กลายเป็นประเด็นร้อนเปิดเดือนกรกฏาคมกันเลยทันที กั[ข่าวลือที่ว่า Nissan อาจนำ X-Trail กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้ง แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆน่ะหรือ ?

จากข้อมูลที่ปลิวว่อนโลกโซเชียลมีเดีย ในวันแรกของเดือนกรกฏาคม ระบุว่า หลังจากที่ทาง Nissan Motors ประเทศไทย ได้ทำการวางจำหน่าย Nissan Serena e-Power ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินปลายปีนี้

หลังจากนั้นไม่นานนักทางผู้บริหารก็จะมีการเปิดตัว Nissan X-Trail รุ่นใหม่ตามมา โดยคาดว่าจะเป็นรุ่นที่ใช้ขุมกำลัง e-Power ซึ่งเป็นการผสานกำลังระหว่าง เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เบนซิน VC-Turbo 3 สูบ KR15DDT ให้กำลังถึง 144 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ซึ่งมีหน้าที่ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ และปั่นไฟให้มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น BM46 AC3 Synchronous Motor ให้พลัง 204 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทาง Nissan ต้องตัดสินใจนำ Nissan X-Trail กลับมาทำตลาดในบ้านเราอีกครั้ง

หลักๆแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่า Nissan Terra รถยนต์อเนกประสงค์เพียงหนึ่งเดียวของแบรนด์ที่มีการทำตลาดในประเทศไทยตอนนี้ อาจต้องอำลา ตลาดไปในอนาคต

แม้มันอาจจะใกล้กำหนดการปรับโฉมใหญ่ตามคู่แฝดอย่าง Nissan Navara ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่ด้วยยอดขายของ Terra ที่ไม่กระเตื้องเลย ไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยเอง (หรือในประเทศอื่นๆโซนเอเชียแปซิฟิคก็ด้วย)

จึงทำให้ทางค่ายอาจตัดสินใจไม่ทำตลาดมันต่อ ตามที่เคยมีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ และต้องหารถยนต์อเนกประสงค์รุ่นอื่นมาทำตลาดอุดช่องว่างนี้แทน ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Nissan X-Trail ที่เคยหลุดออกจากประเทศไทยของเราไปด้วยการแทนที่ของ Nissan Terra มาตั้งแต่ปี 2018 นั่นเอง

แต่จากข้อมูลวงในที่เราได้รับมา บวกกับการวิเคราะห์ของทีมงาน Ridebuster กลับมองว่า Nissan X-Trail ที่จะถูกนำมาทำตลาดในประเทศไทยของเรานั้น ยังไม่ใช่ตัวรถเจเนอเรชันปัจจุบันที่ทุกคนเห็นกันอยู่บนโลกออนไลน์ หรือทำตลาดอยู่ในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และอื่นๆอยู่ตอนนี้

เนื่องจากตัวรถ X-Trail (หรือ Nissan Rouge ในประเทศสหรัฐอเมริกา) เจเนอเรชันล่าสุด มีการเปิดตัวและลุยตลาดโลกมาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งหากนับเวลามาจนถึงตอนนี้ ก็เท่ากับว่ามันถูกทำตลาดมาแล้วกว่าครึ่งอายุการตลาด (โดยปกติรถยนต์ของ Nissan จะมีอายุการทำตลาดต่อรุ่นที่ราวๆ 6-7 ปี)

ไม่เพียงเท่านั้น, อันที่จริงตัวรถยังได้รับการปรับโฉมแบบ Minor Change ไปแล้วตั้งแต่ปีปลายปี 2023 ที่ผ่านมา ดังนั้นหากมันจะต้องถูกทำมาขายในบ้านเราช่วงปี 2025 ก็เท่ากับว่าเป็นแผนการธุรกิจ ที่เล่นตอน “ตลาดวาย” ลูกค้าอาจลังเลที่จะซื้อรถ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลัวตกรุ่นไว หรือมองว่ารถมันมีโมเดลที่เก่าเกินไปแล้ว และทำให้ยอดขายไม่ขยับในแบบที่ควรจะเป็นอยู่ดี

นอกจากนี้ ถ้าย้อนกลับไปตามข้อมูลที่เรามี ถึงแผนงาน Nissan Serena ทางแบรนด์จะต้อง เตรียมการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ก่อนในประเทศไทย โดยเฉพาะรุ่น e-Power ที่ต้องนำเข้ามาประกอบและ ผลิตในบ้านเรา อย่างแน่นอน

เรายังไม่นับ โมเดล อีพาวเวอร์อื่น ซึ่งอาจจะเป็นรถยนต์ อย่าง Nissan Almera ที่ตกเป็นกระแสข่าวลือ มายาวนานแล้วว่า จะมีให้ลูกค้าชาวไทย ได้จับจอง รวมถึง เรายังมีคิว ของ Nissan Navara จ่อ รอคอย เปิดตัว อีกในปีนี้ ไม่ก็ปีหน้า

ดังนั้น เมื่อกลับมาที่พระเอกของเราที่พูดถึงในวันนี้ Nissan X-Trail e-Power ที่กำลังจะกลับมาบู้ในเมืองไทยอีกครั้ง เราอาจจะได้เห็นเร็วที่สุด คือ ใน 3-4 ปี ข้างหน้า

ถ้านับว่า Nissan เปิดโมเดลใหม่ ปีละรุ่น ในขณะที่ตัวตายตัวแทนอย่าง Nissan Terra ผู้ขายมาตั้งแต่ปี 2018 ก็จะสิ้น อายุขัยพอดีในช่วงเวลาเดียวกัน

ก็จะเป็นเวลาสมเหตุสมผล พอดี กับที่ Nissan ควรจะมีรถใหม่ หน้าตาใหม่ โฉมใหม่ มาปะอุด ช่องว่างทางการตลาด พอดิบพอดี

แต่บางคนอาจมองว่า เป็นไปได้ไหม ที่จะเหมือน Nissan Kicks ใหม่ อยู่ดีๆ ก็โผล่มา…

ในกรณี Kicks ในมุมมอง ของเรา มันมีหลายข้อเกื้อหนุนกัน ทั้งการทำตลาดในญี่ปุ่น ,​การส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ รวมถึง การดันยอดขาย ของนิสสัน ที่ต้องหา ตัวแทน รถครอสโอเวอร์เล็กที่เคยขายดี และ เป็นจุดขายของแบรนด์ ตัวทำเงินมาก่อนหน้านี้

Nissan X-Trail คนละเรื่องเดียวกัน มันคือ การมาทวงครอสโอเวอร์ ขนาดกลาง ที่ Nissan เคยโดดเด่น ด้วยรถรุ่นใหม่มากมาย ที่จ่อคิว หวังจะพาแบรนด์ กลับมาอยู่ในใจคนไทย อาจต้องใช้เวลา และชั่วโมงบินสักหน่อย

เมื่อไล่เรียง จากบรรดารถที่จะเปิดตัว ออกมาทำตลาดในอนาคต ที่มีรายชื่อยาวเป็นหางว่าว ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ Nissan X-Trail จะไม่ได้มาในเร็ววันแบบที่เราคาดคิด หรือ ตกเป็นข่าว รับต้นเดือนกรกฏาคม โดยเฉพาะถ้ามันจะประกอบไทย

ด้วยกรอบเวลา 3-4 ปี จาก ในวันนี้ที่เราเขียน เรื่องนี้ขึ้นมา ดูจากเวลาในปัจจุบัน ความเป็นไปได้ จึงไปอยู่ที่ Nissan X-Trail รุ่นถัดไป ที่จะมายืนหยัด ต่อสู้ ในตลาดครอสโอเวอร์

และ ถ้ามองดีๆ จะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ด้วยวันนี้ คู่แข่ง Honda CR-V ยังกล้าแกร่ง และสดใหม่ การเอารถปัจจุบัน เร่งเข้ามาขาย จะพลาดพลั้งได้ แต่ อีก 3 ปี ขุนพลวันนี้อาจจะอ่อนแรง และเป็นแนวทาง ให้ Nissan เปิดเกมจูงใจคนไทยได้อีกครั้ง เหมือนตอนงวดที่แล้ว

Nissan เลือกเปิดตัว Nissan X-trail ในปี 2014 ช่วงที่ CR-V ราชา ครอสโอเวอร์ กำลังอ่อนล้า

สำคัญที่สุด พวกเขายังมีเวลาทำการบ้านอีกหน่อย ตามภาษิตไทย ว่า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ไม่ว่า ออพชั่น ระบบขับเคลื่อน ไปจนถึง ความต้องการของคนไทย เป็นการบ้าน ให้ วิศวกรที่โยโกฮาม่าได้คิดกัน

ส่วนในฝั่ง Nissan Terra เดาเกม ก็จะมีการลากขายต่อไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างทางการตลาด หรือจะตัดจบไปเลย หลังการปรับโฉมใหญ่ของคู่แฝดอย่าง Navara เพราะให้ลากขายต่อก็มีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องรอติดตามดูกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่