Home » Subaru  Eyesight  ลองครั้งแรกความปลอดภัยค่ายดาวลูกไก่
Feature Review รีวิว

Subaru  Eyesight  ลองครั้งแรกความปลอดภัยค่ายดาวลูกไก่

ท่ามกลางการแข่งขันรถยนต์สมัยใหม่ ความปลอดภัยกลายเป็นประเด็นออพชั่นเพื่อลูกค้า ระบบประเภท Active Safety   หรือ ป้องกันการชน ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น สำหรับ   Subaru Eyesight  พวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ เพียงแค่ยังไม่เคยขายในไทยต่างหาก

Subaru  อาจถูกมองเป็นแบรนด์รถยนต์เปี่ยมด้วยสมรรถนะ เป็นรถซิ่งขวัญใจคนชนชั้นกลาง หากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา นอกจากรถที่ขับดีเลิศ ด้วยเครื่องยนต์สูบนอน   Boxer   พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ วิศวกรเมืองกุนมะ , ประเทศญี่ปุ่น ยังเจียดเวลาพัมนาระบบขับขี่ปลอดภัย จนวันนี้เหมือนคุณมีเพื่อนเดินทางไปด้วยในทุกเส้นทาง

ระบบ   Subaru  Eyesight  อาจเพิ่งเป็นที่รู้จักของชาวไทย หากมันกลับขายในตลาดชั้นนำ  ญี่ปุ่น และ อเมริกา มายาวนาน เรื่งราวของที่สุดความปลอดภัยของค่ายนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 1989 ทางซูบารุ เริ่มพัฒนาระบบกล้อง  stereo  ติดในรถยนต์ แต่กว่าจะพร้อมใช้งานก็ต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 จึงสำเร็จในการพัฒนาระบบช่วยเหลือในการขับขี่ในเบื้องต้น  Active Driving Assistance (ADA)

Subaru Eyesight test Drive

ในระยะแรกทางซูบารุใช้ระบบกล้องผสานกับการทำงานของเรดาห์ จนกระทั้งปี 2008 ประสบความสำเร็จในการสร้างฟังชั่นหลากหลาย โดยใช้กล้องในการทำงานเป็นสำคัญ ความสำเร็จครั้งนี้ทางซูบารุจึงตั้งชื่อระบบว่า  “Eyesight” และเริ่มพัฒนาต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันมาถึงเวอร์ชั่นที่ 3 

ระบบนี้แนะนำลงในรถยนต์   Subaru  Forester 2.0 i-S eyesight   เป็นรุ่นแรกในบ้านเรา ค่าตัวแตกต่างจากรถรุ่น  i-S  ปกติ อยู่ประมาณ 7 หมื่นบาท แม้นว่าระบบนี้จะไม่เคยขายในไทย น้อยคนจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมัน แต่ในต่างประเทศ ทาง   IIHS   ประเทศอเมริกายกย่องให้ระบบนี้ลดอุบัติเหตุการชนท้ายได้ถึงร้อยละ 85 และลดอุบัติเหตุชนคนเดินเท้าได้ร้อยละ 35 บริษัทประกันบางบริษัทในอเมริกา ยินดีลดค่าเบี้ยประกันให้กับรถที่ใช้ระบบความปลอดภัยนี้ มันชี้ว่าประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยนี้ไม่ได้เป็นสองรองใคร

Subaru Eyesight test Drive

ก่อนจะไปลองขับ ต้องอธิบายก่อนว่า ระบบ   Eyesight   แตกต่างจากระบบความปลอดภัยในรถยนต์ยี่ห้ออื่นตรงการเลือกใช้กล้อง 2 ตัว ติดตั้งไว้ด้านบนกระจกบังลมหน้า มีทั้งทางด้านซ้ายและทางด้านขวา คล้ายกับมีสายตาอีกคู่ช่วยดูแลคุณ นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า   “Eyesight”

ในประเทศไทย ระบบ Eyesight  มาครบเป็นแพ็คเกจช่วยความปลอดภัยได้แก่ ระบบเตือนการหลุดเลน ,ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ,ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะแบบแปรผัน และเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว

ก่อนขึ้นลองขับ   Subaru  สาธิตระบบแรก เรกฉุกเฉินอัตโนมัติให้เราดูกันเป็นน้ำจิ้ม ระบบนี้ทำงานตั้ง 1 ก.ม./ช.ม. -200 ก.ม../ช.ม. ระบบสามารถตรวจจับวัตถุได้ 3-4 แบบ เท่าที่เคยคุยกับวิศวกรญี่ปุ่น ได้แก่ 1.รถยนต์ (ทุกขนาด) 2.คนเดินเท้า 3.สัตว์ใหญ่ อาทิ เช่น วัว และ 4 คนปั่นจักรยาน

Subaru Eyesight test Drive

ระบบจะตรวจสอบระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุและความเร็วที่รถขับอยู่  ในกรณีที่รถไม่เปลี่ยนทิศทางละมีแนวโน้มจะพุ่งชนวัตถุ ระบบจะทำการเบรกให้อัตโนมัติจนหยุดสนิท พร้อมแจ้งเตือนการทำงาน

ได้เวลาลองระบบอื่น สิ่งที่น่าสนใจใน   Subaru Eyesight   อีกอย่าง คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันอัจฉริยะ พร้อมแจ้งเตือนรถคันหน้าออกตัว ระบบลักษณะนี้ดั้งเดิมทีติดตั้งในรถยนต์ราคา 1.5 ล้านบาทขึ้นไป ทำให้   Subaru  Forester 2.0 i-S eyesight   เรียกว่าเป็นรถรุ่นแรกทลายพิกัดดังกล่าว

แนวทางการใช้ระบบนี้คล้ายกับระบบ   Cruise Control   ทั่วไป คือ เปิดระบบใช้ความเร็วเซทค่า ในช่วงความเร็วต่ำค่าเริ่มต้นเมื่อเซทระบบจะอยู่ที่ 30 ก.ม./ช.ม. เหมาะมากกับการใช้งานขับท่ามกลางกรุงเทพมหานครรถติด จะได้ไม่ต้องมานั่งเร่งๆ เบรกๆ อีกต่อไป

Subaru Eyesight test Drive

เมื่อระบบทำงาน คุณสามารถเซทจังหวะระยะห่างได้ตามต้องการ ระบบจะใช้ความเร็วตามที่กำหนด พร้อมตรวจสอบว่ามีรถยนต์คันข้างหน้าหรือไม่ เพื่อปรับการใช้ความเร็วให้เป็นไปตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ 

ในบางกรณีระบบอาจจะไม่พบรถคันหน้า เช่นในจังหวะเข้าโค้งแคบ อันมาจากข้อจำกัดมุมมองกล้อง และทิศทางรถที่เปลี่ยนไปอย่างรวดแร็ว แต่ในโค้งกว้างเท่าที่ขับก็ไม่มีปัญหาในการทำงาน สามารถตรวจพบรถคันหน้าได้ตามปกติ

Subaru Eyesight test Drive

เมื่อรถคันหน้าเบรกหยุด ระบบก็จะทำการเบรกจนจอดสนิท คล้ายกับของรถยนต์จากค่ายสวีเดน แต่เมื่อจอดแล้วรถคันหน้าออกตัวภายในเวลา 2 วินาที รถจะออกตัวตามทันที ในกรณีจอดนานกว่า 2 วินาที สามารถรีเซ็ทการทำงานของระบบบนพวงมาลัยระบบก็จะทำงานต่ออัตโนมัติ

สิ่งที่น่าสนใจในระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันอัจฉริยะ คือ ระบบสามารถทำงานร่วมกับระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ เพื่อให้ความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ และมีประสิทธิภาพในการเบรก (นิ่มนวล) มากขึ้น ด้วย

อย่างไรก็ดี นอกจากระบบทั้ง 2 ที่เราได้มีโอกาสทดลองในวันนี้แล้ว   Subaru Eyesight   ยังมีระบบช่วยเตือนป้องกันการหลุดเลนในระหว่างการขับขี่ รวมถึงยังมีระบบเตือนมุมบอกในระหว่างการขับขี่ที่กระจกมองข้าง หรือ   blind spot Monitoring   อีกด้วย แถมยังให้กล้องมองข้างมาเป็นของแถมออพชั่นเสริมอีกหนึ่งอย่าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

Subaru Eyesight test Drive

 

แต่มีระบบแล้วก็อย่าวางใจจนประมาทเลินเล่อ ระบบนี้มีข้อจำกัดในการทำงานบางประการ โดยเฉพาะในภาวะสภาพอากาศไม่เป็นใจ เช่น ฝนตกหนัก จนมองไม่เห็นทางข้างหน้า , หมอกลงจัดจนทัศนวิสัยมีข้อจำกัดในการมองเห็น  เป็นต้น

นอกจากนี้ด้วยการวางแนวทางความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด ระหว่างการทดสอบ เราพบว่า ระบบจะยกเลิกการทำงานอัตโนมัติ ในกรณีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติทำงานครบ 3 ครั้ง ต่อการสตาร์ทรถ 1 ครั้ง เนื่องจากทางทีมวิศวกรมองว่า  หากระบบต้องทำงานถึง 3 ครั้งภายในการขับขี่ครั้งเดียว อาจหมายความว่าผู้ขับขี่ไม่พร้อมในการขับรถ ควรจอดพักไม่ควรขับรถ ซึ่งนั่นแทนด้วยการต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ทการทำงานขึ้นมาใหม่นั่นเอง

ถามว่าคุ้มไหม  ความปลอดภัยค่ายซูบารุ วันนี้ลองเพียงสั้นๆ และเป็นการลองในสนามไม่ใช้ในสภาพถนนจริง ต้องเรียนว่ายังไม่สามารถตอบอะไรได้มากมายนัก แต่ในเบื้องต้นจากประสบการณ์ที่ทดลองมาก่อนหน้านี้ในต่างประเทศ รวมถึงในวันนี้ การทำงานของระบบถือว่าตอบสนองไวในระดับที่น่าพอใจ มันดีพอที่จะจ่ายเพิ่มอีก 70,000 บาท ซื้อความปลอดภัยในการขับขี่

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.