยังสามารถเก็บจังหวะรีบาวน์ของโช้คได้พอเหมาะพอดี ไม่ได้โดดเด้งต่อเหมือนกับรถพีพีวีบางรุ่น
ผ่านพ้นช่วงการจราจรในเมืองก็มาวิ่งอยู่บนทางด่วนมอเตอร์เวย์ สิ่งแรกที่แอบกังวลไม่ได้คือขนาดวิ่งเร็วไม่มากฟอสซี่มันยังออกแนวนุ่มย้วยเลย แล้วถ้าใช้ความเร็วเดินทาง 100-120 กม./ชม. หรือเร็วกว่านั้นมันจะไม่โยนยวบไปมาเลยหรือ แต่ผลที่ได้กลับทำให้เราประทับใจ…
อย่างแรกขณะวิ่งบนทางตรงด้วยความเร็วเดินทาง ตัวรถจะนิ่งไม่มีอาการเป๋ซ้ายขวา ตอนที่กระโดดผ่านคอสะพานตัวรถจะให้ความรู้สึกนุ่ม พอผ่านลงมาตัวโช้คสามารถเก็บอาการได้รวดเร็วพอดี ไม่ได้ปล่อยให้ตัวรถเด้งกระดอนต่อ ซึ่งจากที่ถามคนนั่งหลัง 2 ท่านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟอสซี่นั่งสบายนะเห็นนุ่มๆ แบบนี้ไม่ได้รู้สึกมึนหัวอะไรเลย
ประเด็นต่อมากำลังเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบนอน ให้กำลัง 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT (สายพานทำจากเหล็ก) ส่งกำลังสี่ล้อแบบ Symmertical AWD ที่หลายคนบอกมันอืดแน่ๆ ซึ่งความจริงมันก็อืดนั่นแหละ แต่ไม่ได้ออกแนวกดแล้วรถไม่พุ่ง หรือแซงรถคันหน้าแบบคลานอันนี้ก็เกินไป
วิธีขับฟอสซี่กรณีที่มีคนนั่งเต็มคันให้กระฉับกระเฉงสูงสุดคือ กดปุ่มปรับโหมดบริเวณพวงมาลัยด้านขวา จาก I ไปยัง S เพียงเท่านั้นรูปแบบเกียร์ที่พยายามตัดอัตราลดต่ำกับรอบเครื่องให้ประหยัดสูงสุด จะกลับกลายเป็นตอบสนองได้ทันเท้าลากรอบสูงขึ้นพอควร หากคุณเป็นประเภทชอบขับรถนุ่มนวลแต่ก็อยากให้รถพุ่งทันใจ
ขอบอกว่าโหมด S ตอบโจทย์ได้ดีแน่นอน จากการลองขับแล้วพบว่าการเร่งแซงในจังหวะต่างๆ แม้ยามคันขันจำเป็นต้องใช้สกิลมุดเสียหน่อย ก็บอกได้เต็มปากว่าสนุกสนานมั่นใจไม่แพ้คู่แข่งหน้าไหน กล่าวคือกำลังรีดออกมาได้เหมาะสมไม่ขาดไม่เกิน บวกกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันลือชื่อของค่ายซูบี้ คุณพ่อบ้านที่ต้องทำเวลาซักหน่อยก็สามารถไปได้เร็วโดยที่ไม่โดนศรีภรรยาหรือลูกตัวน้อยมองค้อน (ผู้โดยสารที่นั่งไปกับเราหลับไม่ก็เล่นมือถือ แถมยังบอกว่าขับซิ่งขนาดนี้ยังไม่รู้สึกโคลงหรือหวิวใจเลยเนอะ)
อย่างไรก็ตาม หากคุณซีเรียสเรื่องอัตราประหยัดน้ำมัน หรือเป็นคนไม่ชอบขับรถเร็ว โหมด I ก็เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน กรณีอยากแซงรถคันหน้าให้ทันใจก็ควรเหยียบคันเร่งจมมิด อย่ากลัวว่าเกียร์จะพังเพราะไม่อย่างนั้นคุณจะรู้สึกหงุดหงิดไม่มั่นใจกับการแซงแทนที่จะสบายใจ
จุดหนึ่งที่ขอชมเชยคือประเด็นการเก็บเสียงรบกวน โดยเฉพาะเสียงจากใต้ท้องรถที่แม้ฟอสซี่ใหม่จะยกสูงขึ้นมา ทว่าเสียงลมไหลผ่านใต้รถกับเสียงยางบดถนน ยังเก็บเสียงได้เงียบได้ยินเบามากเมื่อขับเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ส่วนเสียงรบกวนจากลมนั้นก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน ผู้โดยสารภายในคุยกันได้ปกติแบบไม่ต้องเร่งเสียงพูดขึ้นตามความเร็ว
ทุกสิ่งที่กล่าวมานี่แหละคือสิ่งที่วิศวกรของซูบารุอยากให้ลูกค้าทั้งใหม่และเก่าได้เข้าใจ ว่าพวกเขาสร้างฟอสซี่ ให้กลายเป็นรถครอบครัวที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ครบถ้วน บางวันใช้งานคนเดียวก็ทำได้คล่องแคล่วไม่เทอะทะ วันไหนจะเอารถพาคุณภรรยากับลูกๆ ไปเที่ยวทางไกลก็ทำได้มั่นใจแถมยังสบายขึ้นกว่ารถโฉมก่อน
แล้วกรณีที่นัดกับกลุ่มเพื่อนฝูงไว้ว่า เฮ้ย!! สุดสัปดาห์เราไปแค้มป์ปิ้งกันในป่าดีกว่า โจทย์นี้เจ้าฟอสซี่ก็ทำได้ดีมาก เพราะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่ดีเด่น กับโหมดเพื่อการลุยโดยเฉพาะอย่าง X-Mode และที่สำคัญต้องขอบคุณระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 220 มิลลิเมตร เหล่านี้ทำให้ฟอเรสเตอร์เป็นรถเอสยูวีเพื่อครอบครัว และเพื่อทุกคนได้ดีมากจริงๆ
ก่อนจากกันขอทิ้งท้ายด้วยราคาจำหน่ายของ 2019 Subaru Forester ที่ทั้งสิ้น 3 รุ่นย่อย ได้แก่
1. Subaru Forester 2.0i-L ราคารวมแพ็คเกจ 1,330,000 บาท
2. Subaru Forester 2.0i-S ราคารวมแพ็คเกจ 1,380,000 บาท
3. Subaru Forester 2.0i-S Eyesight ราคารวมแพ็คเกจ 1,450,000 บาท (ส่งมอบช่วงก.ค.-ส.ค. 62)
ขอขอบคุณ บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับกิจกรรมทดสอบรถ Subaru Forester
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg src=”galleries” ids=”1155″ display=”basic_thumbnail”]